ในโลกของโปรแกรมมิ่ง การจัดเรียงข้อมูลเป็นสิ่งที่มีความสำคัญอย่างยิ่ง เมื่อพูดถึงโครงสร้างข้อมูลที่ใช้ในการจัดเรียงข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพ ไม่มีอะไรที่ทันสมัยและทันสมัยมากกว่า Linked List อันได้แรงบันดาลใจมาจากการใช้การเชื่อมโยงข้อมูลระหว่างกันด้วยพอยน์เตอร์ในการเขียนโปรแกรมทางคอมพิวเตอร์
ในบทความนี้เราจะมาทำความรู้จักกับ Linked List อย่างละเอียด เริ่มต้นจากการทราบความหมายและวัตถุประสงค์ของ Linked List ไปจนถึงวิธีการใช้งานและการประยุกต์ใช้ในโปรแกรมแบบอเนกประสงค์
Linked List หรือลิ้งค์ลิสต์ เป็นโครงสร้างข้อมูลที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูลที่เป็นลำดับ โดยปกติแล้วมักจะใช้ในกรณีที่ไม่ทราบจำนวนข้อมูลที่จะจัดเก็บล่วงหน้า หรือไม่ต้องการให้ข้อมูลอยู่ในตำแหน่งคงที่ ซึ่งทำให้ Linked List เป็นวิธีการจัดเก็บข้อมูลที่ยืดหยุ่นและมีประสิทธิภาพในการเพิ่ม ลบ หรือค้นหาข้อมูล
Linked List ประกอบด้วยโนด (Node) ที่เชื่อมกันเป็นเชื่อมโยง โนดแต่ละตัวประกอบด้วยข้อมูลเอง พร้อมกับพอยน์เตอร์ที่ชี้ไปยังโนดถัดไป หรือโนดก่อนหน้า ในกรณีของ Double Linked List โครงสร้างข้อมูลแบบนี้ยังมีการเพิ่มเติมพอยน์เตอร์ที่ชี้ไปยังโนดก่อนหน้าด้วย
เราสามารถมอง Linked List เป็นเส้นโดยสีเขียวที่เชื่อมโยงโนดด้วยกัน และแต่ละโนดเป็นกล่องที่บรรจุข้อมูลและพอยน์เตอร์
เมื่อเทียบกับ Array ซึ่งเป็นโครงสร้างข้อมูลอีกแบบหนึ่งที่ใช้ในการจัดเก็บข้อมูล จะพบว่า Linked List มีข้อดีคือสามารถเพิ่มหรือลบข้อมูลได้โดยไม่ต้องทำการย้ายข้อมูลทั้งหมด ซึ่งทำให้การจัดเก็บข้อมูลที่มีการเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ มีประสิทธิภาพมากกว่า Array ที่ต้องทำการย้ายข้อมูลทุกครั้งที่มีการเพิ่มหรือลบข้อมูล
อย่างไรก็ตาม Linked List ก็มีข้อจำกัดคือการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่สามารถทำได้โดยตรงตามลำดับ แต่ต้องทำการค้นหาข้อมูลทุกรายการ ซึ่งทำให้การเข้าถึงข้อมูลใน Array มีประสิทธิภาพมากกว่าในบางกรณี
การใช้งาน Linked List ในโปรแกรมนั้นสามารถทำได้ทั้งในภาษา C, C++, Java, Python และภาษาโปรแกรมอื่นๆ โดยจะใช้โครงสร้างข้อมูลของภาษานั้นๆ เพื่อสร้าง Linked List ขึ้นมา
ตัวอย่างเช่นในภาษา C++ สามารถสร้างโครงสร้างข้อมูลโนด (Node) และสร้างคลาสสำหรับ Linked List อย่างง่ายได้ดังนี้
#include
using namespace std;
class Node {
public:
int data;
Node* next;
};
class LinkedList {
public:
Node* head;
LinkedList() {
head = nullptr;
}
void printList() {
Node* temp = head;
while (temp != nullptr) {
cout << temp->data << " ";
temp = temp->next;
}
}
};
int main() {
LinkedList list;
list.head = new Node();
list.head->data = 1;
list.head->next = new Node();
list.head->next->data = 2;
list.head->next->next = new Node();
list.head->next->next->data = 3;
list.printList();
return 0;
}
โค้ดด้านบนจะสร้าง Linked List ที่มีโนด 3 โนด และให้ค่าข้อมูลลำดับเลข 1, 2, และ 3 ตามลำดับ และทำการแสดงผลลำดับข้อมูลออกทางหน้าจอ
Linked List เป็นโครงสร้างข้อมูลที่มีประสิทธิภาพในการจัดเก็บข้อมูลที่ไม่ทราบจำนวนล่วงหน้า และมีการเพิ่ม ลบ หรือค้นหาข้อมูลบ่อยๆ อย่างมีประสิทธิภาพ อย่างไรก็ตามมีข้อจำกัดในการเข้าถึงข้อมูลที่ไม่สามารถทำได้โดยตรงตามลำดับ แต่ต้องทำการค้นหาข้อมูลทุกรายการ นอกจากนี้ยังต้องใช้หน่วยความจำพิเศษในการเก็บข้อมูลพอยน์เตอร์เพิ่มเติมด้วย
ในกรณีที่ต้องการจัดเก็บข้อมูลที่มีลำดับเปลี่ยนแปลงบ่อยๆ หรือไม่ทราบจำนวนข้อมูลล่วงหน้า Linked List เป็นตัวเลือกที่ดีและควรถูกพิจารณาเป็นอย่างสูง
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM