ในโลกของการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชัน ภาษา TypeScript ได้กลายเป็นที่นิยมเพิ่มขึ้นอย่างมาก เนื่องจากมันเสนอฟีเจอร์ที่เข้มงวดและเหมาะสำหรับการสร้างโปรเจ็กต์ขนาดใหญ่ที่ต้องการความแน่นอนและการบำรุงรักษาที่ง่ายดายมากยิ่งขึ้น อย่างไรก็ตาม ยังมีฟีเจอร์บางอย่างใน TypeScript ที่ผู้พัฒนาอาจยังไม่ได้ใช้ หรือยังไม่เข้าใจอย่างแท้จริง วันนี้เราจะมาทำความรู้จัก 5 ฟีเจอร์ที่น่าสนใจเหล่านี้กัน
TypeScript เสนอ Utility Types ที่ช่วยให้การเขียนคำนิยามประเภทข้อมูล (Types) ง่ายขึ้น ด้วยการเปลี่ยนแปลงโครงสร้างประเภทข้อมูลที่เรามีอยู่แล้วให้กลายเป็นรูปแบบใหม่ที่ต้องการ ตัวอย่างเช่น:
- `Partial
- `Readonly
interface Todo {
title: string;
description: string;
}
const todo: Partial = { title: "Learn TypeScript" };
const fixedTodo: Readonly = {
title: "Write TypeScript Article",
description: "Article about advanced TypeScript features"
};
Decorator ให้ความสามารถในการเพิ่ม metadata และการปรับเปลี่ยนคลาส หรือ properties/methods ที่ห้องแล็บจะนำไปใช้ ซึ่งสามารถนำไปใช้ในการออกแบบพฤติกรรม หรือการเชื่อมต่อกับ framework ต่างๆ
function Component(label: string) {
return function(target: Function) {
target.prototype.componentLabel = label;
}
}
@Component("This is a component")
class SomeComponent {
// Code for the component
}
const comp = new SomeComponent();
console.log((comp).componentLabel); // Outputs: This is a component
TypeScript ยังมีการใช้งานแอดวานซ์ไทป์อย่าง Union types, Intersection types และ Type Guards โดย Type Guards เป็นวิธีหนึ่งที่ช่วยให้ตัดสินใจได้ว่าตัวแปรนั้นๆ เป็นประเภทใด:
type Fish = { swim: () => void };
type Bird = { fly: () => void };
function move(animal: Fish | Bird) {
if ("swim" in animal) {
(animal as Fish).swim();
} else {
(animal as Bird).fly();
}
}
Mapped Types ให้เราสามารถสร้างโครงสร้างประเภทข้อมูลใหม่จากรูปแบบที่มีอยู่โดยใช้สัญลักษณ์ประเภทไดนามิก ซึ่งทำให้โค้ดที่ยืดหยุ่นและ reusable:
type Properties = 'propA' | 'propB';
type MyMappedType = {
[P in Properties]: boolean;
};
// Equivalent to:
// type MyMappedType = {
// propA: boolean;
// propB: boolean;
// }
Conditional Types ให้ความสามารถในการเลือกรูปแบบประเภทข้อมูลตามเงื่อนไข ซึ่งคล้ายกับตัวดำเนินการเงื่อนไขใน JavaScript (ternary):
type Check = T extends string ? 'Text' : 'Other';
type TypeA = Check; // 'Text'
type TypeB = Check; // 'Other'
แม้ว่า TypeScript จะมีฟีเจอร์ที่ทรงพลังมากมาย แต่บางครั้งฟีเจอร์เหล่านี้อาจทำให้เกิดความซับซ้อนและความสับสนในการออกแบบระบบได้ ผู้พัฒนาควรใช้ฟีเจอร์เหล่านี้อย่างมีสติและตระหนักถึงผลกระทบต่อทีมงาน และความสามารถในการบำรุงรักษาโค้ดในระยะยาว
สรุปแล้ว TypeScript มอบอิสระและความยืดหยุ่นในการคำนวณชนิดข้อมูลให้กับผู้พัฒนา เพื่อสร้างแอปพลิเคชันที่มีคุณภาพและปลอดภัยยิ่งขึ้นอย่างยั่งยืน หากคุณสนใจที่จะเข้าลึกไปในโลกของ TypeScript หรือมองหาที่ศึกษาและพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรม เราขอแนะนำให้คุณพิจารณาเรียนรู้เพิ่มเติมไปกับมหาวิทยาลัยของเราที่ EPT , ที่เรามุ่งมั่นจะจัดสรรความรู้และประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับนักเรียนของเราในหลักสูตรที่ออกแบบมาเพื่อตอบโจทย์การเรียนรู้ในโลกยุคใหม่.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM