RANSAC (Random Sample Consensus) เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ใช้ในการแยกข้อมูลที่ดีออกจากข้อมูลที่มี noise หรือข้อมูลที่เป็น outlier ภายในชุดข้อมูลที่ใหญ่ มันถูกใช้อย่างแพร่หลายในงานด้าน computer vision และการแยกรูปแบบ (pattern recognition) ซึ่งกล่าวได้ว่า RANSAC มีความสำคัญมากที่จะช่วยให้โมเดลคำนวณได้อย่างเที่ยงตรงแม้จะมีข้อมูลที่ไม่สมบูรณ์หรือผิดพลาดอยู่ด้วย
ถ้าพูดถึงเรื่อง Algorithm นั้น RANSAC ทำงานโดยการสุ่ม sample ข้อมูลจำนวนไม่มากเพื่อสร้างโมเดล และใช้โมเดลนั้นในการทดสอบข้อมูลทั้งหมด เพื่อดูว่าข้อมูลไหนที่เป็น inlier (ข้อมูลที่ดี) และข้อมูลไหนที่เป็น outlier (ข้อมูลที่ไม่เกี่ยวข้องหรือผิดพลาด) สิ่งที่ทำให้ RANSAC น่าสนใจคือความสามารถในการทนต่อ noise และ outlier ได้มาก
ในการใช้งานกับภาษา Golang สามารถจำลอง algorithm นี้ได้โดยการเขียนฟังก์ชันที่ทำการสุ่มข้อมูลจาก dataset และคำนวณหาโมเดล ซึ่ง Golang เป็นภาษาที่มีประสิทธิภาพสูง สามารถจัดการงานคำนวณได้อย่างรวดเร็วและมี library ที่หลากหลาย ต่อไปเป็นตัวอย่างโค้ดที่จำลองการทำงานของ RANSAC:
package main
import (
"fmt"
"math/rand"
)
// สมมติว่าเรามีโครงสร้างข้อมูลหรือแบบจำลองของเรา
type DataModel struct {
// ...
}
// อาจจะมีฟังก์ชันสำหรับสร้างโมเดลจากชุดข้อมูล
func createModel(data []DataPoint) DataModel {
// โค้ดสำหรับสร้างโมเดลจะอยู่ที่นี่
return DataModel{}
}
// กำหนด taxmarks สำหรับตรวจสอบว่าข้อมูลนั้นเป็น inlier หรือไม่
func isInlier(model DataModel, data DataPoint) bool {
// ...
return true // หรือ false ตามเงื่อนไขที่ต้องการ
}
func ransac(data []DataPoint, iterations int, threshold float64) []DataPoint {
bestInliers := []DataPoint{}
for i := 0; i < iterations; i++ {
sample := randomlySampleData(data)
possibleModel := createModel(sample)
inliers := []DataPoint{}
for _, d := range data {
if isInlier(possibleModel, d) {
inliers = append(inliers, d)
}
}
if len(inliers) > len(bestInliers) {
bestInliers = inliers
}
}
return bestInliers
}
func main() {
// โค้ดสำหรับทดลองใช้ RANSAC กับชุดข้อมูลจริง
}
Usecase ของ RANSAC ในโลกจริง ได้แก่การใช้ในการตรวจจับ features ในรูปภาพ, การปรับแต่งตำแหน่งรูปสามมิติให้ตรงกัน และใน autonomous vehicles สำหรับการตรวจหารูที่รถสามารถขับผ่านได้อย่างปลอดภัยโดยไม่สนใจสิ่งกีดขวางที่ไม่เกี่ยวข้อง
Complexity ของ RANSAC ขึ้นอยู่กับจำนวน iterations (การทำซ้ำ) และขนาดของชุดข้อมูล ปกตินิยมถือว่ามี complexity เป็นปัญหาเชิงเส้น (linear) กับจำนวนข้อมูลถ้าเราถือว่า iterations เป็นค่าคงที่
ข้อดีของ RANSAC คือการที่มันทนทานต่อ noise และ outlier ได้ดีเยี่ยม แต่ข้อเสียคือมันต้องการการตั้งค่าพารามิเตอร์เช่นจำนวนการทำซ้ำและ threshold ที่เหมาะสม ซึ่งอาจต้องใช้ความเข้าใจในปัญหาและปรับแต่งเพื่อให้ได้ผลลัพธ์ที่ดีที่สุด
หากคุณต้องการเรียนรู้การเขียนโค้ดและการใช้งานของ RANSAC หรือ algorithm อื่นๆอย่างลึกซึ้ง หรืออยากพัฒนาจากทฤษฎีสู่การประยุกต์ใช้จริง EPT (Expert-Programming-Tutor) เป็นสถาบันที่พร้อมจะช่วยเหลือคุณ เพื่อให้คุณสามารถเรียนรู้และสร้างสรรค์โปรแกรมที่มีคุณภาพด้วยมือของคุณเอง!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: ransac golang random_sample_consensus algorithm computer_vision pattern_recognition outlier_detection data_modeling inliers outliers high-performance_computing data_analysis programming data_science
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM