ในโลกที่ทุกคนสามารถเชื่อมต่อกันผ่านอินเทอร์เน็ตได้อย่างไม่มีขอบเขต ความปลอดภัยของข้อมูลจึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญมากกว่าเดิมเป็นอย่างมาก และนี่คือจุดที่ "Cryptography" หรือ "การเข้ารหัสลับ" เข้ามามีบทบาท สามารถอธิบายได้ดังนี้:
คิดเหมือนเวลาเราเขียนข้อความลับในกระดาษแล้วไม่ต้องการให้คนอื่นอ่านเข้าใจ การเข้ารหัสลับก็คือการเปลี่ยนข้อความนั้นให้กลายเป็นมีรูปร่างเป็นอีกหนึ่งชุดของตัวอักษรหรือสัญลักษณ์ที่แปลกตาที่คนทั่วไปอ่านไม่รู้เรื่อง เช่น แทนที่จะเขียนว่า "ผมรักคุณ" เราอาจเขียนเป็น "ฟหกดยากก" โดยที่มีเพียงตัวเราและคนที่เราต้องการสื่อสารเท่านั้นที่จะสามารถ "ถอดรหัส" กลับคืนไปเป็นข้อความต้นฉบับได้
ในทางการเขียนโปรแกรม, Cryptography มีความสำคัญอย่างมาก มันช่วยให้เราสามารถ:
1. ปกป้องข้อมูลผู้ใช้: ไม่ว่าจะเป็นรหัสผ่าน, ข้อมูลบัตรเครดิต, หรือข้อมูลส่วนตัว การเข้ารหัสข้อมูลเหล่านี้ช่วยป้องกันไม่ให้คนที่ไม่มีสิทธิ์เห็นข้อมูลเข้าถึงง่ายๆ
2. รักษาความลับในการสื่อสาร: หมายถึงการส่งข้อความระหว่างผู้ใช้ในเครือข่ายออนไลน์โดยไม่ต้องกังวลว่าจะมีคนแอบดูได้
3. การยืนยันตัวตน: การใช้ลายเซ็นดิจิทัลและใบรับรองช่วยให้สามารถตรวจสอบว่าข้อมูลมาจากที่ต้นสังกัดที่แท้จริงหรือไม่
เรามาลองดูการเข้ารหัสแบบง่ายๆ ด้วยการเพิ่มมูลค่า ASCII (American Standard Code for Information Interchange) ของแต่ละตัวอักษรในข้อความดู:
def encrypt(message, shift):
encrypted_message = ""
for char in message:
if char.isalpha(): # Check if character is an alphabet
shift_amount = shift % 26
if char.islower():
start = ord('a')
else:
start = ord('A')
# shift character and wrap around if necessary
enc_char = chr((ord(char) - start + shift_amount) % 26 + start)
encrypted_message += enc_char
else:
encrypted_message += char # Non-alphabet characters are not encrypted
return encrypted_message
# test the encryption function
original_message = "I love Programming"
shift_amount = 4
encrypted_msg = encrypt(original_message, shift_amount)
print("Original Message:", original_message)
print("Encrypted Message:", encrypted_msg)
ฟังก์ชั่น `encrypt` ข้างต้นจะเปลี่ยนข้อความ "I love Programming" เป็นข้อความเข้ารหัสโดยเลื่อนตัวอักษรไปข้างหน้า 4 ตำแหน่ง จากตัวอย่าง เมื่อเรารันโปรแกรมข้างต้น เราจะได้ข้อความเข้ารหัสว่า "M pszi Xsklirgsr" นี่คือรูปแบบการเข้ารหัสที่ง่ายมากและหากต้องใช้ในชีวิตจริงเราจะต้องมีวิธีการที่ซับซ้อนและปลอดภัยกว่านี้
เพื่อความปลอดภัยที่มากขึ้นในโลกคอมพิวเตอร์ของจริง Cryptography จึงได้พัฒนาวิธีการเข้ารหัสขั้นสูง เช่น RSA, AES และตัวอื่นๆ ที่มีการเข้ารหัสและถอดรหัสที่ซับซ้อนมากขึ้น ซึ่งการเรียนรู้วิธีการทำงานหลังบ้านของเทคโนโลยีเหล่านี้จะทำให้นักพัฒนามีความเข้าใจที่ดีขึ้นในการป้องกันข้อมูลและการสร้างแอปพลิเคชันที่ปลอดภัย
การเรียนรู้ว่าการเข้ารหัสลับทำงานอย่างไรและเราสามารถใช้มันในการเขียนโปรแกรมได้อย่างไรนั้น เป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำคัญที่ทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถปกป้องผู้ใช้และข้อมูลของตนเองได้อย่างมีประสิทธิภาพ การศึกษาและทำความเข้าใจเบื้องต้นเหล่านี้เป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการสร้างพื้นฐานความรู้เรื่องความปลอดภัยในโลกไซเบอร์
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM