การใช้งาน GUI create ListBox ในภาษา Java แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง

# การใช้งาน GUI สร้าง ListBox ในภาษา Java ด้วย Swing

บทนำ

ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีพัฒนาไปอย่างรวดเร็ว การเรียนรู้ภาษาโปรแกรมมิ่งเป็นทักษะที่ไม่เพียงแต่ช่วยให้คุณพัฒนาแอปพลิเคชันได้เท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มโอกาสในตลาดแรงงานด้วย หนึ่งในภาษาโปรแกรมมิ่งที่แพร่หลายและมีความสำคัญคือ Java ซึ่งใช้ในการพัฒนาแอปพลิเคชันหลากหลายแพลตฟอร์ม ในบทความนี้ เราจะแนะนำการใช้งาน GUI ในการสร้าง `ListBox` ซึ่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐานในส่วนของการโต้ตอบกับผู้ใช้ โดยเฉพาะการเลือกข้อมูลจากรายการ ตัวอย่างที่นำเสนอจะช่วยให้คุณเข้าใจการทำงานของ `ListBox` และนำไปประยุกต์ใช้ได้

ทำความรู้จักกับ Java Swing สำหรับสร้าง GUI

Java Swing เป็นชุดตัวควบคุม (library) สำหรับการสร้าง Graphical User Interface (GUI) ในภาษา Java ที่มาพร้อมกับ Widgets ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นปุ่มกด, รายการเลือกหรือ `ListBox` และอื่นๆ Swing ออกแบบมาให้ใช้งานได้ง่ายและสามารถปรับแต่งหน้าตาได้หลากหลาย

การสร้าง ListBox ด้วย Java Swing

ตัวอย่างที่ 1: การสร้าง ListBox พื้นฐาน

 import javax.swing.*;
public class SimpleListBox {
    public static void main(String[] args) {
        // สร้าง window
        JFrame frame = new JFrame("Simple ListBox Example");
        frame.setDefaultCloseOperation(JFrame.EXIT_ON_CLOSE);
        frame.setSize(300, 200);

        // สร้าง ListBox
        String[] data = {"Item 1", "Item 2", "Item 3", "Item 4"}; // ข้อมูลที่จะแสดง
        JList<String> listBox = new JList<>(data);

        frame.add(listBox); // เพิ่ม ListBox ลงใน window
        frame.setVisible(true); // แสดง window
    }
}

ในตัวอย่างนี้ เริ่มต้นด้วยการสร้าง `JFrame` ซึ่งเป็นวินโดว์หลัก จากนั้นสร้าง `JList` ตามด้วยการเพิ่ม `JList` ลงใน `JFrame` และทำให้หน้าต่างปรากฏขึ้น

ตัวอย่างที่ 2: การจัดการเหตุการณ์เมื่อเลือกรายการ

 import javax.swing.*;
import javax.swing.event.ListSelectionEvent;
import javax.swing.event.ListSelectionListener;

public class EventListBox {
    public static void main(String[] args) {
        JFrame frame = new JFrame("Event ListBox Example");
        frame.setDefaultCloseOperation(JFrame.EXIT_ON_CLOSE);
        frame.setSize(300, 200);

        String[] data = {"Apple", "Orange", "Banana", "Mango"};
        JList<String> listBox = new JList<>(data);
        listBox.addListSelectionListener(new ListSelectionListener() {
            @Override
            public void valueChanged(ListSelectionEvent e) {
                if (!e.getValueIsAdjusting()) { // เพื่อหลีกเลี่ยงการทำงานซ้ำ
                    String selectedItem = listBox.getSelectedValue();
                    System.out.println("Selected: " + selectedItem);
                }
            }
        });

        frame.add(new JScrollPane(listBox)); // เพิ่ม scrollbar
        frame.setVisible(true);
    }
}

ตัวอย่างที่สองนี้แสดงถึงการจัดการกับเหตุการณ์ (event handling) ที่เกิดขึ้นเมื่อผู้ใช้เลือกรายการ โดยใช้ `ListSelectionListener` และเมธอด `valueChanged` และเพิ่ม `JScrollPane` เป็นการจัดการง่ายๆ กับการใช้งานรายการที่มีจำนวนมาก

ตัวอย่างที่ 3: ฟังก์ชันการค้นหาใน ListBox

 import javax.swing.*;
import java.awt.*;
import java.awt.event.ActionEvent;
import java.awt.event.ActionListener;

public class SearchListBox {
    public static void main(String[] args) {
        JFrame frame = new JFrame("Search ListBox Example");
        frame.setDefaultCloseOperation(JFrame.EXIT_ON_CLOSE);
        frame.setLayout(new BorderLayout());
        frame.setSize(400, 300);

        // สร้างรายการข้อมูล
        String[] data = {"C++", "Java", "Python", "Ruby", "JavaScript"};
        JList<String> listBox = new JList<>(data);

        // สร้างช่องค้นหา
        JTextField searchField = new JTextField();
        searchField.addActionListener(new ActionListener() {
            @Override
            public void actionPerformed(ActionEvent e) {
                String searchText = searchField.getText();
                for (int i = 0; i < listBox.getModel().getSize(); i++) {
                    if (searchText.equalsIgnoreCase(listBox.getModel().getElementAt(i))) {
                        listBox.setSelectedIndex(i); // ทำให้รายการถูกเลือก
                        listBox.ensureIndexIsVisible(i); // ซูมไปยังรายการ
                        break;
                    }
                }
            }
        });

        // เพิ่มช่องค้นหาและ ListBox ลงใน JFrame
        frame.add(searchField, BorderLayout.NORTH);
        frame.add(new JScrollPane(listBox), BorderLayout.CENTER);

        frame.setVisible(true);
    }
}

ในตัวอย่างที่สาม, ถูกเพิ่มช่องค้นหาที่ช่วยให้ผู้ใช้สามารถป้อนข้อความเพื่อค้นหาได้ทันที โดยใช้ `ActionListener` และเมธอด `actionPerformed` ซึ่งจะทำงานเมื่อมีการกระทำต่อช่องค้นหา (เช่น การกดปุ่ม Enter)

Usecase ในโลกจริง

การใช้ ListBox มีหลายประโยชน์ในงานแอปพลิเคชันจริง เช่น ในระบบการจัดการคลังสินค้าหรือร้านค้าออนไลน์ สามารถใช้ `ListBox` เพื่อแสดงรายการสินค้าหรือหมวดหมู่สำหรับผู้ใช้เลือกได้สะดวก หรืออาจประยุกต์ใช้ในโปรแกรมจองตั๋วภาพยนตร์ เพื่อเลือกหนังหรือเวลาการฉาย

ใน EPT (Expert-Programming-Tutor) เรามุ่งเน้นให้การเรียนรู้การโปรแกรมไม่ใช่แค่ทฤษฎี แต่ยังรวมถึงการนำไปใช้งานจริง หากคุณมีความสนใจในการเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการสร้าง GUI และพัฒนาแอปพลิเคชันด้วย Java Swing อย่ารอช้า มาเข้าร่วมกับเราที่ EPT แล้วพัฒนาทักษะของคุณสู่ภาวะมืออาชีพไปพร้อมๆ กับเรา!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง