Las Vegas Algorithm เป็นหนึ่งในวิธีการออกแบบอัลกอริทึมในหมวดของ randomized algorithms หรืออัลกอริทึมที่มีการใช้ความเป็นสุ่มเข้ามาเกี่ยวข้องในการตัดสินใจหรือการคำนวณ คุณลักษณะเด่นของอัลกอริทึมชนิดนี้คือ มันจะเสนอคำตอบที่ถูกต้องเสมอ เมื่อมันตัดสินใจจะให้คำตอบ (หากไม่สามารถให้คำตอบถูกต้องได้ มันจะไม่ให้คำตอบเลย) แตกต่างจาก Monte Carlo Algorithms ที่อาจจะเสนอคำตอบที่ไม่ถูกต้องได้ แต่มีความเร็วในการทำงาน
Las Vegas Algorithm ใช้แก้ปัญหาหลายๆ ประเภท รวมถึง optimization problems, search problems และเกมส์ทางคณิตศาสตร์ หลักการหลักของมันคือยอมรับความเสี่ยงในการใช้เวลาในการประมวลผลที่อาจแตกต่างกันในแต่ละครั้ง (คือไม่คงที่) เพื่อแลกกับคำตอบที่ถูกต้องถ้าหากอัลกอริทึมสามารถมอบคำตอบได้
สมมติว่าเราต้องการเขียน algorithm สำหรับการค้นหาตำแหน่งของค่าใดค่าหนึ่งใน array ของตัวเลขที่ไม่มีการจัดเรียงลำดับ หนึ่งในวิธีที่เป็น Las Vegas Algorithm คือการเลือก index แบบสุ่มและตรวจสอบว่าค่าที่ index นั้นตรงกับค่าที่เราต้องการค้นหาหรือไม่:
import java.util.Random;
public class LasVegasSearch {
public static int search(int[] array, int valueToFind) {
Random rand = new Random();
while(true) {
int randomIndex = rand.nextInt(array.length);
if (array[randomIndex] == valueToFind) {
return randomIndex;
}
}
}
public static void main(String args[]) {
int array[] = {13, 7, 6, 45, 21, 9, 2, 100};
int valueToFind = 21;
int index = search(array, valueToFind);
if (index != -1) {
System.out.println("Value " + valueToFind + " found at index: " + index);
} else {
System.out.println("Value " + valueToFind + " not found.");
}
}
}
ในตัวอย่างนี้, `LasVegasSearch` มีฟังก์ชัน `search` ที่ใช้การเลือก index แบบสุ่มเพื่อหาค่า `valueToFind` ใน array. ถ้าค่าที่ index ที่เลือกสุ่มไม่ตรงกับ `valueToFind`, วนลูปเลือก index ใหม่และตรวจสอบอีกครั้ง จนกว่าจะเจอค่าที่ตรงกัน.
Las Vegas Algorithm อาจจะถูกใช้ในสถานการณ์ที่มีการการันตีความถูกต้องของข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญ ยกตัวอย่างเช่น ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ทำงานร่วมกับ hardware ที่มีความผันผวนสูง หรือการกระจายข้อมูลในระบบ Cloud storage ที่ต้องการความแม่นยำในการตัดสินใจ.
Las Vegas Algorithm มีความ complex ที่ไม่แน่นอน เพราะว่าทำงานบนหลักการของความน่าจะเป็น โดยครั้งที่จะเสนอคำตอบถูกต้องนั้นขึ้นอยู่กับ "โชค" หรือความน่าจะเป็นที่เลือกมา. ืนัยค่า expected time complexity นั้น ถ้าข้อมูลมีการกระจายตัวแบบ uniform จะอยู่ที่ O(n), แต่ใน worst case (ซึ่งแทบจะเป็นไปไม่ได้) สามารถเป็นเวลาอนันต์.
ข้อดี
:- ให้คำตอบที่ถูกต้องเมื่อมอบคำตอบ
- สามารถทำงานได้ดีในโมเดลที่มี randomness
ข้อเสีย
:- ไม่มีการรับประกันเวลาประมวลผล (runtime)
- อาจจะไม่เหมาะกับสถานการณ์ที่ต้องการความเร็วและการประมวลผลที่แน่นอน
ในยุคที่เทคโนโลยีมีความก้าวหน้าและการทำงานของระบบข้อมูลมีความซับซ้อนมากขึ้น Las Vegas Algorithm ยังคงเป็นทางเลือกหนึ่งที่น่าสนใจ และสำหรับผู้ที่ต้องการศึกษาและขยายขอบข่ายความรู้ในการเขียนโปรแกรม ที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) เรามีคอร์สเรียนที่จะเปิดโลกใหม่ของการเรียนรู้อัลกอริทึมสำหรับคุณ พบกันได้ที่ชั้นเรียนของเรา!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: las_vegas_algorithm randomized_algorithms monte_carlo_algorithms optimization_problems search_problems programming_languages java complexity_analysis randomness expected_time_complexity benefits drawbacks
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM