The Hungarian Method เป็นอัลกอริทึมที่ถูกพัฒนาขึ้นในปี 1955 โดยนักคณิตศาสตร์ชาวฮังการี ชื่อ Harold Kuhn ซึ่งงานวิจัยนี้ได้ขยายความคิดจากคณิตศาสตร์ชื่อ James Munkres จนได้ชื่อว่า Kuhn-Munkres algorithm หรือที่รู้จักกันในชื่อ The Hungarian Method เพราะการวิจัยนี้ได้รับแรงบันดาลใจมาจากงานวิจัยก่อนหน้าของนักคณิตศาสตร์ชาวฮังการีอีกคนหนึ่ง
อัลกอริทึมนี้ถูกใช้เพื่อแก้ปัญหาการจับคู่ที่สมบูรณ์แบบ (perfect matching) ในรูปแบบของปัญหาการกำหนดงาน (assignment problem) ที่เกี่ยวข้องกับการหาคู่จับคู่ระหว่างสิ่งของหรืองานต่างๆ ให้กับกลุ่มหรือบุคคลที่มีจำนวนเท่ากันและให้ต้นทุนหรือประโยชน์รวมมีค่าน้อยที่สุดหรือมากที่สุด
ใน Java, เราสามารถประยุกต์ใช้ The Hungarian Method ในการจัดการปัญหาต่างๆ ได้โดยการสร้างโครงสร้างข้อมูลและอัลกอริทึมที่มีประสิทธิภาพสูง เราจะมองปัญหานี้ในรูปของตารางค่าต้นทุน ซึ่งทุกแถวแทนตัวเลือกที่หนึ่ง (เช่น, พนักงาน) และทุกคอลัมน์แทนตัวเลือกที่สอง (เช่น, งานที่จะถูกกำหนด).
ต่อไปนี้คือตัวอย่างภาษา Java ที่แสดงวิธีการใช้งาน The Hungarian Method:
import java.util.Arrays;
public class HungarianAlgorithm {
private final double[][] costMatrix;
private final int rows, cols, dim;
private final double[] labelByWorker, labelByJob;
private final int[] minSlackWorkerByJob;
private final double[] minSlackValueByJob;
private final int[] matchJobByWorker, matchWorkerByJob;
private final int[] parentWorkerByCommittedJob;
private final boolean[] committedWorkers;
public HungarianAlgorithm(double[][] costMatrix) {
this.dim = Math.max(costMatrix.length, costMatrix[0].length);
this.rows = costMatrix.length;
this.cols = costMatrix[0].length;
this.costMatrix = new double[this.dim][this.dim];
for (int w = 0; w < this.dim; w++) {
if (w < costMatrix.length) {
this.costMatrix[w] = Arrays.copyOf(costMatrix[w], this.dim);
} else {
this.costMatrix[w] = new double[this.dim];
}
}
labelByWorker = new double[this.dim];
labelByJob = new double[this.dim];
minSlackWorkerByJob = new int[this.dim];
minSlackValueByJob = new double[this.dim];
committedWorkers = new boolean[this.dim];
matchJobByWorker = new int[this.dim];
Arrays.fill(matchJobByWorker, -1);
matchWorkerByJob = new int[this.dim];
Arrays.fill(matchWorkerByJob, -1);
parentWorkerByCommittedJob = new int[this.dim];
committedWorkers = new boolean[this.dim];
}
protected void computeInitialFeasibleSolution() {
for (int j = 0; j < dim; j++) {
labelByJob[j] = Double.POSITIVE_INFINITY;
}
for (int w = 0; w < dim; w++) {
for (int j = 0; j < dim; j++) {
if (costMatrix[w][j] < labelByJob[j]) {
labelByJob[j] = costMatrix[w][j];
}
}
}
}
// Main logic to execute the Hungarian method
public int[] execute() {
// ...
// The implementation of the Hungarian algorithm goes here
// ...
return Arrays.copyOf(matchJobByWorker, rows);
}
// Additional methods and logic for executing Hungarian algorithm would be added here
// ...
}
// Example usage
public class HungarianMethodExample {
public static void main(String[] args) {
double[][] costMatrix = {
{4, 2, 3},
{2, 5, 2},
{3, 2, 4}
};
HungarianAlgorithm ha = new HungarianAlgorithm(costMatrix);
int[] assignment = ha.execute();
System.out.println("Optimal Assignment:");
for (int i = 0; i < assignment.length; i++) {
System.out.println("Worker " + i + " assigned to job " + assignment[i]);
}
}
}
ในตัวอย่างนี้, `costMatrix` เป็นตารางที่แสดงค่าต้นทุนของการกำหนดงานให้กับพนักงาน (แถว) สำหรับงานต่างๆ (คอลัมน์). อัลกอริทึมจะคำนวณและส่งคืนการกำหนดงานที่มีต้นทุนรวมที่น้อยที่สุด
The Hungarian Method มีการนำไปใช้ในหลายสาขาอาชีพ ตัวอย่างเช่น ในอุตสาหกรรมการผลิต, การจัดส่งสินค้า, โลจิสติกส์ หรือขั้นตอนการจับคู่ในการจัดตารางสอบหรือการจัดตารางเรียน. เพราะมันช่วยให้สามารถจัดหาทรัพยากรได้อย่างมีประสิทธิภาพ เช่น การจัดสรรพนักงานให้กับงานที่ต้องการทำให้เสร็จ, หรือการจัดส่งพนักงานเทคนิคไปยังไซต์งานที่ต้องการความช่วยเหลืออย่างรวดเร็ว นอกจากนี้ยังสามารถใช้ในการจับคู่หัองในธุรกิจโรงแรมหรือในสาเหตุการกำหนดราคาตั๋วเครื่องบินเพื่อทำกำไรสูงสุดโดยพิจารณาจากอัตราการใช้งานจริงและความยืดหยุ่นของราคา.
The Hungarian Method มีความซับซ้อนทางอัลกอริทึมที่ O(n^3), โดยที่ n คือขนาดของฝั่งหนึ่งของตาราง (คอลัมน์หรือแถว). ในบริบทของปัญหาการกำหนดงาน, นี่คือจำนวนของงานหรือจำนวนของพนักงาน.
ข้อดีของ The Hungarian Method คือ:
- ความสามารถในการค้นหาคำตอบที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับปัญหาการกำหนดงาน.
- เหมาะกับปัญหาที่มีขนาดกลุ่มที่ไม่ใหญ่มากนัก.
ในขณะที่ข้อเสียคือ:
- ระยะเวลาในการประมวลผลที่อาจนานขึ้นเมื่อปัญหามีขนาดใหญ่มาก.
- จำเป็นต้องมีความรู้ทางคณิตศาสตร์เพื่อทำความเข้าใจและนำไปประยุกต์ใช้.
การศึกษาการเขียนโปรแกรมที่สถาบัน EPT (Expert-Programming-Tutor), คุณจะได้เรียนรู้การนำอัลกอริทึมแบบนี้ไปใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆ ในโลกจริง สัมผัสกับการประยุกต์ใช้ความรู้ทางการเขียนโปรแกรมของคุณเพื่อพัฒนาโครงการที่มีค่าและคุณภาพสูง. ที่ EPT เราช่วยให้คุณไม่เพียงแค่เข้าใจหลักการของอัลกอริทึมเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณสามารถนำพวกมันไปปรับใช้อย่างคล่องแคล่วในสถานการณ์ที่หลากหลาย.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: the_hungarian_method perfect_matching assignment_problem java algorithm complexity real-world_application programming ept optimization
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM