การปรับใช้ความรู้ด้านการเขียนโปรแกรมในด้านต่างๆ ไม่เพียงแค่ช่วยให้เราสามารถสร้างสรรค์ผลงานได้ในเชิงพาณิชย์ แต่ยังสามารถช่วยเสริมสร้างศักยภาพในการแก้ไขปัญหาหลายๆ อย่างได้อย่างชาญฉลาด หนึ่งในอัลกอริทึมที่มีบทบาทสำคัญในด้านการพัฒนาเกมแบบผลัดกันเล่น (turn-based game) นั่นคือ Minimax Algorithm วันนี้เราจะพาทุกท่านไปทำความรู้จักกับอัลกอริทึมนี้ให้มากขึ้น พร้อมทั้งวิเคราะห์ข้อดีข้อเสียและการประยุกต์ใช้ในโลกจริงผ่านภาษา Java ยอดนิยม
Minimax Algorithm เป็นอัลกอริทึมที่ใช้ในเกมทฤษฎีการตัดสินใจแบบสองผู้เล่นซึ่งมีคะแนนตรงกันข้าม (หมายความว่าหากคนหนึ่งเป็นผู้ชนะ อีกคนจะเป็นผู้พ่ายแพ้) อัลกอริทึมนี้คาดการณ์การเคลื่อนไหวต่างๆ ของทั้งสองผู้เล่นและพยายามทำนายผลลัพธ์ที่ดีที่สุดสำหรับผู้เล่นตามลำดับ
Minimax Algorithm มีประโยชน์หลักในการออกแบบปัญญาประดิษฐ์ (AI) สำหรับเกมแบบผลัดกันเล่น เช่น หมากรุก โอเทลโล่ หรือเกมตีกรอบ อัลกอริทึมนี้ช่วยในการทำนายการกระทำที่เป็นไปได้ของคู่แข่งและเลือกการเคลื่อนไหวที่ดีที่สุดสำหรับ AI
public class MinimaxExample {
static final int MAX = 1000;
static final int MIN = -1000;
// ฟังก์ชัน Minimax โดยมีการระบุระดับความลึกและตัวแปร isMax สำหรับเลือกว่าจะเพิ่มหรือลดคะแนน
static int minimax(int depth, int nodeIndex, boolean isMax, int scores[], int h) {
// กรณีฐาน ถ้าถึงความลึกที่กำหนด
if (depth == h) return scores[nodeIndex];
// ถ้าเป็นของ Maximizer
if (isMax)
return Math.max(minimax(depth+1, nodeIndex*2, false, scores, h),
minimax(depth+1, nodeIndex*2 + 1, false, scores, h));
// ถ้าเป็นของ Minimizer
else
return Math.min(minimax(depth+1, nodeIndex*2, true, scores, h),
minimax(depth+1, nodeIndex*2 + 1, true, scores, h));
}
// ฟังก์ชันหลักเพื่อเริ่มต้นอัลกอริทึม
public static void main(String args[]) {
int scores[] = {3, 5, 2, 9, 12, 5, 23, 23};
int n = scores.length;
int h = log2(n);
int res = minimax(0, 0, true, scores, h);
System.out.println("The optimal value is : " + res);
}
// ฟังก์ชันสำหรับคำนวณความลึก
public static int log2(int n) {
return (n == 1)? 0 : 1 + log2(n / 2);
}
}
Minimax Algorithm ถูกนำไปประยุกต์ใช้กับเกม AI มากมาย เช่น Deep Blue ซึ่งเป็นคอมพิวเตอร์ที่โด่งดังจากการเอาชนะแกรนด์มาสเตอร์หมากรุก Garry Kasparov นอกจากนี้ยังถูกใช้ในเกมที่ต้องการการตัดสินใจหลายอีกต่างๆ เช่นการแข่งขัน AI ที่ต้องวิเคราะห์จำนวนเส้นทางที่เป็นไปได้เพื่อเอาชนะคู่แข่ง
Complexity ของ Minimax Algorithm มีค่าเป็น O(b^d) ซึ่ง b คือจำนวนสาขาที่เป็นไปได้ต่อการเคลื่อนไหวหนึ่งครั้งและ d คือความลึกของต้นไม้ นั่นหมายความว่าเวลาที่ใช้ในการคำนวณจะเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็วกับจำนวนการกระทำที่เป็นไปได้และระยะเวลาของเกม
ข้อดี
1. รับประกันว่าจะหาคำตอบที่ดีที่สุดสำหรับเกมมาตรฐาน
2. สามารถปรับใช้ทั้งในสภาพแวดล้อมที่มีการเปลี่ยนแปลงน้อยและคำนวณได้ล่วงหน้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ข้อเสีย
1. หมาะกับเกมที่มีพื้นที่คำนวณจำกัด เนื่องจาก Complexity ที่สูงสามารถกลายเป็นปัญหา
2. ไม่ได้มองหาคำตอบที่ “พอสมควร” แต่มุ่งเน้นไปที่การหาคำตอบที่ดีที่สุดเท่านั้น ซึ่งอาจไม่เป็นทางเลือกที่ดีสำหรับทุกสถานการณ์ เช่น เมื่อโอกาสในการชนะน้อย
การเรียนรู้และการเข้าใจใน Minimax Algorithm จะช่วยให้คุณสามารถออกแบบ AI ที่ชาญฉลาดและท้าทายสำหรับเกมแบบต่างๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ที่ EPT (Expert-Programming-Tutor), เรามุ่งมั่นที่จะสนับสนุนนักเรียนทุกคนในการพัฒนาทักษะและความรู้เกี่ยวกับโลกการเขียนโปรแกรมด้วยหลักสูตรที่ครอบคลุมและคำแนะนำจากผู้เชี่ยวชาญที่มีประสบการณ์ เพื่อการเตรียมพร้อมให้ทุกรูปแบบของการพัฒนาซอฟต์แวร์, ไม่ว่าจะเป็นเกมหรือโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ฉะนั้นหากคุณมีความสนใจหรือมองหาโอกาสในการเป็นนักพัฒนาเกมที่มีความสามารถ ที่ EPT เราพร้อมในการสนับสนุนคุณในการเรียนรู้และสู่ความสำเร็จในอาชีพนี้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: minimax_algorithm ตัดสินใจ อัลกอริทึม เกมแบบผลัดกันเล่น ปัญญาประดิษฐ์ ai java การโครงสร้างข้อมูล คำนวณ ความลึก การออกแบบ ความสามารถ complexity ข้อดี ข้อเสีย การวิเคราะห์ การพัฒนา การประยุกต์ใช้ การเขียนโปรแกรม
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM