สมัครเรียนโทร. 085-350-7540 , 084-88-00-255 , ntprintf@gmail.com

File

การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ทีละบรรทัดด้วย BufferedReader การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ทั้งหมดเป็น String ด้วย FileReader และ StringBuilder การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ด้วย Scanner การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ทั้งหมดเป็น List ของ Strings ด้วย Files.readAllLines() การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ทั้งหมดเป็น String ด้วย Files.readString() (Java 11+) การอ่านไฟล์ในภาษา Java - ใช้ Files.lines() เพื่ออ่านไฟล์ทีละบรรทัดเป็น Stream การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ทีละตัวอักษรด้วย FileReader การอ่านไฟล์ในภาษา Java - ใช้ BufferedReader เพื่ออ่านบรรทัดแรกของไฟล์ การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ด้วย InputStreamReader และ FileInputStream การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ขนาดใหญ่ด้วย RandomAccessFile การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนข้อความลงไฟล์ด้วย BufferedWriter การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนข้อความพร้อมขึ้นบรรทัดใหม่ด้วย BufferedWriter.newLine() การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนไฟล์ด้วย PrintWriter การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนข้อความทีละตัวอักษรด้วย FileWriter การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนข้อความต่อท้ายไฟล์ด้วย FileWriter (Append mode) การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนข้อความหลายบรรทัดลงไฟล์ด้วย Files.write() การเขียนไฟล์ในภาษา Java - ใช้ PrintWriter เพื่อเขียนไฟล์ด้วยการจัดรูปแบบ การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนไฟล์ขนาดใหญ่ด้วย RandomAccessFile การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนข้อมูลแบบไบต์ลงไฟล์ด้วย FileOutputStream การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนไฟล์แบบบัฟเฟอร์ด้วย BufferedOutputStream การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - ตรวจสอบว่าไฟล์มีอยู่หรือไม่ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - ลบไฟล์ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - เปลี่ยนชื่อหรือย้ายไฟล์ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - คัดลอกไฟล์ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - ตรวจสอบขนาดของไฟล์ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - ตรวจสอบการอนุญาตของไฟล์ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - อ่าน Metadata ของไฟล์ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - สร้างไฟล์ใหม่ถ้ายังไม่มี การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - สร้าง Directory ใหม่ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - ลบ Directory ที่ว่างเปล่า การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การอ่านไฟล์ด้วย fs.readFile() การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การเขียนไฟล์ด้วย fs.writeFile() การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การลบไฟล์ด้วย fs.unlink() การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การสร้างและลบโฟลเดอร์ด้วย fs.mkdir() และ fs.rmdir() การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การใช้ fs.readdir() เพื่ออ่านเนื้อหาโฟลเดอร์ การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การใช้ Streams ใน Node.js การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การใช้ Readable และ Writable Streams การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การทำงานกับ Pipes การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การใช้ Buffer ใน Node.js การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การทำงานกับ File System แบบ Synchronous Git การทำงานกับไฟล์ - ตรวจสอบความแตกต่างของไฟล์ (Diff) Git การทำงานกับไฟล์ - ดู Diff ระหว่างสอง Branch Git การทำงานกับไฟล์ - ดู Diff ระหว่าง Commit Git การทำงานกับไฟล์ - เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Staged กับ Working Directory Git การทำงานกับไฟล์ - ย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงในไฟล์ Git การทำงานกับไฟล์ - ย้อนกลับไฟล์ใน Staging Area Git การทำงานกับไฟล์ - ลบไฟล์ออกจาก Git และระบบไฟล์ Git การทำงานกับไฟล์ - ลบไฟล์จาก Git แต่เก็บไว้ในระบบไฟล์ Git การทำงานกับไฟล์ - เปลี่ยนชื่อไฟล์ใน Git Git การทำงานกับไฟล์ - ดูรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของไฟล์ Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การอ่านไฟล์ใน Go Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การเขียนไฟล์ใน Go Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การใช้ os.File ในการทำงานกับไฟล์ Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การสร้างและลบไฟล์ Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การตรวจสอบว่ามีไฟล์หรือไม่ Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การอ่านและเขียน JSON ใน Go Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การใช้ encoding/json สำหรับ JSON Marshalling และ Unmarshalling Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การทำงานกับ XML Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การทำงานกับ YAML Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การจัดการ Environment Variables Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การสร้างและจัดการ Process ใน Go

การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนไฟล์แบบบัฟเฟอร์ด้วย BufferedOutputStream

 

การเขียนไฟล์เป็นพื้นฐานสำคัญในโปรแกรมคอมพิวเตอร์ที่มีการจัดการกับข้อมูลขนาดใหญ่หรือการเก็บข้อมูลให้ถาวร และในหลายๆ กรณี การเขียนไฟล์ด้วยการใช้การบัฟเฟอร์ถือเป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพที่สุด การใช้ BufferedOutputStream ในภาษา Java เป็นวิธีการที่จะช่วยลดเวลาในเขียนข้อมูลจากในโปรแกรมไปยังไฟล์นั้น ๆ

 

BufferedOutputStream คืออะไร?

`BufferedOutputStream` เป็นคลาสใน Java ที่ใช้เพิ่มประสิทธิภาพในการเขียนไฟล์ผ่านการเก็บข้อมูลไว้ในบัฟเฟอร์ก่อนจะเขียนลงในไฟล์จริง ซึ่งนั่นหมายความว่ามันจะลดจำนวนครั้งที่โปรแกรมจะต้องทำการ I/O จริง ๆ ทำให้การเขียนไฟล์เร็วยิ่งขึ้น

ลองมาดูข้อดีของการใช้บัฟเฟอร์:

1. เพิ่มประสิทธิภาพ: การเขียนจำนวนมากๆ ของข้อมูลครั้งเดียวจะเร็วกว่าหากมีการบัฟเฟอร์ไว้ก่อนแล้วเขียนทีเดียว 2. ลดการใช้งานทรัพยากร: ลดจำนวนคำสั่ง I/O ที่เกิดขึ้น ช่วยลดการใช้ทรัพยากรระบบ 3. รองรับข้อมูลขนาดใหญ่: สามารถจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่าง: ในการเขียนข้อมูลเล็ก ๆ ด้วยการ I/O แต่ละคำสั่งจะต้อง "วิ่ง" เขียนไปยังดิสก์กายภาพ ทุกครั้ง แต่หากมีการบัฟเฟอร์ไว้ ข้อมูลถูกเก็บในเมมโมรีก่อน แล้วเมื่อต้องการจะเขียนค่อยเขียนทีเดียว

 

การใช้งาน BufferedOutputStream

การใช้ BufferedOutputStream นั้นไม่ยาก โดยเราจำเป็นต้องรู้วิธีการใช้งานไลบรารีการเขียนไฟล์พื้นฐานของ Java ก่อน เมื่อติดตั้งพื้นฐานนี้แล้ว สามารถนำมาปฎิบัติใช้งานร่วมกับบัฟเฟอร์ได้

ตัวอย่างการใช้งาน:


import java.io.FileOutputStream;
import java.io.BufferedOutputStream;
import java.io.IOException;

public class BufferedOutputStreamExample {
    public static void main(String[] args) {
        String data = "นี่คือข้อมูลที่เราจะเขียนลงไฟล์ด้วย BufferedOutputStream";

        try (FileOutputStream fileOutputStream = new FileOutputStream("example.txt");
             BufferedOutputStream bufferedOutputStream = new BufferedOutputStream(fileOutputStream)) {

            byte[] bytes = data.getBytes();
            bufferedOutputStream.write(bytes);
            bufferedOutputStream.flush();  // ทำให้มั่นใจว่าข้อมูลที่บัฟเฟอร์ถูกเขียนลงในไฟล์จริง
            System.out.println("การเขียนไฟล์เสร็จสมบูรณ์");

        } catch (IOException ex) {
            ex.printStackTrace();
        }
    }
}

ในตัวอย่างข้างต้น เราใช้ `FileOutputStream` เพื่อเปิดไฟล์ จากนั้นต่อ `BufferedOutputStream` เพื่อนำมาปรับปรุงประสิทธิภาพการเขียนข้อมูล หลังจากเรานำข้อมูลมาเขียนลงบัฟเฟอร์แล้วใช้ `flush()` เพื่อดันบัฟเฟอร์ออกไปเป็นไฟล์จริง

 

ข้อควรระวัง

- อย่าลืมปิดสตรีมไฟล์ทุกครั้งหลังจากเขียนเสร็จ ด้วยการใช้ `try-with-resources` อย่างที่แสดงในตัวอย่าง ช่วยให้มั่นใจว่าสตรีมจะถูกปิดอัตโนมัติ

- ควรทำการ `flush()` เสมอเมื่อเขียนข้อมูลเสร็จ เพื่อรับรองว่าข้อมูลในบัฟเฟอร์ถูกเขียนลงไฟล์ปัจจุบันทันที

 

Use case

ตัวอย่างที่เป็นสถานการณ์จริงในการใช้งาน: สถานการณ์ที่เหมาะกับการใช้ BufferedOutputStream คือการสร้างโปรแกรมบันทึกข้อมูลจากเซ็นเซอร์ที่ต้องรวบรวมข้อมูลจำนวนมาก ๆ และบันทึกลงไปในฐานข้อมูลทีหลัง ถ้าต้องทำ I/O ทันทีทุกครั้งที่มีการอ่านค่า ก็จะทำให้โปรแกรมทำงานช้าลง แต่ถ้าใช้การบัฟเฟอร์เพื่อเก็บข้อมูลไว้ก่อน จึงจะ implement บันทึกจริง โปรแกรมก็จะสามารถจัดการข้อมูลได้เร็วยิ่งขึ้น

BufferedOutputStream เป็นเครื่องมือที่มีค่าและสำคัญสำหรับนักพัฒนา Java ที่ต้องการทำให้โปรแกรมของตนทำงานได้เร็วขึ้นและมีประสิทธิภาพสูงขึ้น การเรียนรู้เทคนิคเหล่านี้จึงเป็นส่วนหนึ่งของการเพิ่มความเชี่ยวชาญในการเขียนโปรแกรม และหากคุณต้องการพัฒนาทักษะเพิ่มเติม EPT ได้เปิดหลักสูตรที่แล้วภาคภูมิใจที่จะช่วยให้คุณก้าวต่อไปในเส้นทางของการเป็นนักพัฒนาโปรแกรมที่มีทักษะสูง

การเรียนรู้เพิ่มเติมในด้านการประมวลผล I/O และการจัดการไฟล์เป็นสิ่งที่นักพัฒนา Java ทุกคนควรมีความรู้พื้นฐานเพื่อสามารถสร้างโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพ บทความนี้หวังว่าจะช่วยคุณได้ภาพรวมในการใช้ BufferedOutputStream แต่มีอีกมากมายที่คุณสามารถศึกษาและทดลองใช้เพื่อพัฒนาเพิ่มเติมจากนี้!

 

 

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง

หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/


Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android


บทความนี้อาจจะมีที่ผิด กรุณาตรวจสอบก่อนใช้

หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor

ไม่อยากอ่าน Tutorial อยากมาเรียนเลยทำอย่างไร?

สมัครเรียน ONLINE ได้ทันทีที่ https://elearn.expert-programming-tutor.com

หรือติดต่อ

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM

แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา

แผนผังการเรียนเขียนโปรแกรม

Link อื่นๆ

Allow sites to save and read cookie data.
Cookies are small pieces of data created by sites you visit. They make your online experience easier by saving browsing information. We use cookies to improve your experience on our website. By browsing this website, you agree to our use of cookies.

Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com

ติดต่อเราได้ที่

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา