สมัครเรียนโทร. 085-350-7540 , 084-88-00-255 , ntprintf@gmail.com

File

Git การทำงานกับไฟล์ - ตรวจสอบความแตกต่างของไฟล์ (Diff) Git การทำงานกับไฟล์ - ดู Diff ระหว่างสอง Branch Git การทำงานกับไฟล์ - ดู Diff ระหว่าง Commit Git การทำงานกับไฟล์ - เปรียบเทียบความแตกต่างระหว่าง Staged กับ Working Directory Git การทำงานกับไฟล์ - ย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงในไฟล์ Git การทำงานกับไฟล์ - ย้อนกลับไฟล์ใน Staging Area Git การทำงานกับไฟล์ - ลบไฟล์ออกจาก Git และระบบไฟล์ Git การทำงานกับไฟล์ - ลบไฟล์จาก Git แต่เก็บไว้ในระบบไฟล์ Git การทำงานกับไฟล์ - เปลี่ยนชื่อไฟล์ใน Git Git การทำงานกับไฟล์ - ดูรายละเอียดการเปลี่ยนแปลงของไฟล์ การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การอ่านไฟล์ด้วย fs.readFile() การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การเขียนไฟล์ด้วย fs.writeFile() การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การลบไฟล์ด้วย fs.unlink() การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การสร้างและลบโฟลเดอร์ด้วย fs.mkdir() และ fs.rmdir() การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การใช้ fs.readdir() เพื่ออ่านเนื้อหาโฟลเดอร์ การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การใช้ Streams ใน Node.js การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การใช้ Readable และ Writable Streams การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การทำงานกับ Pipes การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การใช้ Buffer ใน Node.js การทำงานกับไฟล์และระบบ I/O ด้วย Node.js - การทำงานกับ File System แบบ Synchronous การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ทีละบรรทัดด้วย BufferedReader การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ทั้งหมดเป็น String ด้วย FileReader และ StringBuilder การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ด้วย Scanner การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ทั้งหมดเป็น List ของ Strings ด้วย Files.readAllLines() การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ทั้งหมดเป็น String ด้วย Files.readString() (Java 11+) การอ่านไฟล์ในภาษา Java - ใช้ Files.lines() เพื่ออ่านไฟล์ทีละบรรทัดเป็น Stream การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ทีละตัวอักษรด้วย FileReader การอ่านไฟล์ในภาษา Java - ใช้ BufferedReader เพื่ออ่านบรรทัดแรกของไฟล์ การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ด้วย InputStreamReader และ FileInputStream การอ่านไฟล์ในภาษา Java - อ่านไฟล์ขนาดใหญ่ด้วย RandomAccessFile การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนข้อความลงไฟล์ด้วย BufferedWriter การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนข้อความพร้อมขึ้นบรรทัดใหม่ด้วย BufferedWriter.newLine() การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนไฟล์ด้วย PrintWriter การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนข้อความทีละตัวอักษรด้วย FileWriter การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนข้อความต่อท้ายไฟล์ด้วย FileWriter (Append mode) การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนข้อความหลายบรรทัดลงไฟล์ด้วย Files.write() การเขียนไฟล์ในภาษา Java - ใช้ PrintWriter เพื่อเขียนไฟล์ด้วยการจัดรูปแบบ การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนไฟล์ขนาดใหญ่ด้วย RandomAccessFile การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนข้อมูลแบบไบต์ลงไฟล์ด้วย FileOutputStream การเขียนไฟล์ในภาษา Java - เขียนไฟล์แบบบัฟเฟอร์ด้วย BufferedOutputStream การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - ตรวจสอบว่าไฟล์มีอยู่หรือไม่ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - ลบไฟล์ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - เปลี่ยนชื่อหรือย้ายไฟล์ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - คัดลอกไฟล์ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - ตรวจสอบขนาดของไฟล์ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - ตรวจสอบการอนุญาตของไฟล์ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - อ่าน Metadata ของไฟล์ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - สร้างไฟล์ใหม่ถ้ายังไม่มี การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - สร้าง Directory ใหม่ การทำงานกับไฟล์ในภาษา Java - ลบ Directory ที่ว่างเปล่า Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การอ่านไฟล์ใน Go Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การเขียนไฟล์ใน Go Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การใช้ os.File ในการทำงานกับไฟล์ Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การสร้างและลบไฟล์ Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การตรวจสอบว่ามีไฟล์หรือไม่ Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การอ่านและเขียน JSON ใน Go Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การใช้ encoding/json สำหรับ JSON Marshalling และ Unmarshalling Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การทำงานกับ XML Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การทำงานกับ YAML Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การจัดการ Environment Variables Golang การจัดการไฟล์และการทำงานกับระบบ - การสร้างและจัดการ Process ใน Go

Git การทำงานกับไฟล์ - ย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงในไฟล์

 

Git เป็นหนึ่งในเครื่องมือจัดการเวอร์ชันที่นักพัฒนาโปรแกรมทั่วโลกนิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน โดยเฉพาะการทำงานในโครงการโปรเจกต์ขนาดใหญ่ ซึ่งต้องมีการทำงานร่วมกันกับทีมงาน หรือแม้แต่การทำงานคนเดียวที่ต้องจัดการกับความซับซ้อนของการเปลี่ยนแปลงไฟล์ต่าง ๆ Git มาเป็นตัวช่วยสำคัญในการบริหารจัดการและติดตามการเปลี่ยนแปลงของโค้ด

 

แนวคิดการย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงใน Git

เมื่อใช้ Git คุณสามารถย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงที่เกิดขึ้นในไฟล์ได้หลายวิธี ขึ้นอยู่กับลักษณะและสถานการณ์ของการเปลี่ยนแปลงแต่ละประเภท โดยทั่วไปแล้ว เราสามารถย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงได้ทั้งในกรณีที่ยังไม่และที่ได้ทำการ commit ไปแล้ว

 

การย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงที่ยังไม่ commit

บ่อยครั้งที่นักพัฒนาอาจจะทำการเปลี่ยนแปลงโค้ดในไฟล์ แต่ตระหนักได้ทีหลังว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นไม่ถูกต้อง หรือไม่ต้องการแล้ว ในกรณีนี้ Git มีคำสั่งสำหรับการรีเซ็ตไฟล์ให้กลับไปยังสถานะที่ยังไม่เคยถูกเปลี่ยนแปลงใน work tree ได้ดังนี้:

ใช้คำสั่ง `git checkout`

คำสั่ง `git checkout` เป็นวิธีง่าย ๆ ในการย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงในไฟล์ที่ยังไม่ commit ดังตัวอย่างด้านล่าง:


git checkout -- ชื่อไฟล์

คำสั่งนี้จะทำให้ไฟล์ที่ระบุถูกรีเซ็ตกลับไปยังสถานะที่ล่าสุดใน `HEAD` ของ branch ปัจจุบัน

ใช้คำสั่ง `git restore`

เริ่มตั้งแต่ Git เวอร์ชัน 2.23 เป็นต้นมา ได้เพิ่มคำสั่งใหม่คือ `git restore` ซึ่งถูกออกแบบมาเพื่อความชัดเจนและง่ายในการใช้งาน เพื่อรีเซ็ตไฟล์ สามารถใช้ดังนี้:


git restore ชื่อไฟล์

 

การย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงที่ได้ commit แล้ว

บางครั้งการเปลี่ยนแปลงที่ไม่ต้องการนั้นอาจจะได้ผ่านขั้นตอนของการ commit ไปยัง branch แล้ว กรณีนี้ก็ยังสามารถแก้ไขได้ด้วยวิธีการต่าง ๆ ดังนี้:

ใช้คำสั่ง `git revert`

คำสั่ง `git revert` จะสร้าง commit ใหม่ที่เป็นการกลับกันกับการเปลี่ยนแปลงใน commit ที่ต้องการย้อนกลับ:


git revert ชื่อcommit

การใช้วิธีนี้จะเหมาะสมกับกรณีที่เราได้ทำ push การเปลี่ยนแปลงนั้นไปยัง remote repository แล้ว เพราะเป็นการรักษาประวัติของ commit ทั้งหมดได้ครบถ้วน

ใช้คำสั่ง `git reset`

หากการเปลี่ยนแปลงนั้นยังไม่ได้ถูก push ไปยัง remote repository และเรามั่นใจว่าไม่มีใครใช้งาน commit นั้น การใช้ `git reset` เพื่อย้อนสถานะของ branch เป็นอีกตัวเลือกหนึ่ง:


git reset --hard ชื่อcommitก่อนหน้า

การใช้คำสั่งนี้จะย้อนประวัติไปยังจุดที่ระบุ และทำให้การเปลี่ยนแปลงตั้งแต่ commit นั้นถูกลบออกไป

 

กรณีตัวอย่างการใช้

สมมติคุณทำงานในโครงการซึ่งมีหลาย ๆ ไฟล์ที่กำลังพัฒนา และเมื่อคุณเริ่มทดสอบฟังก์ชันใหม่คุณพบว่ามันมีบั๊กเกิดขึ้น และต้องการย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงดังต่อไปนี้:

1. คุณเปลี่ยนไฟล์ `app.js` โดยไม่ตั้งใจ

2. คุณได้ commit การเปลี่ยนแปลงที่ไม่ต้องการไปใน branch `develop`

การย้อนกลับไฟล์ `app.js`

คุณสามารถใช้ `git restore` เพื่อย้อนกลับไฟล์:


git restore app.js

การย้อนกลับ commit ใน `develop`

หากต้องการรักษาประวัติในขณะที่ต้องการให้การเปลี่ยนแปลงกลับคืน คุณควรใช้:


git revert commit_id

 

สรุป

การจัดการและการย้อนกลับการเปลี่ยนแปลงใน Git เป็นสิ่งที่มีความสำคัญและจำเป็นสำหรับนักพัฒนาเพื่อรักษาคุณภาพของโค้ดและจัดการกับข้อผิดพลาดที่เกิดขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ การทำความเข้าใจกับคำสั่งพื้นฐานเหล่านี้จะช่วยให้การทำงานของคุณสามารถดำเนินไปได้อย่างลื่นไหล ไม่ว่าคุณจะทำงานคนเดียวหรือมีทีมงาน การศึกษาเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Git ย่อมจะเป็นประโยชน์ไม่ว่าคุณจะอยู่ในระดับใดก็ตาม

หากคุณสนใจที่จะพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมเพิ่มเติมรวมถึงการใช้เครื่องมืออย่าง Git สามารถพิจารณาศึกษากับ EPT ซึ่งเรามีหลักสูตรครอบคลุมถึงความรู้ที่จำเป็นและทักษะที่สำคัญต่อการเป็นนักพัฒนามืออาชีพ

 

 

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง

หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/


Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android


บทความนี้อาจจะมีที่ผิด กรุณาตรวจสอบก่อนใช้

หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor

ไม่อยากอ่าน Tutorial อยากมาเรียนเลยทำอย่างไร?

สมัครเรียน ONLINE ได้ทันทีที่ https://elearn.expert-programming-tutor.com

หรือติดต่อ

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM

แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา

แผนผังการเรียนเขียนโปรแกรม

Link อื่นๆ

Allow sites to save and read cookie data.
Cookies are small pieces of data created by sites you visit. They make your online experience easier by saving browsing information. We use cookies to improve your experience on our website. By browsing this website, you agree to our use of cookies.

Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com

ติดต่อเราได้ที่

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา