การใช้งาน MD-5 hash algorithm ในภาษา Java แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง

การใช้งาน MD-5 hash algorithm ในภาษา Java

ในยุคที่โลกดิจิทัลมีความล้ำหน้าอย่างก้าวกระโดด ความปลอดภัยข้อมูลบนโลกไซเบอร์ก็เป็นสิ่งที่ถูกให้ความสำคัญเป็นอย่างมาก เรามักจะได้ยินถึงการใช้เทคนิคต่างๆในการเข้ารหัสข้อมูล เพื่อรักษาความลับ และป้องกันการเข้าถึงจากบุคคลที่ไม่พึงประสงค์ หนึ่งในเทคนิคที่ได้รับความนิยมคือการใช้งาน MD-5 (Message-Digest algorithm 5) ที่ซึ่งเป็นฟังก์ชั่นการแฮช (Hash Function) ที่ถูกใช้งานอย่างกว้างขวางในโปรแกรมแอพพลิเคชั่นต่างๆ เพื่อเช็คความสมบูรณ์ของข้อมูล

การทำงานของ MD-5

MD-5 สร้าง "digital fingerprint" หรือ "hash value" ของข้อมูล ซึ่งเป็นชุดของตัวเลขและตัวอักษรที่มีความยาวคงที่ เพื่อนำไปใช้งานในการตรวจสอบความสมบูรณ์ของข้อมูลนั้นๆ ความสามารถสำคัญของ MD-5 คือ ไม่ว่าข้อมูลที่ถูกแฮชนั้นจะมีความยาวหรือขนาดเพียงใด ผลลัพธ์ที่ได้จากการแฮชข้อมูลนั้นจะมีขนาดเท่ากันเสมอ ซึ่งเป็นลักษณะสำคัญที่ทำให้ MD-5 เหมาะอย่างยิ่งสำหรับการตรวจสอบไฟล์

ตัวอย่างการใช้งาน MD-5 ในภาษา Java

ใน Java, เราสามารถเข้าถึงฟังก์ชั่น MD-5 ได้โดยใช้คลาส `MessageDigest` มาดูตัวอย่างการใช้งาน MD-5 ในภาษา Java กัน

ตัวอย่างที่ 1: สร้าง MD5 Hash จาก String

 import java.security.MessageDigest;
import java.security.NoSuchAlgorithmException;

public class MD5Example {
    public static String getMD5Hash(String input) {
        try {
            // Create MD5 Hash
            MessageDigest digest = java.security.MessageDigest.getInstance("MD5");
            digest.update(input.getBytes());
            byte messageDigest[] = digest.digest();

            // Create Hex String
            StringBuffer hexString = new StringBuffer();
            for (int i = 0; i < messageDigest.length; i++) {
                String h = Integer.toHexString(0xFF & messageDigest[i]);
                while (h.length() < 2)
                    h = "0" + h;
                hexString.append(h);
            }
            return hexString.toString();
        } catch (NoSuchAlgorithmException e) {
            e.printStackTrace();
        }
        return "";
    }

    public static void main(String[] args) {
        System.out.println(getMD5Hash("Hello World"));
    }
}

ตัวอย่างที่ 2: ตรวจสอบไฟล์ด้วย MD5

 import java.security.MessageDigest;
import java.io.FileInputStream;
import java.io.InputStream;

public class MD5Checksum {

    public static byte[] createChecksum(String filename) throws Exception {
        InputStream fis =  new FileInputStream(filename);

        byte[] buffer = new byte[1024];
        MessageDigest complete = MessageDigest.getInstance("MD5");
        int numRead;

        do {
            numRead = fis.read(buffer);
            if (numRead > 0) {
                complete.update(buffer, 0, numRead);
            }
        } while (numRead != -1);

        fis.close();
        return complete.digest();
    }

    public static String getMD5Checksum(String filename) throws Exception {
        byte[] b = createChecksum(filename);
        String result = "";

        for (int i=0; i < b.length; i++) {
            result += Integer.toString((b[i] & 0xff) + 0x100, 16).substring(1);
        }
        return result;
    }

    public static void main(String args[]) {
        try {
            System.out.println(getMD5Checksum("path_to_file/filename.txt"));
        } catch (Exception e) {
            e.printStackTrace();
        }
    }
}

ตัวอย่างที่ 3: รับค่า MD5 Hash จาก Input Stream

 import java.security.MessageDigest;
import java.io.InputStream;
import java.util.Scanner;

public class MD5InputStreamExample {
    public static String getMD5Hash(InputStream is) {
        try {
            MessageDigest md = MessageDigest.getInstance("MD5");
            byte[] dataBytes = new byte[1024];

            int nread = 0;
            while ((nread = is.read(dataBytes)) != -1) {
                md.update(dataBytes, 0, nread);
            };
            byte[] mdbytes = md.digest();

            //convert the byte to hex format
            StringBuffer sb = new StringBuffer();
            for (int i = 0; i < mdbytes.length; i++) {
                sb.append(Integer.toString((mdbytes[i] & 0xff) + 0x100, 16).substring(1));
            }

            return sb.toString();
        } catch(Exception e) {
            e.printStackTrace();
        }
        return null;
    }

    public static void main(String[] args) {
        System.out.println("Enter data to hash:");
        Scanner scanner = new Scanner(System.in);
        String input = scanner.nextLine();
        scanner.close();

        System.out.println(getMD5Hash(new ByteArrayInputStream(input.getBytes(StandardCharsets.UTF_8))));
    }
}

Usecase ของ MD-5 Hash Algorithm ในโลกจริง

MD-5 ถูกนำไปใช้งานในหลายแอพพลิเคชั่น ตัวอย่างเช่น:

แม้ว่า MD-5 จะได้รับการวิจารณ์เนื่องจากมีประสิทธิภาพไม่สูงเท่าระบบการเข้ารหัสที่ทันสมัย และยังมีข้อจำกัดในเรื่องของการหา "collision" คือสถานการณ์ที่สองแฮชต่างกันสามารถบ่งบอกถึงข้อมูลเดียวกันได้ แต่ก็ยังคงเป็นเครื่องมือที่ถูกใช้งานอยู่ในหลายๆครั้ง ความรู้และความเข้าใจในการใช้งานที่ถูกต้องจะช่วยป้องกันข้อมูลของคุณให้ปลอดภัย

เพื่อเสริมสร้างความเข้าใจในการใช้งาน MD-5 ในการเขียนโปรแกรมภาษา Java หรือความรู้เพิ่มเติมในการเขียนโปรแกรมอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้เกี่ยวกับการแฮชเพื่อความปลอดภัยของข้อมูล หรือการใช้งาน API ต่างๆ ในภาษา Java ที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) พวกเรามีหลักสูตรที่หลากหลาย เพื่อช่วยให้ผู้เรียนได้หาคำตอบของข้อสงสัย และสามารถนำความรู้ไปใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์หรือบริการของคุณให้ดียิ่งขึ้น สนใจเรียนรู้การเขียนโปรแกรมกับเราได้ที่ EPT ที่ไหนก็เรียนได้!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง