การใช้งาน การสืบทอด (Inheritance) ในภาษา Java แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง

การสืบทอด (Inheritance) ในภาษา JAVA: การเรียนรู้ที่เข้าใจง่ายด้วยตัวอย่างจริง

ในโลกของการเขียนโปรแกรม คำว่า “การสืบทอด” (Inheritance) เป็นหนึ่งในแนวคิดพื้นฐานที่สำคัญอย่างยิ่งในหลักการโปรแกรมเชิงวัตถุ (Object-Oriented Programming - OOP) ซึ่งภาษา Java นั้นได้ถูกออกแบบมาให้สนับสนุนการใช้งาน OOP เป็นอย่างดี การสืบทอดช่วยให้การเขียนโปรแกรมมีความยืดหยุ่นและสามารถนำโครงสร้างของโปรแกรมที่มีอยู่ไปสร้างและปรับปรุงใหม่ได้อย่างง่ายดายเพื่อให้ตรงตามความต้องการในแต่ละสถานการณ์

พื้นฐานการสืบทอดใน Java

การสืบทอดในภาษา Java หมายถึงการที่คลาสลูก (subclass) สามารถรับคุณสมบัติและพฤติกรรม (เมธอด) ที่ถูกนิยามไว้ในคลาสแม่ (superclass) ทั้งนี้ คลาสลูกสามารถขยายหรือแก้ไขพฤติกรรมเหล่านั้นได้ตามความจำเป็น ซึ่งได้จุดเด่นคือในเรื่องของการรีไซเคิลโค้ดได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างที่ 1: การสืบทอดคลาสพื้นฐาน

 /* คลาส Vehicle เป็น superclass ที่ให้คุณสมบัติพื้นฐานกับยานพาหนะทุกประเภท */
class Vehicle {
    protected String brand = "Ford"; // ยี่ห้อของยานพาหนะ

    public void honk() { // เสียงแตรของยานพาหนะ
        System.out.println("Tuut, tuut!");
    }
}

/* คลาส Car สืบทอดคุณสมบัติจาก Vehicle */
class Car extends Vehicle {
    private String modelName = "Mustang"; // รุ่นของรถ

    public static void main(String[] args) {
        // สร้างออบเจ็กต์ของคลาส Car
        Car myCar = new Car();

        // เรียกใช้เมธอด honk() และเข้าถึงตัวแปร brand จากคลาส Vehicle
        myCar.honk();
        System.out.println(myCar.brand + " " + myCar.modelName);
    }
}

เมื่อรันโค้ดข้างต้น ผลลัพธ์ที่แสดงคือ:

 Tuut, tuut!
Ford Mustang

ตัวอย่างที่ 2: การขยายเมธอดจาก Superclass

 /* คลาส Vehicle แบบเดิม */
class Vehicle {
    ...
}

/* คลาส Car ที่เพิ่มเมธอดหรือพฤติกรรมเข้าไป */
class Car extends Vehicle {
    ...

    // เมธอดแสดงความเร็วสูงสุด
    public void showMaxSpeed() {
        System.out.println("Max speed is 200km/h");
    }

    public static void main(String[] args) {
        ...
        // แสดงความเร็วสูงสุด
        myCar.showMaxSpeed();
    }
}

เมื่อแสดงความเร็วสูงสุด จะเห็นว่า:

 Max speed is 200km/h

ตัวอย่างที่ 3: การทับศัพท์เมธอด (Method Overriding)

 /* คลาส Vehicle ที่มีเมธอดต้นแบบ */
class Vehicle {
    ...
    public void showInfo() {
        System.out.println("I'm a Vehicle");
    }
}

/* คลาส Car ที่ทับศัพท์เมธอด showInfo() จาก Vehicle */
class Car extends Vehicle {
    ...

    public void showInfo() {
        // เรียกใช้เมธอด showInfo จาก superclass
        super.showInfo();
        System.out.println("And I'm specifically a Car");
    }

    public static void main(String[] args) {
        ...
        // แสดงข้อมูลของ Car
        myCar.showInfo();
    }
}

เมื่อโปรแกรมทำงานจะแสดงผลว่า:

 I'm a Vehicle
And I'm specifically a Car

Usecase ในโลกจริงของการสืบทอด

การสืบทอดไม่ได้มีประโยชน์เฉพาะในทางทฤษฎีเท่านั้น แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาซอฟต์แวร์จริงๆ ตัวอย่างเช่น ในการพัฒนาแอปพลิเคชันอีคอมเมิร์ซ สามารถสร้างคลาส Product เป็น superclass และสืบทอดไปยังคลาสย่อยๆ เช่น Electronics, Clothing, Food ซึ่งแต่ละคลาสย่อยจะมีลักษณะเฉพาะที่ต่างกัน เช่น Electronics อาจมีเมธอดที่แสดงสเปคของอุปกรณ์ ในขณะที่ Clothing อาจมีเมธอดที่แสดงไซส์หรือวัสดุที่ใช้

การใช้การสืบทอดทำให้โค้ดมีความเรียบร้อยและสามารถจัดการกับคุณสมบัติที่ซ้ำๆ ได้อย่างมีประสิทธิภาพ ยิ่งไปกว่านั้นยังช่วยลดโอกาสของข้อผิดพลาดเนื่องจากไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดที่เหมือนกันซ้ำแล้วซ้ำเล่า

การเรียนรู้การสืบทอดใน Java เป็นขั้นตอนแรกที่ดีในการสร้างความเข้าใจลึกซึ้งเกี่ยวกับแนวคิดในการโปรแกรมเชิงวัตถุ และที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) เรามีหลักสูตรที่จะนำคุณไปสู่ความเชี่ยวชาญตั้งแต่ระดับพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง ไม่ว่าคุณจะต้องการทำงานกับโครงการต่างๆ หรือพัฒนาแอปพลิเคชันของตัวเอง ความรู้เหล่านี้จะเป็นพื้นฐานที่แข็งแกร่งสำหรับความสำเร็จในอนาคตของคุณ!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง