หัวข้อ: เข้าใจ Loop และ If-Else ภายใน Loop ในภาษา Java ผ่านตัวอย่างจริง
ในโลกแห่งการเขียนโปรแกรม คำว่า "Loop" (วนซ้ำ) และ "If-Else" (การตัดสินใจ) เป็นพื้นฐานที่สำคัญไม่แพ้กัน ทั้งสององค์ประกอบนี้เมื่อรวมกัน สามารถนำมาใช้สร้างโปรแกรมที่มีความซับซ้อนได้ด้วยความง่ายดาย เราจะพาไปดูว่า Loop คืออะไร, If-Else คืออะไร และทำไมเราถึงนำทั้งสองมาใช้ร่วมกันในภาษา Java อย่างไรให้ได้ผลลัพธ์ที่ต้องการ พร้อมทั้งยกตัวอย่าง usecase จากโลกจริง และตัวอย่าง Code ที่เข้าใจง่ายตามมาด้านล่างนี้ครับ
Loop เป็นกลไกที่อนุญาตให้โปรแกรมจะต้องทำซ้ำส่วนของโค้ดนั้นๆ จนกว่าจะได้ผลลัพธ์ที่ต้องการหรือตรงตามเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ในขณะที่ If-Else ให้ความสามารถในการเลือกทางเลือกของการดำเนินการตามเงื่อนไขที่กำหนด การรวมกันของ Loop และ If-Else จึงเป็นการใช้เงื่อนไขในการควบคุมการวนซ้ำ ทำให้โปรแกรมมีความยืดหยุ่นและสามารถรับมือกับสถานการณ์ที่แตกต่างกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ในที่นี้เราจะใช้ loop ร่วมกับ if-else เพื่อกรองข้อมูลภายใน array ให้สอดคล้องกับเงื่อนไขที่เราต้องการ ตัวอย่างนี้จะแสดงวิธีการใช้งาน loop เพื่อตรวจสอบข้อมูลทุกๆ ตัวภายใน array และใช้ if-else เพื่อเลือกเฉพาะข้อมูลที่เหมาะสม
public class FilterExample {
public static void main(String[] args) {
int[] numbers = {1, 2, 3, 4, 5, 6, 7, 8, 9, 10};
// กรองเฉพาะเลขคี่
for (int i = 0; i < numbers.length; i++) {
if (numbers[i] % 2 != 0) {
System.out.println(numbers[i] + " เป็นเลขคี่");
}
}
}
}
ในโค้ดนี้, โครงสร้าง `for` ถูกใช้เพื่อวนซ้ำผ่าน array ที่มีชื่อว่า `numbers`, และเงื่อนไข `if` ถูกใช้เพื่อตรวจหาตัวเลขที่เป็นเลขคี่ (ไม่สามารถหารด้วย 2 ได้ลงตัว) ในทุกรอบของการวนซ้ำ เมื่อพบว่าเลขใดเป็นเลขคี่ จะทำการพิมพ์ข้อมูลนั้นออกแสดงผล
ในตัวอย่างที่สองนี้ เราจะสร้างเมนูโต้ตอบ (interactive menu) ที่เอาต์พุตแตกต่างกันไปตามการเลือกของผู้ใช้ ใช้ loop เพื่อรับข้อมูลจากผู้ใช้ซ้ำๆ เรื่อยๆ และ if-else เพื่อตรวจการเลือกนั้นและดำเนินการที่ตรงกับเงื่อนไข
import java.util.Scanner;
public class MenuExample {
public static void main(String[] args) {
Scanner scanner = new Scanner(System.in);
int choice;
do {
System.out.println("===== เมนู =====");
System.out.println("1. ดูข้อมูล");
System.out.println("2. แก้ไขข้อมูล");
System.out.println("3. ออกจากโปรแกรม");
System.out.print("กรุณาเลือกหมายเลข: ");
choice = scanner.nextInt();
if (choice == 1) {
System.out.println("ข้อมูลของคุณคือ...");
} else if (choice == 2) {
System.out.println("กำลังแก้ไขข้อมูล...");
} else if (choice == 3) {
System.out.println("ออกจากโปรแกรม...");
} else {
System.out.println("เลือกไม่ถูกต้อง, กรุณาเลือกใหม่!");
}
} while (choice != 3);
scanner.close();
}
}
ในตัวอย่างนี้, โครงสร้าง `do-while` ถูกใช้เพื่อรับข้อมูลการเลือกจากผู้ใช้ จนกระทั่งผู้ใช้เลือกที่จะ “ออกจากโปรแกรม” เลือกไม่ตรงเงื่อนไขที่กำหนดไว้ ก็จะขึ้นว่า "เลือกไม่ถูกต้อง" และให้เลือกใหม่อีกครั้ง
เห็นไหมว่าโครงสร้าง Loop และ If-Else นั้นมีความสามารถในการทำให้โปรแกรมของเรานั้นเป็นระเบียบและมีประสิทธิภาพมากขึ้น เพราะช่วยให้เราจัดการกับสิ่งที่ซ้ำๆ แต่มีเงื่อนไขเฉพาะได้อย่างตรงจุด ทั้งนี้ EPT มีหลักสูตรที่สอนถึงหลักการของ Loop และการใช้งาน If-Else อย่างลึกซึ้ง คุณจะได้เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาและสร้างโปรแกรมที่มีประสิทธิภาพผ่านการฝึกฝนอย่างแท้จริง หากคุณสนใจในการขยายขอบเขตทักษะของคุณ อย่าลืมให้ EPT เป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ของคุณในโลกของการเขียนโปรแกรม!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: loop if-else java programming conditional_statements programming_basics arrays interactive_menu dynamic_programming example_code java_programming looping decision_making code_example
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com