สมัครเรียนโทร. 085-350-7540 , 084-88-00-255 , ntprintf@gmail.com

Tutorial JAVA

01 install Eclipse 02 intro to programming Eclipse 03 condition 04.loop 05.array 05 2 array cont 06 01 function 06 02 function cont 07 object 08 string 09 constructor 10 01 oop 10 02 oop2 11 exception 12 reading file 13 thread 14 generic 15 01 GUI 15 02 GUI2 15 03.GUI3 16 using WindowBuilder 17 event 18 database management system 19 ER diagram 20 Relational 21 Xampp 22 JDBC 23 MVC 24 SQL

การเลือกทำหรือคำสั่งเงื่อนไข

            คำสั่งเงื่อนไขเป็นหนึ่งในคำสั่งสำหรับการควบคุมโปรแกรมซึ่งอีกอันได้แก่คำสั่งทำซ้ำ ซึ่งทั้ง 2 อย่างนี้มีความสำคัญต่อการเขียนโปรแกรมต่อๆไปเป็นอย่างมาก จึงควรมีต้องฝึกให้ชำนาญ

เงื่อนไข if

เป็นเงื่อนที่ตรวจสอบว่าสิ่งที่ภายใต้เงื่อนไงที่เขียนเอาไว้เป็นจริงหรือไม่ ถ้าจริงจะทำตามเงื่อนที่เขียนไว้ ถ้าไม่เป็นไปตามเงื่อนไขก็จะไม่ทำตามคำสั่ง จะไปตรวจสอบคำสั่งที่อยู่ถัดจาก if ออกไป

 

if(เงื่อนไข)

{                                                                      

            คำสั่งที่1;  // มีได้มากกว่า 1 คำสั่ง

}

คำสั่งที่2  // มีได้มากกว่า 1 คำสั่ง


รูป 3-1

 

 

ถ้ามีคำสั่งเดียวภายในเงื่อนไข if ไม่ต้องมี { } ได้ เช่น

If(number%2 == 0)

{

            System.out.println(“even number”);

}

เขียนแบบไม่มี { } ก็ได้

If(number%2 == 0)      System.out.println(“even number”);

แต่ถ้ามีมากกว่า 1 ต้องใส่ { } ให้เรียบร้อยจะเห้นได้จากตัวอย่างต่อๆไป

 

ตัวอย่าง


รูป 3-2

โปรแกรมนี้ประกาศตัวแปรเป็นตัวเลขจำนวนเต็มถามว่าจำนวนเต็มนี้เป็นเลขคู่หรือไม่ ซึ่งการจะรู้ว่าเป็นเลขคู่หรือไม่ ต้องรู้ว่า เลขคู่คือตัวเลขที่เมื่อเอาสองไปหารแล้วลงตัว

บรรทัดที่ 6 : ประกาศตัวแปร number เป็นชนิด int

บรรทัดที่ 8 : สร้างเงื่อนไข if ถามว่า number หาร 2 แล้วเศษเป็นศูนย์หรือไม่  

บรรทัดที่ 10 : เขียนคำสั่ง ถ้าเงื่อนไขเป็นจริงให้ ให้บอกว่าตัวเลขนั้นเป็นเลขคู่

ได้ผลลัพธ์ใน console ดังนี้


รูป 3-3

คำสั่ง if else

            คำสั่ง if เป็นคำสั่งที่ตรวจสอบว่าเงื่อนไขเป็นจริงหรือไม่ หากจริงจะทำตามคำสั่ง แต่ไม่บอกว่าถ้าเท็จต้องทำอะไรหรือไม่ ส่วน if else จะเพิ่มเติมจาก if ขึ้นมาว่าถ้าจริงให้ทำอะไร หากเท็จให้ทำอะไรต่อ ก็จะเป็นการตรวจสอบเงื่อนไขให้สมบูรณ์ขึ้น

 

 

if(เงื่อนไข)

{                                                                      

            คำสั่งที่1;  // มีได้มากกว่า 1 คำสั่ง

}

else

{

คำสั่งที่2;  // มีได้มากกว่า 1 คำสั่ง


รูป3-4

 

 

}

คำสั่งอื่น;

 

ตัวอย่าง


รูป 3-5

 

            โปรแกรมนี้ต้องการดูว่าคะแนนสอบผ่านหรือไม่หากมากกว่าหรือเท่ากับ 50 คะแนนถือว่าผ่าน ถ้าไม่ถือว่าสอบไม่ผ่าน

บรรทัดที่ 8 : สร้างเงื่อนไขถามว่าคะแนนมากว่าหรือเท่ากับ50หรือไม่

บรรทัดที่10-11: หากใช่ ให้แสดงข้อความตามคำสั่งทั้งสอง

บรรทัดที่ 14 : หากเงื่อนไขเป็นเท็จ ให้ทำตามคำสั่งในบรรทัดที่ 16-18 จากนั้นให้ออกจากเงื่อนไข

 

นอกจากรูปแบบ

if(เงื่อนไข)

{                                                                      

            คำสั่งที่1;  // มีได้มากกว่า 1 คำสั่ง

}

else

{

คำสั่งที่2;  // มีได้มากกว่า 1 คำสั่ง

}

คำสั่งอื่น;

 

คำสั่ง if else สามาเขียนได้ในรูปแบบหนึ่งคือ ตัวแปร = เงื่อนไข? คำสั่ง1:คำสั่ง 2;

            c = a > b ? a : b;

            a มากกว่า b หรือไม่ ถ้าใช่ให้ทำ a ถ้าไม่ใช่ ให้ทำ b

                       

เงื่อนไขแบบ Nested if

            คือจะมี การใช้ if else ต่อกันยาวมากกว่า 1 ครั้งติดกัน จึงเรียกว่า Nested if แปลว่า if ที่ซ้อนๆกัน ช่วยในการตรวจสอบ เงื่อนไขที่ซับซ้อนมากขึ้น กล่าวก็คือมีหลายเงื่อนไข

if(เงื่อนไข)

{                                                                      

            คำสั่งที่1;  // มีได้มากกว่า 1 คำสั่ง

}

else if(เงื่อนไข)

{

คำสั่งที่2;  // มีได้มากกว่า 1 คำสั่ง

}

else if(เงื่อนไข)

{

คำสั่งที่3;  // มีได้มากกว่า 1 คำสั่ง

}



รูป3-6

บรรทัดที่ 9 : ประกาศตัวแปร day เป็นชนิด int

บรรทัดที่ 10 : เรียกใช้คำสั่ง Scan สำหรับ input ข้อมูลจากแป้นพิมพ์

บรรทัดที่ 11 :แสดงผลให้รับข้อมูลเป็นเลขจำนวนเต็ม 1-7 บรรทัดที่ 12 ให้เก็บสิ่งที่ input เข้ามาใส่ไว้ในตัวแปล day

บรรทัด14-61 : จากนั้นตรวจสอบด้วยเงื่อนไข if else ต้องตรวจสอบปีกกาให้ครบคู่กัน

แต่เนื่อง if else แบบข้างบน มีเพียงคำสั่งเดียวในแต่ละเงื่อนไข จึงสามารถเขียนได้อีกวิธีหนึ่ง ดังรูปต่อไปนี้


รูป 3-7

 

ผลลัพธ์ที่ได้


รูป 3-8

 

เงื่อนไขแบบ switch-case

            เป็นอีกรูปแบบหนึ่งของคำสั่งเงื่อนไข เมื่อเรากำหนดเงื่อนไขขึ้น โปรแกรมจะทำการตรวจสอบว่าตรงกับกรณีใดๆที่กำหนดเอาไว้หรือหากมีจะทำกรณีนั้นและจบโปรแกรม

 

switch(ตัวแปรหรือนิพจน์ที่ต้องการตรวจสอบ)

{

            case ค่าที่ 1:

                        คำสั่งที่ 1;

                        break;

case ค่าที่ 2:

                        คำสั่งที่ 2;

                        break;

           

// ใส่ case เท่าที่ต้องการ

            default :

                        คำสั่งที่ 3;

}

break เป็นสิ่งที่ลืมไม่ได้ในแต่ละ case เพราะเป็นคำสั่งหยุดการทำงานจากเงื่อนไขทันที จะได้ไม่ตรวจสอบ case ที่เหลืออีก (ถ้าเป็น ลูป(loop) คำสั่ง break จะเป็นการออกจากลูป)

default คล้ายกับ else ใน if else กล่าวคือ เป็นส่วนที่ถ้าสิ่งที่รับเข้ามาไม่ตรงกับ case ไหนเลย ก็ให้ กำหนดว่าจะทำคำสั่งอะไร

ตัวอย่าง


รูป 3-9

บรรทัดที่ 9-12 : เป็นการประกาศตัวแปรและรับตัวเลขจากแป้นพิมพ์มาใส่ในตัวแปร

บรรทัดที่ 14 : ใช้คำสั่งเงื่อนไขแบบ switch-case รับตัวแปร num มาตรวจสอบ case

บรรทัดที่ 16-18 : ถ้าเลขที่รับเข้ามาเป็น เลข 1 จะตรงกับ case 1 ก็จะทำคำสั่งแสดงผลออกทางหน้าจอว่า

THE SELFLESS และ case อืนๆก็จะออกตามคำสั่งที่อยู่ในปีกกา

บรรทัดที่ 32 : default หากผู้ใช้ใส่ตัวเลขเข้ามาเกินกว่า 1-5 ก็จะไม่อยู่ใน case ที่เขียนลงไปให้แสดงผลคำว่า

DIVERGENT



บทความนี้อาจจะมีที่ผิด กรุณาตรวจสอบก่อนใช้

หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor

ไม่อยากอ่าน Tutorial อยากมาเรียนเลยทำอย่างไร?

สมัครเรียน ONLINE ได้ทันทีที่ https://elearn.expert-programming-tutor.com

หรือติดต่อ

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM

แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา

C Article


C++ Article


Java Article


C#.NET Article


VB.NET Article


Python Article


Golang Article


JavaScript Article


Perl Article


Lua Article


Rust Article


Article


Python


Python Numpy


Python Machine Learning



แผนผังการเรียนเขียนโปรแกรม

Link อื่นๆ

Allow sites to save and read cookie data.
Cookies are small pieces of data created by sites you visit. They make your online experience easier by saving browsing information. We use cookies to improve your experience on our website. By browsing this website, you agree to our use of cookies.

Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com

ติดต่อเราได้ที่

085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
แผนที่ ที่ตั้งของอาคารของเรา