ในโลกของการเขียนโปรแกรม การจัดการข้อมูลที่มีประสิทธิภาพเป็นสิ่งหนึ่งที่น่าสนใจและท้าทายสำหรับโปรแกรมเมอร์ หนึ่งใน Algorithm ที่เป็นที่นิยมในการเรียงลำดับข้อมูลคือ "Quick Sort" ซึ่งเป็นเทคนิคที่ให้ความเร็วและมีประสิทธิภาพสูงในหลายสถานการณ์ ในบทความนี้ เราจะพูดถึง Quick Sort ที่เขียนด้วยภาษา Java และจะทำความเข้าใจถึงคุณสมบัติของมัน รวมถึงข้อดีข้อเสียและ usecase ในโลกจริง
Quick Sort เป็น algorithm สำหรับการเรียงลำดับข้อมูลที่ใช้หลักการ 'divide and conquer' โดยแบ่งข้อมูลออกเป็นส่วนย่อยๆ และทำการเรียงลำดับแต่ละส่วนย่อยนั้นแยกกัน จนกระทั่งข้อมูลทั้งหมดถูกเรียงลำดับอย่างถูกต้อง เป็นที่นิยมเพราะการประมวลผลที่รวดเร็วในสถานการณ์จริงส่วนใหญ่
ลักษณะการทำงานของ Quick Sort
1. การเลือก Pivot: Quick Sort เริ่มต้นด้วยการเลือกองค์ประกอบหนึ่งเป็น 'pivot' ซึ่งมักจะเลือกจากองค์ประกอบแรก, องค์ประกอบกลาง, หรือองค์ประกอบสุดท้ายของ array ที่จะเรียงลำดับ
2. การแบ่ง Partition: ฟังก์ชันนี้จะจัดเรียงข้อมูลใน array ให้วางตำแหน่งที่ถูกต้องของ pivot โดยองค์ประกอบที่มีค่าน้อยกว่า pivot จะอยู่ด้านซ้าย และที่มีค่ามากกว่า pivot จะอยู่ด้านขวา
3. การเรียงลำดับแบบ Recursive: หลังจากทำ Partition และระบุตำแหน่งของ pivot แล้ว Quick Sort จะเรียกร้องตัวเองเพื่อเรียงลำดับส่วนย่อยด้านซ้ายและด้านขวาของ pivot
ตัวอย่างโค้ด Quick Sort ใน Java
public class QuickSortExample {
private static void quickSort(int[] array, int low, int high) {
if (low < high) {
int pi = partition(array, low, high);
quickSort(array, low, pi - 1);
quickSort(array, pi + 1, high);
}
}
private static int partition(int[] array, int low, int high) {
int pivot = array[high];
int i = (low - 1); // index of smaller element
for (int j = low; j < high; j++) {
// If current element is smaller than the pivot
if (array[j] < pivot) {
i++;
// swap array[i] and array[j]
int temp = array[i];
array[i] = array[j];
array[j] = temp;
}
}
// swap array[i+1] and array[high] (or pivot)
int temp = array[i+1];
array[i+1] = array[high];
array[high] = temp;
return i + 1;
}
public static void main(String args[]) {
int arr[] = {10, 7, 8, 9, 1, 5};
int n = arr.length;
quickSort(arr, 0, n - 1);
System.out.println("Sorted array: ");
for (int i = 0; i < n; i++) {
System.out.print(arr[i] + " ");
}
}
}
Usecase ในโลกจริง
Quick Sort ถูกใช้ในการเรียงลำดับข้อมูลจำนวนมาก เช่น ในฐานข้อมูล, ระบบการจัดการไฟล์, และแม้กระทั่งในการเรียงลำดับคอลเลกชันข้อมูลภายในภาษาโปรแกรมต่างๆ เนื่องจากความสามารถในการสลับข้อมูลได้รวดเร็ว
Complexity
Quick Sort มีเวลาการทำงานเฉลี่ย (average case time complexity) อยู่ที่ O(n log n) ซึ่งทำให้มันมีความเร็วพอๆกับ Merge Sort แต่ในกรณีที่แย่ที่สุด (worst case) เมื่อ pivot ถูกเลือกไม่ดีและไม่อาจทำให้ข้อมูลแบ่งเท่าๆกันได้ complexity ของมันกลายเป็น O(n^2) ซึ่งช้ามาก
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี
- หากเลือก pivot ได้ดีและข้อมูลแบ่งออกเป็นสองส่วนที่สมดุล จะทำให้ Quick Sort ทำงานได้รวดเร็วมาก
- ไม่จำเป็นต้องใช้พื้นที่เพิ่มเติมเหมือน Merge Sort (In-place sorting)
ข้อเสีย
- ในระหว่างการทำงาน Quick Sort อาจใช้ความจำในสเต็ก (stack memory) ไปในปริมาณมากหากข้อมูลมีขนาดใหญ่
- กรณีที่แย่ที่สุดอาจทำให้เกิดประสิทธิภาพการทำงานที่ต่ำมาก
การเรียนรู้เกี่ยวกับ Quick Sort และ Algorithm อื่นๆ เป็นทักษะสำคัญที่ EPT มุ่งมั่นให้การสนับสนุน เรายินดีต้อนรับนักเรียนทุกท่านที่ต้องการพัฒนาทักษะการเขียนโค้ดและการแก้ปัญหาด้วยโลจิกการเขียนโปรแกรม อย่างมั่นใจ มาร่วมกับเราที่ EPT และปูพื้นฐานที่แข็งแกร่งในการเป็นโปรแกรมเมอร์มืออาชีพได้ตั้งแต่วันนี้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: quick_sort java algorithm sorting divide_and_conquer programming efficient_algorithm recursive_algorithm pivot_selection partitioning time_complexity in-place_sorting stack_memory merge_sort data_structure
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM