การใช้งาน accesibility in OOP concept ในภาษา Dart แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง CODE 3 ตัวอย่าง และอธิบายการทำงาน และยกตัวอย่าง usecase ในโลกจริง

# ความจำเป็นของการใช้งาน Access Control ใน OOP ผ่านภาษา Dart

การเขียนโปรแกรมมีหลากหลายรูปแบบและแนวคิด แต่หนึ่งในแนวคิดที่ได้รับความนิยมแพร่หลายคือการเขียนโปรแกรมแบบวัตถุที่จัดการ (Object-Oriented Programming - OOP), ซึ่งคำร้องขอต่อความปลอดภัย (access control) เป็นหัวใจสำคัญในการออกแบบระบบ. ในภาษา Dart, การจัดการ Access Control ถูกใช้เพื่อรักษาความปลอดภัยของข้อมูลและรักษาความสมบูรณ์ของระบบ. บทความนี้จะแนะนำความสำคัญและการใช้งาน Access Control ในภาษา Dart พร้อมด้วยตัวอย่าง CODE.

ความเข้าใจ Access Control ใน Dart

Access Control หรือการควบคุมการเข้าถึง, ในภาษา Dart คือการกำหนดว่าส่วนประกอบของวัตถุ (เช่น, fields, methods) สามารถเข้าถึงได้จากไหน สิ่งนี้ทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถกำหนดความเป็นส่วนตัวของข้อมูลและป้องกันไม่ให้ส่วนประกอบบางอย่างถูกใช้งานอย่างไม่เหมาะสมจากส่วนอื่นๆของโค้ด. ใน Dart มีสี่ระดับของการควบคุมการเข้าถึง:

- Public

- Private

- Protected

- Internal

ตัวอย่างที่ 1: Public vs Private Access

class BankAccount {
  String _accountNumber; // Private property
  double balance; // Public property

  BankAccount(this._accountNumber, this.balance);

  String get accountNumber => _accountNumber; // Public getter for a private property
}

ในตัวอย่างนี้ `_accountNumber` เป็น property ที่มีแอคเซสเป็น private ซึ่งหมายความว่ามันไม่สามารถเข้าถึงจากนอกคลาส `BankAccount`. `balance` เป็น property ที่มีแอคเซสเป็น public ซึ่งสามารถเข้าถึงได้จากทุกที่.

ตัวอย่างที่ 2: Method Access

class BankAccount {
  double _balance;

  BankAccount(this._balance);

  void deposit(double amount) {
    _balance += amount;
  }

  bool _isWithdrawAllowed(double amount) {
    return _balance - amount >= 0;
  }

  void withdraw(double amount) {
    if (_isWithdrawAllowed(amount)) {
      _balance -= amount;
    }
  }
}

ในตัวอย่างนี้ `deposit` และ `withdraw` เป็น methods ที่มีแอคเซสเป็น public เพราะด้วยการพิจารณาปัญหาด้านความปลอดภัย, `_isWithdrawAllowed` เป็น method ที่มีแอคเซสเป็น private ถูกใช้ในการเช็คว่าการถอนเงินที่ร้องขอนั้นเป็นไปได้อย่างปลอดภัย.

ตัวอย่างที่ 3: การใช้งาน Library-specific Visibility

// file: bank_account.dart
library bank;

class _InternalBankOperation {
  void _processTransaction(String transactionId) {
    print('Processing transaction $transactionId');
  }
}

class BankAccount {
  void performOperation(String transactionId) {
    _InternalBankOperation()._processTransaction(transactionId);
  }
}

ใน Dart ยังมีความสามารถที่จะกำหนด classes หรือ methods เป็น library-specific ทำให้สามารถเข้าถึงได้เฉพาะภายใน library ที่ถูกกำหนด

Usecase ในโลกจริง

ยกตัวอย่างเช่นในการพัฒนาระบบธนาคารออนไลน์, การใช้งาน access control ทำให้โปรแกรมเมอร์สามารถป้องกันการถูกเข้าถึงข้อมูลที่ละเอียดอ่อนได้อย่างเช่นเลขที่บัญชีของลูกค้าหรือยอดเงิน. นักพัฒนาสามารถจัดการ access ด้วยการตั้งค่า properties หรือ methods เป็น private โดยการใช้ underscore (`_`) ก่อนชื่อ.

การจัดการ access control เป็นแนวทางที่ดีในการหลีกเลี่ยงความซับซ้อนที่ไม่จำเป็นและลดโอกาสของข้อผิดพลาดในการปฏิบัติงานข้ามโมดูลหรือคลาสต่างๆ ด้วยการปฏิบัติตามหลักการนี้ โปรแกรมเมอร์จะสามารถสร้างโปรแกรมที่มีรูปแบบที่ดีและมีการรักษาความปลอดภัยที่สูง.

หากคุณพบว่าแนวคิดเหล่านี้น่าสนใจและต้องการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมที่มีคุณภาพ ที่ EPT เรามีคอร์สเรียนการเขียนโปรแกรมที่ช่วยให้คุณเข้าใจวิธีการใช้งาน Access Control และหลักการ OOP ให้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น. มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งของเราและพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมของคุณให้ก้าวไปอีกขั้น!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง