การเขียนโปรแกรมในยุคปัจจุบัน มีความสำคัญมากขึ้นเรื่อย ๆ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในรูปแบบของ Object-Oriented Programming (OOP) ซึ่งมีองค์ประกอบหลักอย่างเช่น encapsulation, inheritance, polymorphism, และ abstraction ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึง Accessibility ใน OOP ที่ใช้ภาษาดาร์ต (Dart) โดยจะมีตัวอย่างโค้ด คู่กับการใช้งานที่อธิบายเหตุผล และประโยชน์ที่เราจะได้รับ
Accessibility (การเข้าถึง) หมายถึงความสามารถในการกำหนดว่าเราอนุญาตให้เข้าถึงข้อมูลหรือฟังก์ชันในคลาสต่าง ๆ ได้อย่างไร ใน Dart เรามีหลายระดับของ Accessibility ได้แก่:
1. Public - ข้อมูลหรือฟังก์ชันที่สามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ 2. Private - ข้อมูลหรือฟังก์ชันที่สามารถเข้าถึงได้เฉพาะภายในคลาสนั้น ๆ เท่านั้น 3. Protected - ข้อมูลหรือฟังก์ชันที่สามารถเข้าถึงได้ในคลาสและคลาสที่สืบทอดจากคลาสนั้น ๆ
เรามาดูกันว่าการใช้งาน Accessibility ของ Dart มีวิธีการเป็นอย่างไร โดยเราจะสร้างคลาสหนึ่งขึ้นมาเพื่อแสดงให้เห็นถึงการเข้าถึงข้อมูล (Properties) และฟังก์ชัน (Methods) ต่าง ๆ
โค้ดตัวอย่าง
การอธิบายโค้ด
ในตัวอย่างข้างต้น เราได้สร้างคลาส `Person` ที่มีสมบัติ `name` ซึ่งเป็น public และ `_age` ซึ่งเป็น private โดยที่ underscore (_) ก่อนชื่อของ `_age` หมายถึงว่า มันเป็น property ที่เราไม่ควรเข้าถึงนอกคลาส `Person`
นอกจากนี้ เรามีฟังก์ชัน `introduce()` ซึ่งเป็น public function ที่สามารถเรียกใช้จากภายนอกได้ และมันจะใช้ private method `_getAge()` เพื่อดึงข้อมูลอายุของบุคคลนั้น แต่เมื่อเราพยายามเข้าถึง `_age` หรือ `_getAge()` จากภายนอก จะพบว่าเกิด error ขึ้นเนื่องจากเราไม่สามารถเข้าถึงข้อมูลที่ถูกกำหนดเป็น private นอกคลาสที่มันถูกกำหนดไว้
การใช้งาน Accessibility ใน OOP เป็นสิ่งที่มีความสำคัญในหลาย ๆ สถานการณ์ หนึ่งในตัวอย่างที่ชัดเจนคือ เมื่อเราสร้างระบบจัดการข้อมูลผู้ใช้ในแอปพลิเคชัน หากข้อมูลบางอย่างต้องการการป้องกัน เช่น รหัสผ่าน หรือข้อมูลที่ใช้สำหรับการอนุญาต (Authorization) เราจะต้องทำให้ข้อมูลเหล่านั้นเป็น private เพื่อป้องกันไม่ให้ใครสามารถเข้าถึงได้โดยตรง
ตัวอย่างเช่น:
ผลลัพธ์ที่ได้
ในตัวอย่างระบบจัดการผู้ใช้ข้างต้น เราได้สร้างคลาส `User` ด้วย property `_password` ที่เป็น private เพื่อป้องกันไม่ให้ใครสามารถเข้าถึงรหัสผ่านของผู้ใช้ได้โดยตรง การใช้ public และ private property ช่วยให้เราสามารถจัดการความปลอดภัยของข้อมูลได้ดีขึ้น นอกจากนี้ การที่เรามีเมธอด `login()` ที่เป็น public ทำให้สามารถจัดการการล็อกอินของผู้ใช้ได้อย่างปลอดภัย โดยไม่ต้องเปิดเผยรหัสผ่าน
การใช้ Accessibility ใน OOP นับว่าเป็นความสำคัญในการพัฒนาโปรแกรมที่มั่นคงและมีความยืดหยุ่น การใช้งาน class property และ method ในรูปแบบที่เหมาะสมทำให้บริหารจัดการโค้ดได้ง่ายขึ้น พร้อมทั้งช่วยป้องกันข้อมูลส่วนตัวของผู้ใช้จากผู้ไม่หวังดี แน่นอนว่าการใช้ภาษา Dart ในการเขียนโปรแกรมสามารถสร้างโซลูชันที่ทันสมัยและมีประสิทธิภาพ เราที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) ยินดีต้อนรับทุกท่านที่ต้องการจะเรียนรู้และพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมของท่านด้วยวิธีที่ได้ประสิทธิภาพและสนุกสนาน!
หากคุณสนใจเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรม และเข้าใจหลักการของ OOP รวมถึงภาษา Dart สามารถเข้าสมัครเรียนได้ที่ EPT!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: java c# vb.net python c c++ machine_learning web database oop cloud aws ios android
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM