หัวข้อ: เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา Dart โดยใช้ Seperate Chaining Hashing
ในยุคดิจิทัลที่ข้อมูลมีหลากหลายและซับซ้อน การจัดการข้อมูลอย่างมีประสิทธิภาพได้กลายเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาโปรแกรมมิ่งและแอปพลิเคชั่น ภาษา Dart ซึ่งเป็นภาษาที่ได้รับความนิยมสำหรับพัฒนาแอปพลิเคชันบนแพลตฟอร์ม Flutter ได้นำเสนอโครงสร้างข้อมูลที่น่าสนใจที่เรียกว่า "Seperate Chaining Hashing" เพื่อช่วยให้การจัดการข้อมูลดีขึ้น บทความนี้จะศึกษาเทคนิคที่ใช้ในการเขียนโค้ดด้วยวิธีการนี้ในภาษา Dart และจะพาทุกท่านดำดิ่งไปยังโลกของการจัดการข้อมูลอย่างมืออาชีพ พร้อมให้คุณได้เห็นถึงคุณค่าของการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมกับ EPT ที่จะช่วยเตรียมคุณให้พร้อมสำหรับอนาคตที่เทคโนโลยีครองโลก
Seperate Chaining Hashing เป็นหนึ่งในเทคนิคที่ใช้เพื่อแก้ปัญหาการชนข้อมูล (Collision) ที่เกิดขึ้นเมื่อมีการใช้ฟังก์ชันแฮชเพื่อแม็ปคีย์ให้กับอาร์เรย์ (Array) ที่จะเก็บข้อมูล หากมีคีย์ข้อมูลต่างๆ ที่แฮชแล้วได้ค่าเดียวกันหรือ "ชน" กัน การจัดการชนข้อมูลจะเกิดขึ้นโดยการใช้โครงสร้างข้อมูลแบบลิงค์ลิสต์ (LinkedList) เพื่อเก็บข้อมูลนั้นๆ ซึ่งเรียกว่า "chains" หรือ "buckets"
การใส่ข้อมูล (Insert):
void insert(int key, String value) {
int index = hashFunction(key);
if (hashTable[index] == null) {
hashTable[index] = LinkedList();
}
hashTable[index].insertLast(Pair(key, value));
}
ในการใส่ข้อมูล จะมีการคำนวณดัชนีที่ข้อมูลนั้นๆ จะเก็บโดยใช้ hashFunction หากไม่พบข้อมูลในดัชนีที่คำนวณได้ จะทำการสร้างลิงค์ลิสต์ขึ้นมารับข้อมูล.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: เทคนิคการเขียนโค้ด การจัดการข้อมูล ภาษา_dart seperate_chaining_hashing insert update find delete ความเป็นมา อธิบายการทำงาน
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM