# เทคนิคการเขียนโค้ดเพื่อการจัดการข้อมูลในภาษา MATLAB โดยใช้ Seperate Chaining Hashing
การจัดการข้อมูลเป็นหนึ่งในงานที่มีความสำคัญยิ่งในด้านการคอมพิวเตอร์ ไม่ว่าจะเป็นการจัดเก็บ การค้นหา หรือการปรับปรุงข้อมูล การเลือกใช้โครงสร้างข้อมูลที่เหมาะสมสามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและความรวดเร็วให้กับการทำงานได้มากอย่างน่าทึ่ง หนึ่งในโครงสร้างข้อมูลที่ได้รับความนิยมในแวดวงนี้คือ Hash Table พร้อมกับทางเลือกของมันที่เรียกว่า Seperate Chaining Hashing ในบทความนี้ เราจะพูดถึงการใช้วิธี Seperate Chaining Hashing ในการจัดการข้อมูลโดยใช้ภาษา MATLAB และจะยกตัวอย่าง code สำหรับการ insert, update, find, และ delete ข้อมูล
ก่อนอื่นเราจำเป็นต้องทำความเข้าใจกับหลักการทำงานของ Hash Table ในส่วนของ Seperate Chaining Hashing เป็นการใช้โครงสร้างข้อมูลแบบ Array ของ Linked Lists ที่มีตัวบังคับดัชนีหรือที่เรียกว่า hash function เพื่อการจัดการการเข้าถึงข้อมูล หากมีการชน (collision) ของข้อมูลสามารถเพิ่ม node ใหม่ใน Linked list ที่ดัชนีนั้น ๆ
การ Insert ข้อมูล
function hashTable = insert(hashTable, key, value)
n = numel(hashTable); % ค่า n คือจำนวน slot ใน hash table
index = mod(key, n) + 1; % คำนวณ index ด้วย hash function แบบง่ายๆ
% สร้าง node ใหม่
newNode.key = key;
newNode.value = value;
% เพิ่ม node ลงใน linked list ที่ index นั้น
if isempty(hashTable{index})
hashTable{index} = newNode;
else
current = hashTable{index};
while ~isempty(current.next)
current = current.next;
end
current.next = newNode;
end
end
การ Update ข้อมูล
function hashTable = update(hashTable, key, value)
% รหัสการค้นหาจะคล้ายกับการ insert
% ...
% ถ้าพบ node ที่มี key ตรงกัน ก็ update value ที่นั่น
current.value = value;
end
การ Find ข้อมูล
function value = find(hashTable, key)
index = mod(key, numel(hashTable)) + 1;
current = hashTable{index};
while ~isempty(current) && current.key ~= key
current = current.next;
end
if ~isempty(current)
value = current.value;
else
value = [];
disp('Key not found.');
end
end
การ Delete ข้อมูล
function hashTable = delete(hashTable, key)
index = mod(key, numel(hashTable)) + 1;
current = hashTable{index};
prev = [];
% ลูปหา node ที่ต้องการลบ
while ~isempty(current) && current.key ~= key
prev = current;
current = current.next;
end
% ถ้าพบ node นั้น ก็ทำการลบ
if ~isempty(current)
if isempty(prev)
hashTable{index} = current.next; % ถ้าเป็น node แรกของ linked list
else
prev.next = current.next; % ถ้าอยู่ในตำแหน่งกลางหรือปลาย linked list
end
else
disp('Key not found.');
end
end
การเรียนรู้เทคนิคการเขียนโค้ดเช่นนี้มีความสำคัญสำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ต้องการจัดการกับข้อมูลในรูปแบบที่มีประสิทธิภาพ และที่ EPT เรามุ่งมั่นที่จะให้ความรู้และทักษะเหล่านี้ผ่านหลักสูตรที่ออกแบบมาสำหรับนักพัฒนาทุกระดับ ไม่ว่าคุณจะต้องการปรับปรุงทักษะหรือเริ่มจากพื้นฐาน เราพร้อมจะเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตทางวิชาการและอาชีพของคุณ สนใจที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับ Seperate Chaining Hashing หรือเทคนิคอื่นๆ ภายในโลกการเขียนโค้ด มาร่วมเป็นส่วนหนึ่งกับเราที่ EPT สถาบันที่จะช่วยให้คุณสร้างสรรค์ผลงานได้เหนือระดับ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: เทคนิคการเขียนโค้ด ข้อมูล ภาษา_matlab seperate_chaining_hashing การจัดการข้อมูล วิธี_seperate_chaining_hashing การ_insert การ_update การ_find การ_delete อธิบายการทำงาน hash_table linked_lists collision คำนวณ_index
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM