การใช้งาน loop and if-else inside loop ในภาษา Dart แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง CODE 3 ตัวอย่าง และอธิบายการทำงาน และยกตัวอย่าง usecase ในโลกจริง

บทนำ

การเขียนโปรแกรมในยุคปัจจุบันนั้น เป็นฝีมือที่จำเป็นสำหรับการแก้ปัญหาและสร้างนวัตกรรมหลากหลายรูปแบบ ด้วยภาษา Dart ที่ถูกสร้างขึ้นสำหรับการพัฒนาแอปพลิเคชันทั้งบนมือถือและเว็บไซต์ ทำให้การเข้าใจในส่วนพื้นฐาน เช่น การใช้งาน loop และ if-else กลายเป็นเรื่องจำเป็นอย่างยิ่ง ในบทความนี้ เราจะสำรวจการใช้งาน loop ทั้งแบบ for และ while รวมถึงการเชื่อมต่อ if-else ภายใน loop เพื่อเข้าใจในการทำงานและสภาพแวดล้อมจำลองจากโลกจริงที่ Dart สามารถช่วยเหลือได้ พร้อมชวนคุณมาร่วมเรียนรู้ศาสตร์การเขียนโปรแกรมที่ EPT สถาบันที่พร้อมจะพัฒนาศักยภาพของคุณในทุกๆ ด้านการเขียนโค้ด

ตัวอย่างที่ 1: Loop สำหรับการค้นหาข้อมูล

บางครั้งเราอาจมีข้อมูลที่เก็บอยู่ในรูปแบบของตัวแปร List และเราต้องการที่จะค้นหาข้อมูลที่ตรงตามเงื่อนไขบางอย่าง ด้วยการใช้ loop และ if-else ร่วมกัน เราสามารถทำการค้นหานี้ได้อย่างง่ายดาย ดังตัวอย่างด้านล่าง:

List fruits = ['apple', 'banana', 'cherry', 'date', 'elderberry'];

for (String fruit in fruits) {
  if (fruit.startsWith('a')) {
    print('$fruit starts with "a"');
  } else {
    print('$fruit does not start with "a"');
  }
}

การทำงานของโค้ด

ในตัวอย่างนี้ เราได้สร้าง List ที่เก็บชื่อของผลไม้ หลังจากนั้นใช้ loop `for` เพื่อท่องไปยังแต่ละสมาชิกใน List โดยการเรียกใช้เมธอด `startsWith()` จากทุกสมาชิก เพื่อทดสอบว่าชื่อผลไม้นั้นเริ่มต้นด้วยตัวอักษร 'a' หรือไม่ หากเงื่อนไขเป็นจริงจะทำการพิมพ์ข้อความที่บอกว่าผลไม้นั้นเริ่มต้นด้วย 'a' หากไม่เป็นจริงก็จะพิมพ์ข้อความแสดงว่าผลไม้นั้นไม่เริ่มต้นด้วย 'a'

Usecase ในโลกจริง

การค้นหาและการแยกข้อมูลเป็นส่วนหนึ่งของการจัดการสินค้าในร้านค้าออนไลน์ เช่น การแยกประเภทสินค้าที่ต้องการจัดส่งพิเศษ หรือการค้นหาสินค้าที่ต้องการเรียกคืน

ตัวอย่างที่ 2: การนับเงื่อนไขที่ตรงตาม loop

ในบรรดาข้อมูลที่เรามี บางครั้งเราต้องการทราบว่ามีสมาชิกกี่ตัวที่ตรงกับเงื่อนไขตามที่เราต้องการ ตัวอย่างโค้ดด้านล่างนี้จะแสดงให้เห็นว่าเราสามารถใช้ `for` loop และ `if-else` เพื่อนับจำนวนผลไม้ที่มีขนาดตัวอักษรไม่เกิน 5 ตัว:

List fruits = ['apple', 'banana', 'cherry', 'date', 'elderberry'];
int count = 0;

for (String fruit in fruits) {
  if (fruit.length <= 5) {
    count++;
  }
}

print('There are $count fruits with 5 or less letters.');

การทำงานของโค้ด

เราเริ่มต้นด้วยการกำหนดตัวนับ `count` เป็น 0 และใช้ loop `for` เพื่อทำการตรวจสอบความยาวของชื่อผลไม้ที่อยู่ใน List เมื่อพบชื่อผลไม้ที่มีความยาว 5 ตัวอักษรหรือน้อยกว่า เราจะเพิ่มค่าตัวนับ `count` ขึ้น 1 หลังจากที่ loop สิ้นสุดลง เราก็จะพิมพ์จำนวนผลไม้ที่ตรงกับเงื่อนไขออกมา

Usecase ในโลกจริง

ตัวอย่างนี้สามารถนำไปใช้ในการวิเคราะห์การทำงานของโปรแกรม เช่นการนับจำนวนคำที่ปรากฏในปฏิทินกิจกรรม หรือการนับจำนวนครั้งที่ลูกค้าใช้คำสั่งพิเศษในแอพพลิเคชั่นร้านอาหาร

ตัวอย่างที่ 3: `while` loop และการควบคุมการทำงานภายใน loop

บางครั้งเราอาจมีเงื่อนไขที่ไม่แน่นอนสำหรับการทำ loop โดยใน Dart เราสามารถใช้ `while` loop ที่ทำงานจนกว่าเงื่อนไขจะเป็นเท็จ ตัวอย่างโค้ดด้านล่างนี้จะแสดงการใช้ `while` loop ร่วมกับ if-else:

int number = 1;

while (number <= 10) {
  if (number % 2 == 0) {
    print('$number is even.');
  } else {
    print('$number is odd.');
  }
  number++; // อย่าลืมการเพิ่มค่าตัวแปรควบคุม loop เพื่อหลีกเลี่ยง loop ไม่มีที่สิ้นสุด
}

การทำงานของโค้ด

ในขณะที่ค่าของ `number` นั้นน้อยกว่าหรือเท่ากับ 10 โปรแกรมจะพิมพ์ว่า `number` นั้นเป็นเลขคู่หรือเลขคี่ ตามค่าที่คำนวณได้จากการใช้ modulo (`%`). หลังจากนั้นจะทำการเพิ่มค่า `number` ขึ้นทีละ 1 เพื่อให้มั่นใจว่า loop จะมีการสิ้นสุด และไม่ทำงานตลอดไป.

Usecase ในโลกจริง

ตัวอย่างนี้สามารถนำไปใช้ในการจัดการคิวหรือลำดับการทำงาน เช่นการจัดคิวการพิมพ์เอกสารที่ต้องดำเนินการต่อเมื่อเอกสารก่อนหน้าได้รับการพิมพ์เสร็จสิ้นแล้ว

สรุป

การใช้งาน loop และ if-else ภายใน loop เป็นเทคนิคพื้นฐานที่ทรงพลังในการเขียนโปรแกรม ทั้งนี้ Dart เป็นภาษาที่ให้ความสามารถในการจัดการกับสถานการณ์เหล่านี้อย่างมีประสิทธิภาพ หากคุณต้องการฝึกฝนและขยายความรู้เกี่ยวกับการเขียนโค้ดใน Dart หรือภาษาโปรแกรมมิ่งอื่นๆ อย่าลังเลที่จะพิจารณา EPT เพื่อเป็นส่วนหนึ่งของการเรียนรู้และการเติบโตในหนทางของนักพัฒนาซอฟต์แวร์ พวกเราที่ EPT พร้อมที่จะเป็นผู้นำคุณไปสู่ความสำเร็จในโลกของการเขียนโปรแกรม และให้คุณสามารถทลายขีดจำกัดในการสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ได้อย่างไม่มีที่สิ้นสุด.

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง