ในโลกของโปรแกรมมิ่ง คุณอาจจะได้ยินถึงคำว่า "static" และ "non-static" อยู่เป็นประจำ ซึ่งเป็นคำที่มักถูกใช้ในการอภิปรายการออกแบบและการพัฒนาของโค้ด ความแตกต่างระหว่าง static และ non-static นั้นสำคัญอย่างมากในการซอฟต์แวร์เดย์แวร์ และการเขียนโปรแกรม มาเริ่มต้นดูกันเลยว่าความแตกต่างที่สำคัญนี้คืออะไร
Static และ non-static เป็นคำที่ใช้ในการกำหนดคุณสมบัติของตัวแปรและเมธอดในโค้ด ในภาษาโปรแกรมมิ่งหลายภาษาทั่วไป เช่น Java, C++, และ C# คำว่า "static" ถูกใช้เพื่อระบุว่าตัวแปรหรือเมธอดที่ถูกประกาศเป็น static นั้นเป็นของคลาสต่างไปจากตัวแปรหรือเมธอด non-static ซึ่งเป็นของอินสแตนซ์ของคลาส
ในการเขียนโปรแกรม การเข้าใจความแตกต่างระหว่าง static และ non-static นั้นเป็นสิ่งที่สำคัญ เพราะมันมีผลต่อวิธีการทำงานและประสิทธิภาพของโค้ดของคุณ
ความแตกต่างระหว่าง Static และ Non-Static
เรามาเริ่มต้นด้วยคุณสมบัติของ static ก่อนเลย ตัวแปรหรือเมธอดที่ถูกประกาศเป็น static นั้นจะถูกแชร์ร่วมกันโดยทุกอินสแตนซ์ของคลาส ซึ่งหมายความว่าค่าของตัวแปร static จะถูกเก็บไว้ในหน่วยความจำเพียงตัวเดียวสำหรับทุกอินสแตน์ และเมธอด static สามารถเรียกใช้ได้โดยไม่ต้องสร้างอินสแตนซ์ของคลาสก่อน
ในทางกลับกัน non-static หมายความว่าตัวแปรหรือเมธอดนั้นเป็นของอินสแตนซ์ของคลาส ซึ่งหมายความว่าต้องสร้างอินสแตนซ์ของคลาสก่อนถึงจะสามารถเรียกใช้ตัวแปรหรือเมธอด non-static ได้ โดยทั่วไปแล้ว non-static ถูกเรียกว่า "instance members" เนื่องจากมันเป็นสมาชิกของอินสแตนซ์
ในการตัดสินใจว่าควรใช้ static หรือ non-static เมธอดหรือตัวแปร ขึ้นอยู่กับลักษณะและการงานของโปรแกรมของคุณ เรามาดูกันว่าควรใช้ static กับ non-static ตอนไหนดี
กรณีที่ควรใช้ Static
เมื่อต้องการให้เมธอดหรือตัวแปรเป็นของคลาสโดยไม่จำเป็นต้องสร้างอินสแตนซ์ เช่น การเรียกใช้เมธอด utility ที่ไม่เกี่ยวกับข้อมูลของอินสแตนซ์ หรือการเก็บข้อมูลที่ใช้ร่วมกันโดยทุกอินสแตนซ์ เช่น การเก็บค่าคงที่ เช่น ค่าพาย ค่า Pi เป็นต้น การใช้ static จะช่วยลดการใช้ทรัพยากร และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานของโปรแกรม
กรณีที่ควรใช้ Non-Static
เมื่อต้องการให้เมธอดหรือตัวแปรเป็นของอินสแตนซ์ ซึ่งจะถูกสร้างขึ้นเมื่อสร้างอินสแตนซ์ของคลาส และต้องการที่เมธอดหรือตัวแปรจะมีค่าแตกต่างกันในแต่ละอินสแตนซ์
การทดสอบ Static และ Non-Static ในโค้ด
เรามาดูตัวอย่างการใช้งาน static และ non-static ใน Java กัน
public class StaticExample {
private static int staticVariable = 0;
private int nonStaticVariable = 0;
public StaticExample() {
staticVariable++;
nonStaticVariable++;
}
public static void main(String[] args) {
StaticExample instance1 = new StaticExample();
System.out.println("Static Variable: " + StaticExample.staticVariable); // 1
System.out.println("Non-Static Variable: " + instance1.nonStaticVariable); // 1
StaticExample instance2 = new StaticExample();
System.out.println("Static Variable: " + StaticExample.staticVariable); // 2
System.out.println("Non-Static Variable: " + instance2.nonStaticVariable); // 1
}
}
จากตัวอย่างข้างต้น เมื่อสร้างอินสแตนซ์ของคลาส StaticExample สิ่งที่เกิดขึ้นคือ staticVariable จะเพิ่มค่าขึ้นด้วย แต่ nonStaticVariable ของแต่ละอินสแตนซ์จะเป็นของตัวอินสแตนซ์นั้นเองโดยไม่มีผลต่อตัวแปร nonStaticVariable ของอินสแตนซ์อื่น
สรุป
การเลือกใช้ static หรือ non-static ขึ้นอยู่กับลักษณะการทำงานของโปรแกรม การใช้ static สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพและลดการใช้ทรัพยากรของระบบได้ ในขณะที่การใช้ non-static สามารถช่วยให้เราสามารถจัดเก็บข้อมูลและมีค่าต่างกันได้ตามแต่ละอินสแตนซ์
อย่าลืมที่จะพิจารณาถึงลักษณะและการทำงานของโปรแกรมของคุณเสมอ และทำการเลือกใช้ static หรือ non-static อย่างรอบคอบเพื่อให้โค้ดของคุณสามารถทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและมีประสิทธิภาพที่สุด
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: static non-static programming coding variables methods class instance java c++ c# software_development efficiency resource_management instance_members
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com