ภาษาโปรแกรมมิ่งคือเครื่องมือสำคัญที่พัฒนาขึ้นเพื่อแก้ปัญหาหลากหลายแบบ ภาษา C และ C++ เป็นสองภาษาที่มีความสัมพันธ์กันอย่างใกล้ชิด แต่ก็แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในหลายด้าน และแน่นอน มีทั้งข้อดีและข้อเสียที่ผู้พัฒนาควรพิจารณา
การใช้งานและวัตถุประสงค์
C++ ถูกสร้างขึ้นในช่วงปี 1980s โดย Bjarne Stroustrup เป็นการพัฒนาต่อยอดจากภาษา C โดยเพิ่มคุณสมบัติการเขียนโปรแกรมแบบเชิงวัตถุ (object-oriented programming - OOP) และการเขียนโปรแกรมแบบคำสั่ง (procedural programming) ในขณะที่ภาษา C เป็นภาษาที่เน้นการเขียนโปรแกรมแบบคำสั่ง ซึ่งช่วยให้โปรแกรมเมอร์มีการควบคุมเกี่ยวกับระบบหน่วยความจำได้ดี แต่ไม่มีโครงสร้างที่สนับสนุนการเขียนโปรแกรมแบบเชิงวัตถุอย่างชัดเจน
ประสิทธิภาพ
ในแง่ของประสิทธิภาพ, C มีเสียงว่าเร็วและมีความยืดหยุ่นสูง โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อใช้งานกับระบบฮาร์ดแวร์ที่มีข้อจำกัด เช่น สถาปัตยกรรมไมโครคอนโทรลเลอร์ หรือโปรแกรมที่ต้องการประมวลผลเรียลไทม์ ด้วยการให้โปรแกรมเมอร์จัดการกับหน่วยความจำและทรัพยากรฮาร์ดแวร์โดยตรง ภาษา C++ อาจเสียเปรียบในบางกรณีเนื่องจากลักษณะการทำงานแบบเชิงวัตถุ ซึ่งต้องการการจัดการหน่วยความจำที่ซับซ้อนกว่า แต่ก็มีข้อดีในการจัดสรรหน่วยความจำและการจัดการทรัพยากรแบบอัตโนมัติ (กล่าวคือ, การใช้งาน constructor, destructor, และ RAII)
มุมมองต่างๆ
หากมองจากมุมมองของการออกแบบและสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์, C++ เสนอแนวคิด OOP ซึ่งช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นเรื่องที่มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นกว่าการใช้ C ในโปรเจคที่ซับซ้อนและขนาดใหญ่ ขณะที่ C ถือว่าเหมาะสมกับการพัฒนาระบบซอฟต์แวร์ที่ต้องการการเข้าถึงระดับต่ำและควบคุมกับฮาร์ดแวร์โดยตรง
ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดีของ C++ คือการสนับสนุน OOP ที่ช่วยในการออกแบบโปรแกรมให้มีโครงสร้างที่แข็งแกร่ง, การจัดการหน่วยความจำที่ปลอดภัยกว่าด้วยการใช้งาน constructor/destructor และการใช้งาน features ใหม่ๆ เช่น overloading, templates, และ STL (Standard Template Library) ในขณะที่ภาษา C อาจทำงานได้เร็วขึ้นและมีเสถียรภาพที่ดีเนื่องจากระบบที่เรียบง่ายและเข้าใจง่าย
ข้อเสียของ C++ คือมันอาจจะซับซ้อนและหนักหน่วยความจำกว่า C ทำให้ไม่เหมาะกับสภาพแวดล้อมที่มีข้อจำกัดด้านทรัพยากร เช่น ฟิร์มแวร์หรืออุปกรณ์ที่มีวงจรรบกวน ขณะที่ภาษา C อาจจะมีข้อจำกัดในด้านการออกแบบที่ไม่เหมาะกับโปรเจคขนาดใหญ่หรือการพัฒนาแบบร่วมมือ
ตัวอย่างการใช้งานในโลกจริง
ในโลกจริงแล้ว เราสามารถเห็นการใช้งานของ C ในการพัฒนาระบบปฏิบัติการ เช่น Linux, ไดร์เวอร์ฮาร์ดแวร์ และระบบฝังตัว ขณะที่ C++ มักถูกนำไปใช้ในการพัฒนาโปรแกรมแอปพลิเคชันขนาดใหญ่ เช่น แคดแอพพลิเคชัน, เกม, หรือระบบฐานข้อมูล
สรุปแล้ว, ภาษา C และ C++ มีจุดเด่นและจุดอ่อนที่แตกต่างกันที่นักพัฒนาควรพิจารณาตามความต้องการของแต่ละโปรเจค เรียนรู้และฝึกฝนการใช้ทั้งสองภาษากับเราที่ EPT จะช่วยเติมเต็มทักษะของคุณให้ครอบคลุมทั้งการเขียนโปรแกรมแบบเชิงวัตถุและแบบโปรเซดูรัล เพื่อให้คุณสามารถเลือกใช้ภาษาที่เหมาะสมกับแต่ละงานได้อย่างมืออาชีพ
ภาษาโปรแกรมไม่ได้เป็นเพียงเครื่องมือ แต่เป็นศิลปะและประตูสู่โลกแห่งความสามารถที่ไม่จำกัด มาร่วมเรียนรู้และพัฒนาฝีมือของคุณให้เต็มตัวกับ EPT, โรงเรียนสอนการเขียนโปรแกรมที่พร้อมทำหน้าที่เป็นพันธมิตรในการเรียนรู้และการพัฒนาอาชีพของคุณไปอีกระดับ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: ภาษา_c++ ภาษา_c โปรแกรมมิ่ง การเขียนโปรแกรม การเขียนโปรแกรมแบบเชิงวัตถุ โครงสร้างซอฟต์แวร์ ประสิทธิภาพ การจัดการหน่วยความจำ c++_stl การพัฒนาระบบปฏิบัติการ โปรแกรมแอปพลิเคชัน การออกแบบโปรแกรม oop templates คอมพิวเตอร์
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com