## YAML (YAML Ain't Markup Language) คืออะไร: อธิบายง่ายๆ ให้เด็ก 8 ปีเข้าใจ
YAML เป็นภาษาที่ใช้ในการแทนข้อมูลให้อ่านง่ายสำหรับมนุษย์เรานั่นเอง ลองนึกถึงการเขียนรายการจับของขวัญในวันเกิด แต่เขียนให้เป็นระเบียบ เรียบร้อย เพื่อว่าเมื่อใครก็ตามที่เห็นรายการนั้นจะเข้าใจว่าเราต้องการอะไรบ้าง YAML ก็ทำงานในลักษณะเดียวกัน แต่มันถูกใช้กับคอมพิวเตอร์และการตั้งค่าโปรแกรมต่างๆ แทนการจับของขวัญ
YAML มีประโยชน์มากมายทีเดียว มันช่วยให้เราสามารถจัดการข้อมูลได้ดีขึ้น จะบอกคอมพิวเตอร์ว่าต้องทำงานอย่างไร หรือบอกโปรแกรมว่าต้องตั้งค่าอะไรบ้างในรูปแบบที่อ่านง่าย เหมือนเล่าเรื่องในหนังสือภาพเลยล่ะ
เราใช้ YAML เมื่อเราต้องการแบ่งปันหรือจัดการข้อมูลโครงสร้าง เช่น ตั้งค่าโปรแกรม, ผังงาน, หรือแม้กระทั่งการเขียนสูตรอาหารในรูปแบบดิจิทัล มันช่วยทำให้ทุกอย่างเรียบง่ายและเป็นระเบียบ
ตัวอย่างสำหรับเด็กๆ อาจเปรียบเทียบ YAML กับหนังสือคู่มือสำหรับเกมวิดีโอเกม ที่บอกว่าเพื่อให้ได้ของลับคุณต้องทำอย่างไร นั่นเอง!
ทีนี้ เรามาลองดูตัวอย่างกัน เพื่อให้เข้าใจง่ายๆ เราจะใช้ตัวอย่างของการเขียนสูตรขนมในรูปแบบ YAML:
สูตรขนมปัง:
- ชื่อ: ขนมปังแสนอร่อย
- วัตถุดิบ:
- แป้งสาลี: "250 กรัม"
- น้ำเปล่า: "150 มิลลิลิตร"
- เกลือ: "1/2 ช้อนชา"
- ยีสต์: "1 ช้อนชา"
- ขั้นตอน:
- ผสมวัตถุดิบให้เข้ากัน
- นวดแป้งจนเนื้อเนียน
- ปล่อยให้แป้งพองตัว 1 ชั่วโมง
- อบที่อุณหภูมิ 180 องศาเซลเซียส จนสุก
จากตัวอย่างข้างบน คุณสามารถเห็นได้ว่า YAML มีลักษณะที่ดูเหมือนลิสต์ที่มีการจัดหมวดหมู่เข้าไว้ด้วยกัน ช่วยให้ผู้ที่อ่านสามารถเข้าใจลำดับการทำงานหรือส่วนประกอบได้ง่ายขึ้นนั่นเอง
YAML ยังใช้ในการพัฒนาซอฟต์แวร์ เช่น เว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน โดยใช้ YAML เพื่อบอกคอมพิวเตอร์ว่าต้องการให้มีฟีเจอร์อะไรบ้าง ในส่วนพัฒนาเว็บไซต์นั้น กรอบการทำงานเช่น Docker หรือ Kubernetes ก็มีการใช้ YAML ในการตั้งค่าการทำงานของพวกมันเช่นกัน
สรุปได้ว่า YAML คือภาษาที่ช่วยให้การจัดและการแบ่งปันข้อมูลนั้นง่ายขึ้น ซึ่งจะเป็นสิ่งที่มีประโยชน์เวลาคุณต้องการพูดคุยหรือให้คำแนะนำกับคอมพิวเตอร์ในการทำงานต่างๆ เรียบง่าย ชัดเจน เหมือนกับวิธีการที่เราใช้กับการเขียนสูตรขนมหรือจัดรายการของขวัญที่กล่าวถึงข้างต้นและหากคุณสนใจในการเรียนรู้เกี่ยวกับการพัฒนาซอฟต์แวร์หรือการตั้งค่าระบบของคอมพิวเตอร์ YAML ก็เป็นหนึ่งในความรู้พื้นฐานที่ดีอีกทางหนึ่งที่คุณสามารถเริ่มทำความเข้าใจได้
จบลงด้วยคำชวนประมาณว่า:
"ดังนั้น เพื่อนๆ คนไหนที่อยากต่อยอดความรู้เกี่ยวกับ YAML หรือภาษาการโปรแกรมอื่นๆ อย่าลืมลองฝึกฝนและวิจัยเพิ่มเติม เพื่อที่ว่าเมื่อถึงเวลา คุณจะกลายเป็นนักพัฒนาที่เข้าใจการสื่อสารกับคอมพิวเตอร์ได้อย่างชำนาญยิ่งขึ้นนะคะ!"
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM