if-else คืออะไร การใช้งาน if-else ในภาษา VB.NET แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง

บทความ: การใช้งาน if-else ในภาษา VB.NET สำหรับผู้เริ่มต้น

การเขียนโปรแกรมไม่ว่าจะอยู่ในระดับใด การตัดสินใจ (Decision Making) คือหนึ่งในขั้นพื้นฐานที่สำคัญที่สุด เช่นเดียวกับคำสั่ง if-else ในภาษา VB.NET ซึ่งก็มีความสำคัญไม่ต่างกัน มาทำความเข้าใจกับคำสั่งเหล่านี้และเรียนรู้การใช้งานผ่านตัวอย่าง code สองตัวอย่างที่ใกล้เคียงกับโลกจริงพร้อมทั้งอธิบายการทำงานกันเลยครับ

if-else คืออะไร?

if-else เป็นคำสั่งพื้นฐานที่ใช้ในการตัดสินใจทางโปรแกรม ซึ่งช่วยให้โปรแกรมสามารถเลือกทำงานบล็อกของโค้ดต่างๆ ได้ โดยขึ้นอยู่กับเงื่อนไขที่กำหนด หากเงื่อนไขนั้นเป็นจริง (true) โปรแกรมจะทำงานบล็อกหนึ่ง แต่หากเป็นเท็จ (false) โปรแกรมก็จะทำงานอีกบล็อกหนึ่ง

การใช้งาน if-else ในภาษา VB.NET แบบง่ายๆ

โครงสร้างของคำสั่ง if-else ใน VB.NET มักจะมีลักษณะดังนี้:

If (condition) Then
    ' โค้ดที่จะทำงานหากเงื่อนไขเป็นจริง
Else
    ' โค้ดที่จะทำงานหากเงื่อนไขเป็นเท็จ
End If

เราจะใช้แบบอย่างนี้ในการตัดสินใจภายในโปรแกรมของเรา

ตัวอย่างที่ 1: การตรวจสอบคะแนนสอบ

สมมติว่าเรามีโปรแกรมที่ต้องการตรวจสอบว่าผู้เรียนผ่านการทดสอบหรือไม่ ตามเกณฑ์ที่กำหนด:

Dim score As Integer = 75

If score >= 60 Then
    Console.WriteLine("ยินดีด้วย! คุณผ่านการทดสอบ")
Else
    Console.WriteLine("ขอให้โชคดีในครั้งหน้า")
End If

ในตัวอย่างนี้เราตั้งค่าตัวแปร `score` มีค่า 75 ซึ่งคำสั่ง if-else จะตรวจสอบว่าคะแนนนี้มากกว่าหรือเท่ากับ 60 หรือไม่ หากเป็นจริง (`True`) โปรแกรมจะแสดงข้อความว่าผ่านการทดสอบ หากเป็นเท็จ (`False`) จะแสดงข้อความอีกข้อหนึ่ง

ตัวอย่างที่ 2: การตัดสินใจตามช่วงเวลาของวัน

ที่นี่เราจะเขียนโปรแกรมเพื่อแนะนำกิจกรรมตามช่วงเวลาของวัน:

Dim timeOfDay As DateTime = DateTime.Now

If timeOfDay.Hour < 12 Then
    Console.WriteLine("สวัสดีตอนเช้า! ไปวิ่งเพื่อสุขภาพดีๆ ในเช้านี้กันเถอะ")
ElseIf timeOfDay.Hour < 18 Then
    Console.WriteLine("สวัสดีตอนบ่าย! เป็นเวลาที่เหมาะสำหรับการทำงานหรืออ่านหนังสือ")
Else
    Console.WriteLine("สวัสดีตอนค่ำ! ได้เวลารับประทานอาหารเย็นและพักผ่อน")
End If

ในตัวอย่างนี้ `timeOfDay.Hour` เป็นฟังก์ชันที่ใช้ดึงเวลาปัจจุบัน และโปรแกรมจะทำการตรวจสอบว่าช่วงของเวลาที่ระบุได้ตรงตามเงื่อนไขที่เราตั้งไว้หรือไม่ เพื่อแนะนำกิจกรรมที่เหมาะสม

การใช้คำสั่ง if-else เช่นนี้สามารถอำนวยความสะดวกและเพิ่มประสิทธิภาพในแอปพลิเคชันของเราได้มาก ไม่ว่าจะเป็นระบบการจัดการข้อมูล การประมวลผลตรรกะธุรกิจ หรือแม้แต่ในการเขียนแอปสำหรับอุปกรณ์เคลื่อนที่ การใช้งาน if-else ทำให้โปรแกรมของเรามีความยืดหยุ่นและตอบสนองต่อเงื่อนไขที่แตกต่างกันได้อย่างชาญฉลาด

หากคุณมีความรู้สึกว่าการเรียนรู้คำสั่งเหล่านี้น่าสนใจ และต้องการพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมของคุณให้มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น EPT (Expert-Programming-Tutor) พร้อมเป็นผู้นำทางด้านการเรียนรู้และทำความเข้าใจกับการเขียนโปรแกรมที่จะช่วยให้คุณเข้าใจและใช้งาน if-else ได้อย่างมืออาชีพ อย่ารอช้าที่จะพัฒนาทักษะการเขียนโปรแกรมของคุณที่ EPT วันนี้เลยครับ!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง