การใช้งาน String compare ในภาษา VB.NET แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง

# การใช้งาน String Compare ใน VB.NET แบบง่ายๆ

การเปรียบเทียบสตริงเป็นหัวใจสำคัญของการพัฒนาโปรแกรมในทุกภาษาโปรแกรมมิ่ง ไม่เว้นแม้แต่ในภาษา VB.NET ที่สนับสนุนการเปรียบเทียบสตริง (String Compare) ด้วยฟังก์ชันต่างๆ ที่มีอยู่มากมาย เพื่อให้นักพัฒนาสามารถตรวจสอบความเหมือนหรือความต่างของข้อความได้อย่างง่ายดาย ซึ่งเป็นสิ่งจำเป็นในการพัฒนาโปรแกรมประเภทต่างๆ เช่น ระบบการจัดการฐานข้อมูล, การตรวจสอบอินพุตจากผู้ใช้ หรือสร้างฟิลเตอร์การค้นหา

พื้นฐานการเปรียบเทียบสตริงใน VB.NET

การเปรียบเทียบสตริงใน VB.NET สามารถทำได้หลายวิธี แต่วิธีพื้นฐานที่ใช้บ่อยคือการใช้เมธอด `Compare`, `CompareTo` และ `Equals` ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคลาส `String` หรือการใช้ Operator `=` และ `<>` เพื่อเปรียบเทียบสตริงโดยตรง

ตัวอย่างที่ 1: การใช้งาน `Compare`

 Dim str1 As String = "Hello World"
Dim str2 As String = "hello world"
Dim result As Integer

result = String.Compare(str1, str2, True)

If result = 0 Then
    Console.WriteLine("สตริงเท่ากัน")
Else
    Console.WriteLine("สตริงไม่เท่ากัน")
End If

ในตัวอย่างนี้ `String.Compare` มีการใช้ Argument ที่สามเพื่อกำหนดการเปรียบเทียบไม่คำนึงถึงตัวพิมพ์ใหญ่หรือเล็ก (Case Insensitive), ซึ่งทำให้ `str1` และ `str2` ถือว่าเท่ากันเพราะมีอักขระเหมือนกันทุกตัวโดยไม่สนใจตัวพิมพ์ใหญ่หรือพิมพ์เล็ก

ตัวอย่างที่ 2: การใช้งาน `CompareTo`

 Dim str1 As String = "Apple"
Dim str2 As String = "Banana"

Dim result As Integer = str1.CompareTo(str2)

If result = 0 Then
    Console.WriteLine("สตริงเท่ากัน")
ElseIf result < 0 Then
    Console.WriteLine("str1 น้อยกว่า str2")
Else
    Console.WriteLine("str1 มากกว่า str2")
End If

`str1.CompareTo(str2)` จะเปรียบเทียบสตริง `str1` กับ `str2` และจะคืนค่าสถานะการเปรียบเทียบ ถ้าเท่ากันจะคืน 0 ถ้า `str1` น้อยกว่าจะคืนค่าติดลบ และถ้ามากกว่าจะคืนค่าบวก

ตัวอย่างที่ 3: การใช้งาน Operator `=`

 Dim str1 As String = "Expert Programming Tutor"
Dim str2 As String = "Expert Programming Tutor"

If str1 = str2 Then
    Console.WriteLine("สตริงเท่ากัน")
Else
    Console.WriteLine("สตริงไม่เท่ากัน")
End If

ผู้เขียนโค้ดสามารถใช้ Operator `=` เพื่อเปรียบเทียบสตริงได้โดยตรง ซึ่งในตัวอย่างนี้ สตริง `str1` และ `str2` เท่ากัน

Usecase ในโลกจริง

หนึ่งใน Usecase ที่เราจะพบการเปรียบเทียบสตริงบ่อยๆ คือ ในระบบล็อกอิน เวลาที่ผู้ใช้ป้อนรหัสผ่านเพื่อเข้าสู่ระบบ โค้ดเบื้องหลังจะต้องเปรียบเทียบสตริงรหัสผ่านที่ใส่กับรหัสผ่านที่เก็บไว้ในฐานข้อมูล ด้วยการใช้ฟังก์ชันการเปรียบเทียบสตริงที่น่าเชื่อถือและปลอดภัย เป็นต้น

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง