การเขียนโปรแกรมไม่ได้มีแค่การสร้างโค้ดที่ทำงานได้เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเลือกใช้ Algorithm ที่เหมาะสมเพื่อแก้ไขปัญหาที่เจออย่างมีประสิทธิภาพ หนึ่งในปริศนาของโปรแกรมเมอร์ที่พบเจออยู่บ่อยครั้งก็คือการรวมอาร์เรย์สองชุดเข้าด้วยกัน เช่น การรวมข้อมูลลูกค้าจากทั้งตะวันออกและตะวันตกเพื่อทำการวิเคราะห์ตลาด ในบทความนี้ เราจะเข้าใจ F* Algorithm ซึ่งเป็นวิธีการหนึ่งในการรวมอาร์เรย์ข้อมูลโดยใช้ภาษา VB.NET
ที่จริงแล้ว F* Algorithm (F-star Algorithm) ไม่ใช่ชื่อของอัลกอริธึมที่มีการกำหนดไว้อย่างเป็นทางการในแวดวงคอมพิวเตอร์ แต่เพื่อความสะดวกในการอ้างอิง ในที่นี้เราจะใช้ F* Algorithm เป็นชื่อเรียกวิธีการรวมอาร์เรย์สองชุดโดยที่ไม่สูญเสียลำดับข้อมูล
ด้วยภาษา VB.NET เรามีฟังก์ชั่นในตัวที่ช่วยให้การรวมอาร์เรย์เป็นเรื่องง่าย แต่การรวมด้วยวิธีแบบธรรมดาอาจจะไม่เพียงพอเมื่อต้องการคำนึงถึงประสิทธิภาพ ดังนั้นเราจะมาดูตัวอย่างของโค้ดที่แสดงวิธีการรวมอาร์เรย์โดยใช้ F* Algorithm ที่สามารถรักษาลำดับข้อมูลได้เป็นอย่างดี พร้อมกับวิเคราะห์ความซับซ้อน และข้อดีข้อเสียของมัน
Function MergeArrays(ByVal array1() As Integer, ByVal array2() As Integer) As Integer()
Dim mergedArray(array1.Length + array2.Length - 1) As Integer
Dim i As Integer = 0, j As Integer = 0, k As Integer = 0
' วนรอบจนกว่าหนึ่งในอาร์เรย์จะถูกบริโภคหมด
While i < array1.Length AndAlso j < array2.Length
If array1(i) < array2(j) Then
mergedArray(k) = array1(i)
i += 1
Else
mergedArray(k) = array2(j)
j += 1
End If
k += 1
End While
' ถ้ายังเหลือข้อมูลในอาร์เรย์ใดอาร์เรย์หนึ่งก็เพิ่มลงในตัวแปร mergedArray
While i < array1.Length
mergedArray(k) = array1(i)
i += 1
k += 1
End While
While j < array2.Length
mergedArray(k) = array2(j)
j += 1
k += 1
End While
Return mergedArray
End Function
ในการดำเนินธุรกิจออนไลน์ เราอาจมีข้อมูลลูกค้าที่จัดเก็บไว้ในอาร์เรย์สองชุดที่ต้องการนำมารวมกันเพื่อวิเคราะห์ความต้องการของตลาดอย่างรวดเร็ว โดยมีเงื่อนไขว่าข้อมูลลูกค้าจากอาร์เรย์แต่ละชุดเรียงลำดับโดยเจาะจง (ตามวันที่เช่น) การใช้ F* Algorithm จะช่วยให้เราสามารถรวมข้อมูลเหล่านี้โดยไม่ทำให้ลำดับเเลกเเละรักษาความถูกต้องของข้อมูลได้
จากโค้ดข้างต้นความซับซ้อนของ F* Algorithm ในการรวมอาร์เรย์นั้นคือ O(n+m) ซึ่ง n และ m คือจำนวนสมาชิกในอาร์เรย์แรกและอาร์เรย์ที่สอง ที่ต้องใช้เวลาวนรอบทั้งสองอาร์เรย์เพื่อสร้างอาร์เรย์ใหม่
- การรักษาลำดับข้อมูลที่ถูกต้องหลังการรวม
- มีความสามารถในการประมวลผลที่รวดเร็วเมื่อเทียบกับปริมาณข้อมูล
- เข้าใจง่าย และนำไปใช้งานได้จริงในสถานการณ์ที่ข้อมูลต้องการเรียงลำดับ
- อาจไม่มีประสิทธิภาพในกรณีที่อาร์เรย์สองชุดมีขนาดที่ต่างกันมาก
- มีความจำเป็นต้องมีพื้นที่พิเศษ (Extra space) เพื่อจัดเก็บอาร์เรย์ที่รวมกันแล้ว
หลังจากที่เราได้เข้าใจเกี่ยวกับ F* Algorithm ในภาษา VB.NETแล้ว ขอเชิญชวนผู้ที่สนใจในการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมอย่างลึกซึ้งที่โรงเรียนคอมพิวเตอร์ EPT ที่นี่เรามีหลักสูตรในการเรียนรู้โปรแกรมมิ่งที่หลากหลายไม่ว่าจะเป็นพื้นฐานการเขียนโปรแกรม, ปัญหาและอัลกอริธึมการเขียนโปรแกรมระดับสูง, และการเขียนโปรแกรมสำหรับโปรเจกต์ที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจให้ได้มาซึ่งประสบการณ์จริง ต่อยอดจากวงการการศึกษาสู่การปฏิบัติงานจริงได้อย่างมืออาชีพ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: algorithm f*_algorithm merge_arrays vb.net programming array sorting data_analysis complexity use_case programming_language code_example efficiency data_structure ept
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM