การใช้งาน Parse JSON to object ในภาษา VB.NET แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง

การใช้งาน Parse JSON ไปยัง Object ในภาษา VB.NET

ในยุคข้อมูลขนาดใหญ่นี้ การสื่อสารข้อมูลระหว่างเว็บเซอร์วิสและแอปพลิเคชั่นต่างๆ มักจะใช้รูปแบบของ JSON (JavaScript Object Notation) เป็นหลัก เจสันถูกออกแบบมาให้เป็นรูปแบบดาต้าที่เบาและอ่านง่าย ทั้งสำหรับมนุษย์และเครื่องจักร วันนี้ เราจะมาทำความเข้าใจกับกระบวนการแปลง (Parse) ข้อมูลเจสันไปเป็นอ็อบเจ็คต์ในภาษา VB.NET พร้อมทั้งทำความเข้าใจว่ากระบวนการนี้สามารถนำไปใช้ในโลกจริงได้อย่างไร

เรามาเริ่มกันที่ตัวอย่างโค้ดแรก:

ตัวอย่าง 1: Parse JSON เบื้องต้น

 Imports Newtonsoft.Json

Public Class User
    Public Property Name As String
    Public Property Email As String
End Class

Sub Main()
    Dim jsonString As String = "{""Name"":""John Doe"",""Email"":""john@example.com""}"
    Dim userObj As User = JsonConvert.DeserializeObject(Of User)(jsonString)

    Console.WriteLine("Name: " & userObj.Name)
    Console.WriteLine("Email: " & userObj.Email)
End Sub

ในตัวอย่างนี้ เราใช้ไลบรารี่ Newtonsoft.Json เพื่อช่วยในการแปลงข้อมูล JSON ไปเป็นอ็อบเจคต์ใน VB.NET โดยสร้างคลาส User ที่มีโครงสร้างตรงกับข้อมูลใน JSON เมื่อเราแปลง JSON สำเร็จ เราจะได้ userObj ที่เป็นอ็อบเจคต์ของผู้ใช้ ซึ่งสามารถใช้งานข้อมูลได้ง่ายขึ้น

ตัวอย่าง 2: Parse JSON ที่มี Array

 Imports Newtonsoft.Json

Public Class User
    Public Property Name As String
    Public Property Email As String
    Public Property Roles As List(Of String)
End Class

Sub Main()
    Dim jsonString As String = "{""Name"":""Jane Doe"",""Email"":""jane@example.com"",""Roles"":[""Admin"",""User""]}"
    Dim userObj As User = JsonConvert.DeserializeObject(Of User)(jsonString)

    Console.WriteLine("Name: " & userObj.Name)
    Console.WriteLine("Email: " & userObj.Email)
    Console.WriteLine("Roles:")
    For Each role As String In userObj.Roles
        Console.WriteLine("- " & role)
    Next
End Sub

ตัวอย่างนี้แสดงการแปลง JSON ที่มีอาร์เรย์ของสตริง คลาส User ได้ถูกขยายเพื่อรวมสมาชิก Roles ซึ่งเป็นอาร์เรย์ของสตริง ด้วยการใช้ List(Of String) ใน VB.NET จากนั้นเราก็ parse JSON string และใช้ loop forEach เพื่อแสดงบทบาทของผู้ใช้

ตัวอย่าง 3: Parse JSON ที่ซับซ้อน

 Imports Newtonsoft.Json

Public Class User
    Public Property Name As String
    Public Property Email As String
    Public Property Address As Address
End Class

Public Class Address
    Public Property Street As String
    Public Property City As String
End Class

Sub Main()
    Dim jsonString As String = "{""Name"":""Sam Smith"",""Email"":""sam@example.com"",""Address"":{""Street"":""123 Main St"",""City"":""Anytown""}}"
    Dim userObj As User = JsonConvert.DeserializeObject(Of User)(jsonString)

    Console.WriteLine("Name: " & userObj.Name)
    Console.WriteLine("Email: " & userObj.Email)
    Console.WriteLine("Address: " & userObj.Address.Street & ", " & userObj.Address.City)
End Sub

กรณีนี้เรามี JSON string ที่มีโครงสร้างที่ซับซ้อนขึ้นมาอีกขั้น มีการใช้งานอ็อบเจคต์ย่อยซึ่งเป็นที่อยู่ของผู้ใช้ คลาส Address ถูกสร้างขึ้นเพื่อจัดการกับส่วนนี้ของข้อมูลทีถูกเพิ่มมา

การใช้ตัวอย่างโค้ดเหล่านี้ในโลกจริง:

ในวิเคราะห์แล้ว การทำ Parse JSON ไปยัง Object นั้นมีประโยชน์มากมาย เรามักจะพบกับการใช้งานในการ สร้างระบบ API ที่ต้องการสื่อสารข้อมูลกับเว็บเซอร์วิสอื่นๆ เช่น ในการรับข้อมูลผู้ใช้จากเว็บเซอร์วิสโซเชียลเน็ตเวิร์ค เช่น Facebook หรือ Google โดยข้อมูลที่ได้มาในรูปแบบ JSON สามารถเปลี่ยนเป็นอ็อบเจคต์ใน VB.NET เพื่อใช้งานได้ง่ายขึ้น

ยิ่งไปกว่านั้น กระบวนการนี้ยังช่วยให้สามารถเก็บข้อมูลไปใช้งานต่อในฐานข้อมูลได้อย่างสะดวก โดยที่ไม่ต้องจัดการกับการเข้ารหัสหรือถอดรหัสข้อมูลด้วยตนเอง

สุดท้ายนี้ ความรู้เบื้องต้นและเทคนิคการ Parse JSON นี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของหลักสูตรการเรียนรู้โปรแกรมมิงที่ Expert-Programming-Tutor (EPT) ซึ่งเรามีคอร์สเรียนและเนื้อหาที่รองรับการเรียนรู้ทั้งในระดับพื้นฐานไปจนถึงขั้นสูง หากคุณสนใจที่จะเขียนโปรแกรมด้วยความเข้าใจที่สูงขึ้นและสามารถประยุกต์ใช้ในงานการพัฒนาแอปพลิเคชั่น อย่ารอช้าที่จะติดต่อเรา ที่ EPT เราพร้อมพาคุณออกเดินทางในโลกของการเขียนโปรแกรมไปสู่เป้าหมายที่คุณต้องการ!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง