# Accessibility in OOP Concept และการใช้ข้อดีของมันในภาษา VB.NET
สวัสดีครับผู้อ่านทุกท่าน! วันนี้เราจะมาพูดถึงหัวข้อที่เรียกได้ว่าเป็นเสาหลักของการเขียนโปรแกรมแบบวัตถุจัดเรียง (Object-Oriented Programming - OOP) นั่นคือ "Accessibility" หรือคุณสมบัติในการควบคุมการเข้าถึง โดยเราจะพูดถึงสิ่งนี้ในภาษา VB.NET ด้วยข้อเสนอแนะ, ตัวอย่างโค้ด และ case study ในโลกปัจจุบันเพื่อให้เห็นถึงการนำไปใช้งานจริง
Accessibility หรือการกำหนดระดับการเข้าถึงตัวแปร และเมธอดนั้นคือหัวใจของการเขียนโปรแกรมแบบ OOP เพราะช่วยให้เราสามารถกำหนดขอบเขตของการใช้งานและปกป้องข้อมูลให้ห่างไกลจากการเข้าถึงที่ไม่มีสิทธิ์ ซึ่งช่วยให้โค้ดของเราปลอดภัย และรักษารูปแบบการทำงานที่เสถียรมากขึ้น
VB.NET มีระบบความเข้ากันได้อย่างดีกับ concept นี้ โดยมีการกำหนดระดับการเข้าถึงผ่านคำสั่งต่าง ๆ ดังนี้:
- `Public`: สามารถเข้าถึงได้จากทุกที่
- `Protected`: สามารถเข้าถึงได้ภายในคลาสนั้น ๆ และคลาสลูกที่มรดกมา
- `Friend` (หรือ `Internal` ใน C#): เข้าถึงได้ภายในแอสเซมบลี่เดียวกัน
- `Private`: เข้าถึงได้เฉพาะภายในคลาสเดียวกัน
ตัวอย่าง 1: การกำหนดระดับการเข้าถึงในคลาส
Public Class Vehicle
' Accessible from anywhere
Public VehicleName As String
' Accessible only within this class or inheriting classes
Protected VehicleType As String
' Accessible only within the assembly
Friend ManufacturedDate As Date
' Accessible only within this class
Private VehicleID As Integer
Public Sub New(name As String, vType As String, mDate As Date)
VehicleName = name
VehicleType = vType
ManufacturedDate = mDate
GenerateID()
End Sub
Private Sub GenerateID()
' Code to generate unique VehicleID
End Sub
End Class
ในตัวอย่างนี้ คุณจะเห็นว่าเรากำหนดคุณสมบัติและวิธีการต่างๆ ระดับการเข้าถึงที่แตกต่างกัน เพื่อปกป้องข้อมูลภายใน 'Vehicle' และการสร้างโครงสร้างที่มีระเบียบมากขึ้น
ตัวอย่าง 2: การสืบทอดและการเข้าถึงตัวแปร Protected
Public Class Car
Inherits Vehicle
Public Sub New()
MyBase.New("Car", "Sedan", Date.Now)
End Sub
Public Function GetVehicleType() As String
Return VehicleType ' Accessing the protected member
End Function
End Class
ในตัวอย่างนี้ 'Car' สืบทอดจาก 'Vehicle' และเราสามารถเข้าถึง 'VehicleType' ผ่านการเรียกใช้ในคลาสลูกได้ เพราะมันถูกประกาศเป็น `Protected`
Usecase 1: ระบบการจัดการพนักงาน
ในระบบการจัดการพนักงาน ข้อมูลบางอย่างเช่นเงินเดือนหรือประวัติการเข้างานควรจะถูกจำกัดการเข้าถึงเพื่อคุ้มครองความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย การกำหนดระดับ `Private` หรือ `Protected` ในสมาชิกคลาสจะช่วยป้องกันไม่ให้สมาชิกอื่นในองค์กรเข้าถึงข้อมูลนี้ได้โดยไม่ได้รับอนุญาต
Usecase 2: แอปพลิเคชันธนาคารทางอินเทอร์เน็ต
ธนาคารออนไลน์ต้องมีการเข้าถึงข้อมูลที่แน่นอนอย่างเป็นทางการ ซึ่งเกี่ยวข้องกับทรัพย์สินและรายการของลูกค้า การใช้ `Private` ในข้อมูลธนาคารของลูกค้าและการจำกัดการเข้าถึงเฉพาะมีการเข้าถึงเพื่อปกป้องข้อมูลทั้งหมดจากการถูกละเมิด
Accessibility ใน OOP เป็นหัวข้อที่ซับซ้อนและมีประโยชน์มาก เราที่ Expert-Programming-Tutor (EPT) มีหลักสูตรที่จะช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการเข้าใจและใช้งาน concept นี้อย่างลึกซึ้ง ไม่แปลกที่การเรียนรู้ถึงรายละเอียดเหล่านี้จะทำให้คุณกลายเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีทักษะสูง หากคุณอยากเป็นหนึ่งในนั้น ติดต่อเราทันทีที่ EPT แล้วมาเรียนรู้ร่วมกัน!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: oop accessibility vb.net programming object-oriented_programming inheritance access_levels encapsulation software_development code_example class method data_protection information_security programming_language
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM