หัวข้อ: Cache คืออะไร? มีประโยชน์อย่างไร? ใช้งานตอนไหน?
หากเราเปรียบเสมือนเด็กอายุ 8 ปีที่กำลังจะเรียนรู้เกี่ยวกับ "Cache" ในโลกของคอมพิวเตอร์ บทความนี้จะพาทุกท่านทำความเข้าใจไปพร้อมๆ กันในแบบง่ายๆ ราวกับเรากำลังเรียนรู้เรื่องราวใหม่ๆ ลงในกระดานหินเกลียวคลื่นของความรู้ที่น่าตื่นเต้นนี้
Cache ในคอมพิวเตอร์ เราอาจจะเรียกมันว่า "ห้องสมุดเล็กๆ ในหัวใจ" ห้องสมุดนั้นมีหนังสือที่เราชอบอ่านและใช้บ่อยๆ และเมื่อเราต้องการหนังสือเหล่านั้น เราไม่จำเป็นต้องไปหาที่ไหนไกล เพราะมันอยู่ใกล้มือเราแล้ว
Cache ในคอมพิวเตอร์ก็เช่นกัน มันเป็นพื้นที่เก็บข้อมูลชั่วคราวที่ช่วยให้การเข้าถึงข้อมูลที่ใช้บ่อยๆ เป็นไปได้อย่างรวดเร็วกว่าที่จะต้องไปจัดหามาจากที่ไกลๆ ภายในคอมพิวเตอร์ของเรา
การมี Cache ช่วยให้คอมพิวเตอร์ของเรา "ฉลาด" ขึ้น เพราะมันจำได้ว่าเราเคยใช้ข้อมูลไหนไปแล้ว แล้วเก็บไว้ใกล้ๆ สำหรับการเข้าถึงครั้งถัดไป นั่นทำให้คอมพิวเตอร์ไม่ต้องวิ่งไปหาข้อมูลที่ฮาร์ดไดรฟ์ทุกครั้งที่ต้องการ ซึ่งถือว่าช้ากว่ามาก
เช่นเอาขนมที่เราชอบไว้ในกระเป๋า เมื่อเราหิว ก็หยิบออกมากินได้เลย ไม่ต้องไปเปิดตู้หรือซื้อขนมใหม่ทุกครั้ง เข้าใจง่ายใช่ไหมล่ะ?
เราใช้ Cache ทุกครั้งที่เราทำธุรกรรมกับข้อมูลบ่อยๆ เช่น ดูวิดีโอออนไลน์, เล่นเกม, หรือท่องเว็บไซต์ ที่ต้องโหลดข้อมูลเดิมๆ ซ้ำแล้วซ้ำเล่า Cache จะทำงานโดยอัตโนมัติเพื่อให้คุณสามารถชมวิดีโอไดอาน่าครั้งต่อไปอย่างรวดเร็วหรือสลับหน้าเว็บไซต์โดยไม่ต้องรอนาน
หากเราหยิบเอาพระเอกตัวน้อยอย่าง "หนูน้อยไอที" มาเปรียบเทียบ Cache ก็เหมือนหนูน้อยไอทีจดจำเกมที่ชอบเล่นและวางไว้บนตู้ของเล่นเพื่อสามารถหยิบมาเล่นได้ทันที เมื่อต้องการความสนุกสนาน ไม่ต้องไปขุดค้นเกมในห้องเช่าเหล่านั้นอีกต่อไป
ในโลกของการเขียนโปรแกรมด้วยภาษา Python ตัวอย่างเช่นเรามีฟังก์ชันที่คำนวณตัวเลขฟิโบนาชชี่, ซึ่งหมายเลขแต่ละตัวจะถูกคำนวณโดยการเพิ่มตัวเลขสองตัวก่อนหน้าเข้าด้วยกัน:
def fib(n):
if n == 0 or n == 1:
return n
else:
return fib(n - 1) + fib(n - 2)
ถ้าไม่มีการเก็บ Cache, การคำนวณ `fib(5)` จะทำให้เราต้องคำนวณ `fib(3)` และ `fib(4)` ซ้ำๆเป็นครั้งคราว แต่ด้วยการใช้เทคนิคของการเก็บ Cache ที่เรียกว่า "memoization" เราสามารถบันทึกค่าที่คำนวณแล้วไว้เพื่อไม่ให้ต้องคำนวณซ้ำ:
cache = {} # นี่คือห้องสมุดของเรา
def fib_memo(n):
if n in cache:
return cache[n] # หยิบหนังสือที่เราอ่านแล้วออกมาจากห้องสมุด
if n == 0 or n == 1:
return n
else:
result = fib_memo(n - 1) + fib_memo(n - 2)
cache[n] = result # เก็บหนังสือเข้าห้องสมุดเพื่ออ่านในอนาคต
return result
การใช้ Cache ในการเขียนโปรแกรม เช่นการใช้ `cache` ในตัวอย่างนี้ ทำให้โปรแกรมทำงานได้รวดเร็วขึ้น เพราะมีการเก็บข้อมูลที่คำนวณแล้วไว้และเรียกใช้อีกครั้งหากเป็นต้องการ
การเรียนรู้การเขียนโค้ดและการใช้งาน Cache เหล่านี้ เป็นเพียงส่วนหนึ่งของการเรียนรู้ด้านการเขียนโปรแกรม ซึ่งสามารถสำรวจและศึกษาลึกซึ้งได้มากมาย ที่คอมพิวเตอร์โปรแกรมมิ่งสคูลอย่าง EPT พวกเขามีหลักสูตรและผู้เชี่ยวชาญที่พร้อมจะนำพาทุกท่านไปสู่โลกของการเขียนโปรแกรมอย่างมืออาชีพและเต็มรูปแบบ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM