การใช้งาน OOP object oriented programming ในภาษา Php แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง CODE 3 ตัวอย่าง และอธิบายการทำงาน และยกตัวอย่าง usecase ในโลกจริง

การเขียนโปรแกรมแบบวัตถุมุ่ง (Object-Oriented Programming หรือ OOP) เป็นหนึ่งในแนวคิดหลักของวิธีการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างโค้ดที่มีการจัดระเบียบ, สามารถนำกลับมาใช้งานได้, และง่ายต่อการจัดการ. ภาษา PHP ซึ่งเป็นภาษาสคริปต์ที่นิยมใช้ในการพัฒนาเว็บไซต์ ได้รองรับ OOP และทุกวันนี้กลายเป็นหลักการพื้นฐานที่สำคัญในการเขียน PHP.

ในบทความนี้ เราจะมาพูดคุยถึงหลักการของ OOP ใน PHP พร้อมกับตัวอย่างโค้ด 3 ตัวอย่างเพื่อให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น รวมถึงการนำไปประยุกต์ใช้ในโลกจริง.

ความเป็นมาของ OOP ใน PHP

เริ่มแรก PHP ไม่ได้ถูกออกแบบมาเพื่อการเขียนโปรแกรมแบบ OOP อย่างแท้จริง แต่เมื่อเวลาผ่านไป การพัฒนาได้ถูกทำให้ PHP นั้นรองรับ OOP อย่างเต็มที่ ตั้งแต่ PHP 5 ไปจนถึงเวอร์ชันล่าสุด. การใช้งาน OOP ใน PHP ทำให้โค้ดมีความยืดหยุ่นและแก้ไขได้ง่ายขึ้น เพิ่มความเป็นระเบียบ และลดความซับซ้อนของโค้ด.

หลักการ OOP ที่สำคัญ

การเขียนโปรแกรมแบบ OOP มีหลักการ 4 ข้อหลัก ได้แก่ Encapsulation, Inheritance, Polymorphism และ Abstraction.

ตัวอย่างโค้ด OOP ใน PHP

ตัวอย่างที่ 1: Encapsulation

class User {
    private $name;
    private $email;

    public function __construct($name, $email) {
        $this->name = $name;
        $this->email = $email;
    }

    public function getName() {
        return $this->name;
    }
}

$user = new User("Somchai", "somchai@example.com");
echo $user->getName(); // แสดงผล: Somchai

ในตัวอย่างนี้, `name` และ `email` ถูก encapsulate ภายใน class `User`. เราสามารถเข้าถึง `name` ผ่าน method `getName` ที่เป็น public.

ตัวอย่างที่ 2: Inheritance

class Employee extends User {
    private $salary;

    public function __construct($name, $email, $salary) {
        parent::__construct($name, $email);
        $this->salary = $salary;
    }

    public function getSalary() {
        return $this->salary;
    }
}

$employee = new Employee("Suda", "suda@example.com", 50000);
echo $employee->getName(); // Suda
echo $employee->getSalary(); // 50000

`Employee` คือ subclass ที่ extends จาก `User`. นอกจาก `name` และ `email` แล้ว `Employee` ยังมี attribute `salary`.

ตัวอย่างที่ 3: Polymorphism

interface Shape {
    public function getArea();
}

class Circle implements Shape {
    private $radius;

    public function __construct($radius) {
        $this->radius = $radius;
    }

    public function getArea() {
        return pi() * $this->radius * $this->radius;
    }
}

class Rectangle implements Shape {
    private $width;
    private $height;

    public function __construct($width, $height) {
        $this->width = $width;
        $this->height = $height;
    }

    public function getArea() {
        return $this->width * $this->height;
    }
}

function printArea(Shape $shape) {
    echo $shape->getArea() . "\n";
}

printArea(new Circle(4)); // ประมาณ 50.265
printArea(new Rectangle(4, 5)); // 20

ในตัวอย่างนี้ `Circle` และ `Rectangle` ทั้งคู่ implement interface `Shape` ซึ่งบังคับให้ทั้งคู่มี method `getArea`. นี่คือตัวอย่างของ polymorphism ที่ทำให้ objects ที่ต่างกันสามารถใช้ method เดียวกันได้.

Usecase ในโลกจริง

การใช้งาน OOP ใน PHP นั้นใช้ได้กับเกือบทุกประเภทของซอฟต์แวร์ เช่น ระบบจัดการเนื้อหา (Content Management System), ระบบการจัดการข้อมูลลูกค้า (Customer Relationship Management), แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซ และอื่นๆ ที่ต้องการโครงสร้างและการออกแบบที่ชัดเจน.

ในการพัฒนาเว็บไซต์, OOP ช่วยให้โค้ดของเราสามารถปรับขนาดได้ช่วยให้สามารถทำการพัฒนาต่อยอดและบำรุงรักษาได้ง่ายขึ้น. เช่น สร้างระบบล็อกอินที่สามารถนำไปใช้ในหลายๆ โปรเจ็กต์โดยไม่ต้องเขียนโค้ดใหม่.

หากคุณสนใจในการเรียนรู้เขียนโปรแกรมด้วยภาษา PHP รวมถึงการใช้งาน OOP แบบมืออาชีพ เราขอเชิญชวนคุณมาเรียนรู้กับเราที่ EPT, ที่เปิดโอกาสให้คุณได้เรียนรู้อย่างลึกซึ้งกับผู้สอนที่มีประสบการณ์. เรามีหลักสูตรที่ครอบคลุมตั้งแต่การเขียนโปรแกรมเบื้องต้นไปจนถึงระดับสูง. ค้นพบโลกแห่งการเขียนโค้ดที่ไม่มีขีดจำกัดกับ EPT วันนี้!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง