การเขียนโปรแกรมนั้นเปรียบเสมือนศิลปะการแก้ปัญหา และทางเลือกหนึ่งที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถจัดการกับปัญหาซับซ้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพคือการใช้ Divide and Conquer หลักการนี้เป็นรากฐานที่ใช้ในหลายอัลกอริธึมที่สำคัญ แต่ Divide and Conquer คืออะไร? มันช่วยแก้ปัญหาอะไรได้บ้าง? มาร่วมกันค้นหาในบทความนี้ และพบกับศิลปะการเรียนรู้โปรแกรมมิ่งที่ EPT มากขึ้น!
Divide and Conquer เป็นวิธีการออกแบบอัลกอริธึมที่ระบาดคิดง่ายๆ คือการแบ่งปัญหาขนาดใหญ่ออกเป็นปัญหาขนาดเล็กย่อยๆ ที่สามารถจัดการได้ง่ายขึ้น และสุดท้ายคือการรวมผลลัพธ์เหล่านั้นเข้าด้วยกันเพื่อคำตอบสุดท้ายที่สมบูรณ์ มันประกอบด้วยสามขั้นตอนหลัก:
1. Divide: แบ่งปัญหาออกเป็นปัญหาย่อยๆ 2. Conquer: แก้ไขปัญหาย่อยๆ นั้นโดยอิสระไปกับขั้นตอนที่หนึ่งของทั้งหมด 3. Combine: รวมผลลัพธ์ที่ได้เพื่อให้ได้คำตอบสุดท้าย
มีอัลกอริธึมหลายตัวที่ใช้หลักการ Divide and Conquer เช่น Quick Sort, Merge Sort, การคำนวณ power ของตัวเลข (เช่น การหา x^n), และทำ Binary Search เป็นต้น
ในโลกจริง Divide and Conquer มีการนำไปใช้ในการจัดการข้อมูลขนาดใหญ่ เช่น การเรียงลำดับข้อมูล (Sorting), การค้นหาข้อมูล (Searching) ในฐานข้อมูลขนาดใหญ่, การประมวลผลภาพ (Image Processing), และอื่นๆ
Merge Sort เป็นอัลกอริธึมการเรียงลำดับที่ใช้ Divide and Conquer โดยแบ่ง array ออกเป็นส่วนย่อยๆและเรียงลำดับแต่ละส่วนก่อนการรวมกลับเข้าด้วยกัน นี่คือตัวอย่างโค้ดในภาษา C:
#include
#include
// โค้ดสำหรับการ Merge
void merge(int arr[], int l, int m, int r) {
int i, j, k;
int n1 = m - l + 1;
int n2 = r - m;
// สร้าง arrays ชั่วคราว
int L[n1], R[n2];
// คัดลอกระหว่างข้อมูลไปยังรหัสย่อ L[] และ R[]
for (i = 0; i < n1; i++)
L[i] = arr[l + i];
for (j = 0; j < n2; j++)
R[j] = arr[m + 1 + j];
// รวมรหัสย่อ L[] และ R[] กลับเข้า array หลัก arr[]
i = 0; j = 0; k = l;
while (i < n1 && j < n2) {
if (L[i] <= R[j]) {
arr[k] = L[i];
i++;
} else {
arr[k] = R[j];
j++;
}
k++;
}
// คัดลอกการเหลือเฟือ L[] elements หากมี
while (i < n1) {
arr[k] = L[i];
i++;
k++;
}
// คัดลอกการเหลือเฟือ R[] elements หากมี
while (j < n2) {
arr[k] = R[j];
j++;
k++;
}
}
// โค้ดสำหรับการ Merge Sort
void mergeSort(int arr[], int l, int r) {
if (l < r) {
//หาจุดกึ่งกลางเพื่อใช้ในการแบ่งอาร์เรย์เป็นสองส่วน
int m = l + (r - l) / 2;
// จัดการกับตัวย่อได้ด้วยการเรียกฟังก์ชันตัวเอง
mergeSort(arr, l, m);
mergeSort(arr, m + 1, r);
merge(arr, l, m, r);
}
}
// ฟังก์ชันหลักที่ควบคุมการเรียงลำดับ
int main() {
int arr[] = {12, 11, 13, 5, 6, 7};
int arr_size = sizeof(arr)/sizeof(arr[0]);
printf("Given array is \n");
printArray(arr, arr_size);
mergeSort(arr, 0, arr_size - 1);
printf("\nSorted array is \n");
printArray(arr, arr_size);
return 0;
}
Divide and Conquer มักมี Complexity ที่ดีเมื่อเทียบกับวิธีอื่นๆ ตัวอย่างเช่น Merge Sort มีความซับซ้อนในการใช้งานเป็น O(n log n) ซึ่งเป็นเวลาที่สามารถยอมรับได้สำหรับการเรียงลำดับทางเลือก การค้นหาแบบ Binary Search ก็ใช้เวลา O(log n) ทำให้เป็นที่นิยมในการค้นหาข้อมูลขนาดใหญ่
ข้อดี:
- ช่วยลดความซับซ้อนของปัญหาได้ดีทำให้ปัญหาที่ซับซ้อนกลายเป็นง่าย
- ช่วยแบ่งภาระงานเพื่อให้สามารถทำงานพร้อมกันได้ (Parallel Computing)
- ปรับขนาดได้ดี เหมาะกับข้อมูลขนาดใหญ่
ข้อเสีย:
- บางทีอาจไม่เหมาะกับขนาดของปัญหาที่เล็ก
- ในบางกรณีอาจมีการใช้หน่วยความจำเพิ่มขึ้นเนื่องจากต้องมีการจัดการกับข้อมูลย่อยๆ
- อาจจะซับซ้อนในการออกแบบและตรวจสอบความถูกต้องของอัลกอริธึม
หากคุณสนใจที่จะพัฒนาทักษะโปรแกรมมิ่งและอยากเรียนรู้ด้วยวิธีการแบบ Divide and Conquer หรืออัลกอริธึมอื่นๆ ที่ท้าทายกว่า มาเรียนรู้และเข้าใจโลกของการเขียนโปรแกรมที่ EPT ที่เรามีหลักสูตรที่จะช่วยพัฒนาทักษะของคุณอย่างเต็มศักยภาพ!
Divide and Conquer เป็นพื้นฐานที่จะพาคุณไปสู่การเป็นนักโปรแกรมมิ่งที่วางแผนและแก้ไขปัญหาได้อย่างชาญฉลาด ไม่ต้องรอช้า, ค้นหาหลักสูตรที่เหมาะสมกับคุณได้ที่ EPT แล้วมาเป็นส่วนหนึ่งของวงการโปรแกรมเมอร์ที่ไม่หยุดนิ่งในการเรียนรู้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: divide_and_conquer algorithm programming c merge_sort quick_sort binary_search complexity_analysis sorting searching parallel_computing data_processing image_processing programming_skills learning
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM