บทความ: Accessibility in OOP Concept – ความหมายและการประยุกต์ใช้ในภาษา C
การเขียนโปรแกรมนั้นไม่ได้เกี่ยวกับการเขียนโค้ดเพียงอย่างเดียว แต่ยังประกอบไปด้วยการออกแบบโครงสร้างที่มีคุณภาพ สามารถขยาย (scalable) และบำรุงรักษาได้ง่าย (maintainable) หนึ่งในแนวคิดหลักที่ช่วยให้การพัฒนาซอฟต์แวร์บรรลุเป้าหมายเหล่านี้คือ "object-oriented programming" หรือ OOP ซึ่งมีสี่หลักการหลักๆ วันนี้เราจะมาพูดถึง "Accessibility" หรือ "การเข้าถึง" ที่มีใน OOP โดยเฉพาะในภาษา C เรามาทำความเข้าใจกันว่ามันคืออะไร การทำงานอย่างไร พร้อมตัวอย่างโค้ดและยกตัวอย่างใช้งานในโลกจริงกันเถอะ!
Accessibility ใน OOP หมายถึง การกำหนดระดับการเข้าถึงให้กับสมาชิกของ Class และ Object โดยมีสามระดับหลักๆ คือ public, private และ protected ซึ่งมีความหมายดังนี้:
- public: สมาชิกที่ประกาศด้วย public สามารถเข้าถึงได้จากทุกที่ ภายในหรือภายนอกของ class
- private: สมาชิกที่ประกาศด้วย private สามารถเข้าถึงได้เฉพาะภายใน class นั้นๆ ถือเป็นการซ่อนรายละเอียดการทำงานภายใน (encapsulation)
- protected: คล้ายกับ private แต่สมาชิกที่ประกาศด้วย protected สามารถเข้าถึงได้โดย subclasses ที่มาจาก class พื้นฐาน (inheritance)
ตัวอย่างโค้ดในภาษา C:
เนื่องจากภาษา C เป็นภาษาที่ไม่สนับสนุน OOP อย่างเต็มรูปแบบ คุณภาพการกระทำระดับการเข้าถึงใน OOP จะต้องใช้เทคนิคเฉพาะ เช่น การซ่อนข้อมูลด้วยการใช้ struct และ function pointers ดังตัวอย่างด้านล่าง:
#include
// ตัวอย่าง struct ที่เลียนแบบคลาสใน OOP
typedef struct {
private:
int privateData; // ข้อมูลส่วนตัวที่ไม่สามารถเข้าถึงได้โดยตรง
public:
int publicData; // ข้อมูลสาธารณะที่สามารถเข้าถึงได้
void (*setPrivateData)(int); // Pointer ไปยังฟังก์ชันที่สามารถเปลี่ยนแปลง privateData
} MyObject;
// ฟังก์ชันที่ใช้เปลี่ยนแปลง privateData
void setPrivateData(MyObject* obj, int newData) {
obj->privateData = newData;
}
int main() {
MyObject obj;
obj.publicData = 10;
obj.setPrivateData = setPrivateData;
// อัพเดท private data ผ่านฟังก์ชันที่กำหนดไว้
obj.setPrivateData(&obj, 20);
printf("Public Data: %d\n", obj.publicData);
// printf("Private Data: %d\n", obj.privateData); // โค้ดนี้จะไม่สามารถคอมไพล์ได้เพราะ privateData เข้าถึงไม่ได้โดยตรง
return 0;
}
จากตัวอย่างข้างต้น คุณจะเห็นว่าการจำลอง accessibility ใน OOP ในภาษา C นั้นต้องใช้วิธีการต่างๆ อย่างไรก็ตาม เนื้อหาดังกล่าวสามารถสอนได้ที่ EPT เพื่อให้ผู้เรียนเข้าใจถึงการซ่อนข้อมูลและการควบคุมการเข้าถึงสมาชิกของ object ให้ดียิ่งขึ้น.
Usecase ในโลกจริง:
1. ระบบ CRM (Customer Relationship Management): เมื่อออกแบบระบบ CRM ควรมีการเข้าถึงข้อมูลลูกค้าที่จำกัดเพื่อป้องกันการเข้าถึงข้อมูลส่วนบุคคลที่ไม่ได้รับอนุญาต
2. ระบบการจัดการพนักงาน: ในแอพพลิเคชันนี้ ข้อมูลเช่นเงินเดือน หรือประวัติการทำงานควรถูกซ่อนไว้เพื่อให้เข้าถึงได้เฉพาะโดยฝ่ายทรัพยากรบุคคลและผู้จัดการเท่านั้น
การเรียนรู้และประยุกต์ใช้ Accessibility ในหลักสูตร OOP ที่ EPT จะช่วยให้คุณมีความเข้าใจในการควบคุมข้อมูลในโปรแกรมของคุณ ทำให้คุณสามารถพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพด้วยมาตรฐานระดับสากลได้อย่างมั่นใจ มาร่วมเรียนรู้และพัฒนาทักษะกับเราที่ EPT สถาบันที่จะนำคุณไปสู่การเป็นโปรแกรมเมอร์มืออาชีพ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: oop accessibility c_programming encapsulation inheritance object-oriented_programming public_access private_access protected_access struct function_pointers data_encapsulation code_example accessibility_in_c software_development
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM