Branch and Bound Algorithm เป็นทฤษฎีที่ใช้ในการแก้ปัญหาการค้นหาที่มีการจำกัดขอบเขต (constrained search problems) และ หาค่าเหมาะสมที่สุด (optimization problems) ในวิทยาการคอมพิวเตอร์ หลักการทำงานของมันคือการแบ่งปัญหาใหญ่ออกเป็นปัญหาย่อยๆ (branching) และการคำนวณขอบเขต (bounding) ที่ประกอบไปด้วยการประเมินค่าสูงสุดและต่ำสุดที่เป็นไปได้ของปัญหาย่อยนั้นๆ ซึ่งช่วยลดขนาดของการค้นหาโดยการตัดสินใจที่ฉลาดในการเลือกสาขาที่จะสำรวจต่อไปหรือทิ้งสาขาที่ไม่น่าจะมีคำตอบที่ดีที่สุดลง
#### การใช้งาน Algorithm ในภาษา C
#include
#include
// สร้าง structure สำหรับจัดเก็บข้อมูลที่จำเป็น
typedef struct {
int level, profit, weight;
float bound;
} Node;
/* หน้าที่ของฟังก์ชันนี้คือการคำนวณค่า bound ของ node ที่กำลังคำนวณอยู่
cw เป็นน้ำหนักปัจจุบัน, cp เป็นกำไรปัจจุบัน, items เป็นรายการสินค้าที่มีน้ำหนักและกำไร */
float bound(Node u, int n, int W, int items[][2]) {
// หากน้ำหนักเกินไม่ต้องคำนวณต่อ
if (u.weight >= W)
return 0;
float profit_bound = u.profit;
int j = u.level + 1;
int totweight = u.weight;
// พยายามเพิ่มของในกระเป๋าทั้งหมดตามที่ทำได้
while ((j < n) && (totweight + items[j][1] <= W)) {
totweight += items[j][1];
profit_bound += items[j][0];
j++;
}
// หากยังมีเวลาเหลือให้เพิ่มสินค้าเข้าไป
if (j < n)
profit_bound += (W - totweight) * (items[j][0] / (float)items[j][1]);
return profit_bound;
}
/* ฟังก์ชันสำหรับ Branch and Bound หาคำตอบของปัญหา Knapsack 0/1 */
int knapsack(int W, int items[][2], int n) {
// ตัวแปรสำหรับคำนวณ
Node u, v;
u.level = -1;
u.profit = u.weight = 0;
float maxProfit = 0;
// คำนวณ bound ของ node แรก
v.bound = bound(v, n, W, items);
// ต่อไปทำการค้นหาแบบลึกที่สุดก่อน
while (true) {
// ... ลำดับวิธีการค้นหาตาม Pattern ของ Branch and Bound ...
// อันนี้คือส่วนหลักสำคัญที่จะต้องเติมให้เสร็จสมบูรณ์ตามแบบฉบับของ Algorithm
}
return maxProfit;
}
int main() {
int W = 10; // น้ำหนักสูงสุดของกระเป๋า
int items[][2] = {{1, 2}, {2, 3}, {5, 4}, {6, 5}}; // {กำไร, น้ำหนัก}
int n = sizeof(items) / sizeof(items[0]);
printf("Maximum possible profit: %d\n", knapsack(W, items, n));
return 0;
}
#### Usecase ในโลกจริงของ Branch and Bound Algorithm
ในโลกแห่งความเป็นจริง, Branch and Bound Algorithm มีการใช้ในหลากหลายปัญหา เช่น ปัญหาการจัดตารางการเดินทางให้มีต้นทุนต่ำสุด (Travelling Salesman Problem), การจัดสรรทรัพยากรให้มีประสิทธิภาพสูงสุด, รวมถึงในการแก้ปัญหาเชิงกราฟที่มีข้อจำกัดเฉพาะตัว.
#### Complexity การวิเคราะห์
Complexity ของ Branch and Bound ไม่แน่นอนและขึ้นอยู่กับปัญหา ในกรณีที่สุดที่ดีที่สุด (Best Case) คือ O(n) และในกรณีที่สุดที่แย่ที่สุด (Worst Case) คือ O(2^n) สำหรับปัญหา Knapsack ดังตัวอย่าง.
#### ข้อดีและข้อเสีย
ข้อดี:
- สามารถได้คำตอบที่เหมาะสมที่สุด (Optimal Solution)
- มีความยืดหยุ่นในการแก้ปัญหาประเภทต่างๆ
ข้อเสีย:
- ประสิทธิภาพไม่ดีเมื่อเทียบกับวิธีไฮวูริสติคสำหรับปัญหาขนาดใหญ่
- สิ้นเปลืองทรัพยากรคอมพิวเตอร์ในกรณีที่แย่ที่สุดเนื่องจากต้องสำรวจทุกความเป็นไปได้
#### สรุป
Branch and Bound Algorithm เป็นวิธีที่มีประสิทธิภาพในการหาคำตอบที่เหมาะสมที่สุดสำหรับปัญหาที่มีข้อจำกัด ถึงแม้ว่าในกรณีที่แย่ที่สุดอาจต้องใช้เวลานาน แต่หากหาคำตอบที่ถูกต้องเท่านั้นที่สำคัญ Branch and Bound ก็เป็นทางเลือกที่น่าสนใจ หากคุณต้องการเรียนรู้มากขึ้นเกี่ยวกับวิธีการเข้ารหัสและแก้ปัญหาด้วยวิธีการนี้ โรงเรียนสอนโปรแกรมมิ่ง EPT มีหลักสูตรที่จะทำให้คุณก้าวข้ามขีดจำกัดในการเขียนโค้ดได้อย่างแน่นอน!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: branch_and_bound_algorithm optimization_problems constrained_search_problems programming c_programming knapsack_problem algorithm complexity_analysis travelling_salesman_problem graph_problems
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM