การใช้งาน Create bar chart from data ในภาษา C แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง

บทนำ

ในโลกที่ข้อมูลเป็นสิ่งสำคัญและทรงพลัง เราจำเป็นต้องสามารถนำข้อมูลมาเป็นภาพให้เห็นชัดเจน เพื่อการวิเคราะห์และสื่อสารได้ง่ายขึ้น หนึ่งในวิธีการสร้างภาพจากข้อมูลคือการใช้กราฟแท่ง (Bar Chart) ที่ช่วยแสดงค่าของข้อมูลในแนวนอนหรือแนวตั้ง กราฟแท่งเป็นเครื่องมือที่มีประโยชน์ในการเปรียบเทียบขนาดหรือปริมาณของหมวดหมู่ต่างๆ ในบทความนี้ เราจะมาดูวิธีสร้าง Bar Chart จากข้อมูลโดยใช้ภาษา C แบบง่ายๆ พร้อมให้ตัวอย่างโค้ด 3 ตัวอย่าง และเจาะลึกถึงการทำงานของมัน รวมถึงการนำไปใช้ในโลกจริง

ตัวอย่างโค้ดที่ 1: กราฟแท่งแบบง่าย

 #include <stdio.h>

void drawBarChart(int data[], int size) {
    for (int i = 0; i < size; i++) {
        printf("%d: ", i + 1);
        for (int j = 0; j < data[i]; j++) {
            printf("|");
        }
        printf("\n");
    }
}

int main() {
    int sampleData[] = {5, 10, 7, 3, 8};
    int dataSize = sizeof(sampleData) / sizeof(sampleData[0]);

    drawBarChart(sampleData, dataSize);

    return 0;
}

อธิบายการทำงาน:

ข้างต้นคือตัวอย่างโค้ดในภาษา C สำหรับการสร้าง Bar Chart แบบง่ายบนหน้าจอคอนโซล ฟังก์ชัน `drawBarChart` รับ array ของข้อมูลและขนาดของ array เพื่อพิมพ์ข้อมูลเป็นกราฟแท่งที่มีจำนวน `|` ตามข้อมูลใน array นั้นๆ

ตัวอย่างโค้ดที่ 2: กราฟแท่งแบบมีค่าสูงสุด

 #include <stdio.h>

#define MAX_HEIGHT 15

void drawBarChart(int data[], int size) {
    int max = 0;
    for (int i = 0; i < size; i++) {
        if (data[i] > max) {
            max = data[i];
        }
    }

    for (int i = 0; i < size; i++) {
        int normalizedHeight = (data[i] * MAX_HEIGHT) / max;
        printf("%d: ", i + 1);
        for (int j = 0; j < normalizedHeight; j++) {
            printf("*");
        }
        printf("\n");
    }
}

int main() {
    int sampleData[] = {50, 100, 70, 35, 85};
    int dataSize = sizeof(sampleData) / sizeof(sampleData[0]);

    drawBarChart(sampleData, dataSize);

    return 0;
}

อธิบายการทำงาน:

เพื่อให้กราฟมีความสะดวกในการอ่าน เรามีการนำค่าสูงสุดในข้อมูลมาหาความยาวว่าควรพิมพ์ `*` ออกมากี่ตัว เพื่อไม่ให้กราฟใหญ่เกินไปจนไม่สามารถอ่านได้ในหน้าจอที่จำกัด ค่า MAX_HEIGHT จะเป็นตัวกำหนดความสูงสุดของกราฟแท่งในการแสดงผล และใช้สูตรปรับค่าข้อมูลให้มีความสัมพันธ์กับค่าสูงสุด

ตัวอย่างโค้ดที่ 3: กราฟแท่งแบบมีคลาสละเอียดรอบด้าน

 #include <stdio.h>

#define SCALE 2
#define CATEGORIES_COUNT 5

void printCategoryLabel(int index) {
    printf("หมวด %d: ", index + 1);
}

void printBar(int size) {
    for (int i = 0; i < size * SCALE; i++) {
        printf("*");
    }
    printf("\n");
}

void drawBarChart(int data[]) {
    for (int i = 0; i < CATEGORIES_COUNT; i++) {
        printCategoryLabel(i);
        printBar(data[i]);
    }
}

int main() {
    int sampleData[CATEGORIES_COUNT] = {5, 2, 8, 6, 7};

    drawBarChart(sampleData);

    return 0;
}

อธิบายการทำงาน:

ในตัวอย่างสุดท้ายนี้ เราได้แบ่งโปรแกรมออกเป็นส่วนย่อยๆ ช่วยในการทำงานของโปรแกรมให้ชัดเจนยิ่งขึ้น ฟังก์ชัน `printCategoryLabel` ใช้สำหรับการพิมพ์ชื่อหมวดหมู่ และฟังก์ชัน `printBar` ใช้สำหรับการพิมพ์กราฟแท่ง โดย SCALE ถูกใช้เป็นตัวปรับขนาดของกราฟแท่ง

Use Case ในโลกจริง

Bar Chart มีประโยชน์อย่างมากในการเปรียบเทียบข้อมูลในหลายๆ หมวดหมู่ เช่น การเปรียบเทียบยอดขายของสินค้าหลายประเภทในเวลาหนึ่งเดือน, การสำรวจความคิดเห็นของคนในหัวข้อต่างๆ หรือแม้กระทั่งการใช้ในการทำวิจัยเพื่อแสดงจำนวนหรือความถี่ของเหตุการณ์ต่างๆ

นอกจากนี้การนำเสนอข้อมูลด้วย Bar Chart ยังสามารถนำไปใช้ในการนำเสนอผลงานวิทยาศาสตร์, การเงิน, การตลาด และอีกมากมาย ทำให้ผู้ที่มีทักษะการเขียนโปรแกรมสามารถสร้าง Bar Chart ได้แบบกำหนดค่าเอง จะช่วยให้พวกเขามีความยืดหยุ่นในการนำเสนอข้อมูลที่ต้องการ.

เพื่อสามารถสร้างกราฟแท่งที่มีโครงสร้างและรูปแบบที่เหมาะสำหรับข้อมูลและสถานการณ์เฉพาะ การเรียนรู้การเขียนโปรแกรมที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) จะช่วยให้คุณเข้าใจหลักการสำคัญ และใช้ความรู้นั้นในการสร้างและปรับแต่ง Bar Chart ที่เหมาะสมกับทุกการใช้งาน เริ่มศึกษาที่ EPT วันนี้ เพื่อพัฒนาทักษะของคุณให้ก้าวหน้าตามความต้องการของตลาด!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง