การใช้งาน Functional programming ในภาษา C++ แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่าง

# การใช้งาน Functional Programming ในภาษา C++ ที่เข้าใจได้ง่ายดาย

พบกับวิธีการใช้งาน functional programming ในภาษา C++ ที่แม้แต่มือใหม่ก็สามารถทำความเข้าใจได้โดยง่าย! และพร้อมกับตัวอย่างโค้ดและวิธีการทำงานที่ช่วยให้คุณเห็นภาพการประยุกต์ใช้ในโลกจริงได้อย่างชัดเจน หากพร้อมแล้วมาเริ่มกันเลย...

Functional Programming คืออะไร?

ก่อนอื่นเรามาทำความเข้าใจกับแนวคิดของ functional programming (FP) กันก่อน ในแง่มุมหนึ่ง FP คือการเขียนโปรแกรมที่เน้นการใช้ฟังก์ชั่นเป็นหลัก โดยมุ่งเน้นไปที่การสร้างโค้ดที่ไม่มี side-effects, โปร่งใสในการทำงาน, และสามารถประกอบฟังก์ชั่นต่างๆ เข้าด้วยกันได้อย่างลงตัว

ในภาษา C++ ซึ่งเป็นภาษาที่มีความสามารถในการรองรับโปรแกรมมิ่งรูปแบบต่างๆได้หลากหลาย การเขียนโค้ดในสไตล์ FP ก็เป็นไปได้ด้วยการใช้งานฟีเจอร์ต่างๆ เช่น lambda expressions, std::function, และฟังก์ชั่นจากไลบรารีมาตรฐาน เช่น และ

ตัวอย่างโค้ดในการใช้ Functional Programming ใน C++

ตัวอย่างที่ 1: Lambda Expressions

 #include <iostream>
#include <vector>
#include <algorithm>

int main() {
    std::vector<int> nums = {1, 2, 3, 4, 5};
    std::for_each(nums.begin(), nums.end(), [](int num) {
        std::cout << num * num << " ";  // Lambda expression อย่างง่าย
    });
}

ตัวอย่างนี้แสดงถึงการใช้ lambda expressions ในการทำการดำเนินการกับแต่ละองค์ประกอบใน `std::vector` ผลลัพธ์ที่ได้จะเป็นการพิมพ์ค่าที่เป็นกำลังสองของแต่ละตัวเลขออกมา

ตัวอย่างที่ 2: std::function

 #include <iostream>
#include <functional>

std::function<int(int)> create_multiplier(int multiplier) {
    return [multiplier](int num) {
        return num * multiplier;  // สร้างฟังก์ชั่นมัลติไพลเออร์
    };
}

int main() {
    auto times_two = create_multiplier(2);
    std::cout << "5 * 2 = " << times_two(5) << std::endl;
}

ในตัวอย่างนี้ `std::function` ถูกใช้เพื่อกำหนดประเภทของฟังก์ชั่นที่หนึ่งฟังก์ชั่นสามารถสร้างและคืนค่ากลับได้ เราสามารถใช้ lambda เพื่อสร้างฟังก์ชั่นดังกล่าวและใช้งานมันได้ต่อไป

ตัวอย่างที่ 3: การใช้งานฟังก์ชั่นจาก

 #include <iostream>
#include <vector>
#include <algorithm>

int main() {
    std::vector<int> nums = {10, 20, 30, 40, 50};

    // หาค่าที่มากกว่า 25
    auto result = std::find_if(nums.begin(), nums.end(), [](int num) {
        return num > 25;
    });

    if (result != nums.end()) {
        std::cout << "Found a number greater than 25: " << *result << std::endl;
    }
}

ตัวอย่างนี้ใช้ฟังก์ชั่น `std::find_if` เพื่อค้นหาตัวเลขที่มีค่ามากกว่า 25 ใน `std::vector` ใบี lambda ใช้เป็นเงื่อนไขการค้นหา

Usecase ในโลกจริง

การใช้งานโค้ดแบบ functional programming นั้นมีมากมายในโลกการพัฒนาซอฟต์แวร์ เช่น ในการเขียน API ที่ต้องการให้มีการจัดการข้อมูลที่สะอาดและไม่ซับซ้อน หรือใช้ในส่วนของการจัดการ collections ข้อมูลในโปรแกรมที่ต้องการความปลอดภัยสูง การเขียนโปรแกรมแบบนี้ช่วยให้โค้ดเป็นระเบียบ ลดความซับซ้อน และลดการเกิดข้อผิดพลาดได้

เห็นได้ชัดว่าการเข้าใจและการใช้งาน functional programming ใน C++ นั้นสามารถนำไปใช้งานได้จริง และหลายองค์กรด้านไอทีต่างก็พยายามที่จะส่งเสริมให้พัฒนาภายใต้แนวคิดดังกล่าว หากคุณต้องการที่จะเป็นหนึ่งในนักพัฒนาที่มีทักษะเหล่านี้ มาเรียนรู้และฝึกหัดทักษะการเขียนโปรแกรมเชิงฟังก์ชันกับเราที่ EPT ที่นี่เราพร้อมที่จะค่อยๆ นำทางคุณไปยังการเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านการเขียนโปรแกรมระดับมืออาชีพ!

หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง