### การใช้งาน Generic และ Generic Collection ในภาษา C++
การเขียนโปรแกรมเป็นศิลปะไร้ขอบเขตที่เปิดกว้างสำหรับนวัตกรรมและการปรับปรุงอย่างไม่รู้จักจบสิ้น อีกหนึ่งคุณลักษณะที่ช่วยให้ภาษาโปรแกรมมีความยืดหยุ่นและเฉพาะเจาะจงในการใช้งานคือ "Generic" หรือ "เทมเพลต" (Template) ในภาษา C++ ซึ่งเป็นเครื่องมือที่ทรงพลังสำหรับการเขียนโค้ดที่สามารถนำกลับมาใช้ใหม่ได้ (Reusable Code) ทั้งนี้ยังรวมถึง "Generic Collection" ซึ่งเป็นการรวมกลุ่มของเทมเพลตสำหรับการจัดการกับข้อมูลชุดใหญ่ในลักษณะที่ไม่จำเพาะเจาะจงชนิดข้อมูล
#### ความหมายของ Generic ใน C++
Generic ในภาษา C++ มีไว้เพื่อให้โค้ดนั้นมีความยืดหยุ่นมากขึ้น หมายความว่าเราสามารถเขียนฟังก์ชันหรือคลาสที่สามารถทำงานกับชนิดข้อมูลใดๆ ก็ได้ โดยที่ไม่จำเป็นต้องเขียนโค้ดซ้ำหลายครั้งสำหรับแต่ละชนิดข้อมูลที่ต่างกัน ซึ่งนับว่าทำให้โค้ดที่เขียนนั้นมีความกระชับและง่ายต่อการบำรุงรักษา
#### ตัวอย่างการใช้งาน Generic ใน C++
ต่อไปนี้คือ 3 ตัวอย่างโค้ดของการใช้งาน Generic ใน C++ พร้อมกับการอธิบายการทำงาน:
##### 1. ฟังก์ชันสำหรับการสลับค่าสองตัวแปร (Swap)
ในตัวอย่างนี้ `swap` เป็นฟังก์ชัน Generic ที่สามารถสลับค่าระหว่างตัวแปรสองตัวที่มีชนิดข้อมูลเดียวกันได้ ไม่จำเป็นต้องระบุว่าชนิดข้อมูลนั้นคืออะไร เนื่องจาก `swap` ใช้เทมเพลต `typename T` ซึ่งสามารถเป็นชนิดข้อมูลใดก็ได้ที่ส่งเข้าไป
##### 2. คลาสสำหรับการเก็บข้อมูลแบบ Stack
ตัวอย่างนี้แสดงวิธีการสร้างคลาส `Stack` ที่สามารถเก็บข้อมูลต่างๆ ได้อย่าง "เฉพาะเจาะจง" และ "ยืดหยุ่น" โดยใช้ Generic. ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลชนิด `int` หรือชนิด `std::string` ล้วนสามารถใช้งานได้กับ `Stack` นี้เพราะความสามารถของ Generic Templates
##### 3. ฟังก์ชันสำหรับการเรียงลำดับ (Sort)
โค้ดด้านบนนำเสนอฟังก์ชัน `sort` ที่จะเรียงลำดับข้อมูลใน `std::vector` ใดๆ โดยใช้พารามิเตอร์ Generic `T`.ที่สำคัญ เราไม่จำเป็นต้องเขียนฟังก์ชัน `sort` แยกกันสำหรับชนิดข้อมูล `int` และ `std::string` เพราะฟังก์ชันเดียวสามารถใช้ได้กับทั้งสองชนิดข้อมูลได้เนื่องจากการใช้ Generic
#### Usecase ในโลกจริงของ Generic และ Generic Collection
การใช้งาน Generic นั้นมีมากมายในโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์ ยกตัวอย่างเช่น:
- ระบบการจัดการฐานข้อมูล: ระบบดังกล่าวต้องการที่จะจัดการกับข้อมูลหลากหลายชนิด ไม่ว่าจะเป็นตัวเลข, ข้อความ, วันที่ หรือแม้แต่ข้อมูลประเภทไบนารี่ เทมเพลตช่วยให้เราสามารถสร้างคลาสที่ใช้ในการจัดการข้อมูลเหล่านี้โดยไม่ต้องสร้างรูปแบบการจัดการข้อมูลแบบถาวรที่จะถูกผูกไว้กับชนิดข้อมูลหนึ่งๆ - การพัฒนาไลบรารี่: เมื่อเราสร้างไลบรารี่สำหรับการใช้งานอย่างกว้างขวาง เรามักจะต้องการให้มันสามารถรองรับชนิดข้อมูลต่างๆ ที่ผู้ใช้ไลบรารี่อาจมีความต้องการใช้งาน Generic ทำให้ไลบรารี่เหล่านั้นมีความยืดหยุ่นเพิ่มขึ้นและสามารถถูกนำไปใช้ในหลากหลายสถานการณ์ได้ - หลักสูตรการเขียนโปรแกรม: หลักสูตรการเขียนโปรแกรมที่ทันสมัยจะไม่ครบถ้วนหากไม่มีการสอนเกี่ยวกับการใช้งานเทมเพลต การเรียนโปรแกรมมิ่งที่ EPT มุ่งเน้นไปที่การใช้เครื่องมือโปรแกรมมิ่งที่ทรงพลังเหล่านี้เพื่อเตรียมนักเรียนให้พร้อมสำหรับการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่จริงจังและมีประสิทธิภาพ ไม่เพียงแต่จะเรียนเทคนิคในการเขียนโค้ดเท่านั้นแต่ยังรวมถึงการคิดอย่างมีระบบและการวิจารณ์ทางโปรแกรมมิ่งอีกด้วยการสร้างความเข้าใจในการใช้งาน Generic และ Generic Collection จะเปิดประตูสู่โอกาสที่ไม่จบสิ้นในการสร้างโปรแกรมที่มีคุณภาพสูงเ
และยืดหยุ่นที่เหมาะในสภาพแวดล้อมการพัฒนาที่หลากหลายในปัจจุบัน
หากคุณสนใจที่จะก้าวเข้าสู่โลกแห่งการเขียนโค้ดที่ยั่งยืนและพัฒนาตนเองไปอีกขั้น เราที่ EPT ยินดีที่จะเป็นส่วนหนึ่งของการเดินทางนั้นและช่วยนำพาคุณไปสู่การเป็นผู้เชี่ยวชาญด้านโปรแกรมมิ่ง มาร่วมเรียนรู้และพัฒนาทักษะที่เหนือระดับ และสร้างอนาคตที่ขับเคลื่อนด้วยความรู้ทางเทคโนโลยีที่สุดแสนจะทันสมัยไปกับเราที่ EPT ด้วยกันนะครับ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM