หัวข้อ: Clean Architecture: คืออะไร และสำคัญต่อการเขียนโปรแกรมอย่างไร
ในยุคที่โลกของเทคโนโลยีมีการพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้ง คำว่า "Clean Architecture" อาจยังเป็นคำที่ค่อนข้างใหม่สำหรับหลายๆ คน แต่สำหรับนักพัฒนาซอฟต์แวร์และโปรแกรมเมอร์ที่ทำงานในวงการนี้ คำว่า Clean Architecture เป็นหัวใจสำคัญที่ช่วยให้พวกเขาสามารถสร้างผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและสามารถปรับเปลี่ยนได้อย่างง่ายดายในระยะยาว
Clean Architecture เป็นคำที่ถูกนำเสนอโดย Robert C. Martin (Uncle Bob) ซึ่งเป็นแนวทางหนึ่งในการออกแบบโครงสร้างซอฟต์แวร์ที่มุ่งเน้นการสร้างระบบที่เป็นอิสระจากกรอบความคิดเดิมๆ และสามารถอยู่รอดได้ถึงแม้เทคโนโลยีจะเปลี่ยนไป Clean Architecture จึงช่วยให้โค้ดของซอฟต์แวร์มีความยืดหยุ่นและสามารถทดสอบ (Testability) หรือบำรุงรักษา (Maintainability) ได้ง่ายขึ้น
เมื่อพูดถึง "ลักษณะ" ของ Clean Architecture เรากำลังพูดถึงหัวข้อต่อไปนี้:
1. อิสระจาก Framework - ระบบควรทำงานได้โดยที่ไม่ต้องพึ่งพาข้อผูกมัดจากเฟรมเวิร์กซอฟต์แวร์
2. อิสระจาก UI - UI สามารถเปลี่ยนแปลงได้โดยไม่ต้องแก้ไขระบบคร่าวๆ
3. อิสระจากฐานข้อมูล - ฐานข้อมูลสามารถถูกเปลี่ยนแปลงหรือแทนที่โดยไม่กระทบกับระบบอื่นๆ
4. อิสระจาก Agent ของภายนอก - ระบบจะมีพลังงานมากขึ้นหากจัดการกับความเปลี่ยนแปลงจากภายนอกได้
การเขียนโปรแกรมไม่ใช่แค่การสร้างโค้ดให้ทำงานตามที่ต้องการเท่านั้น แต่ยังต้องพิจารณาถึงคุณภาพและการที่โค้ดนั้นสามารถปรับเปลี่ยนหรือรองรับการขยายตัวในอนาคตได้ Clean Architecture จึงเป็นรากฐานที่ช่วยสร้างมาตรฐานสำหรับโปรแกรมเมอร์ในการพัฒนาซอฟต์แวร์
เพื่อให้เข้าใจง่ายขึ้น เรามาดูตัวอย่างการใช้ Clean Architecture ที่สามารถแยกส่วนต่อไปนี้ออกจากกันได้อย่างชัดเจน:
- Entities: วัตถุที่แสดงถึง Business Rules หรือ Business Object
- Use Cases: รวม Business Rules ที่เฉพาะเจาะจงตามการกระทำของธุรกิจ
- Interface Adapters: แปลงข้อมูลระหว่างการแสดงผลภายนอกกับ Use Cases และ Entities
- Frameworks & Drivers: เช่นฐานข้อมูลหรือเฟรมเวิร์กต่างๆ
# ตัวอย่าง Python code ที่แสดงการแยก Entities ออกจาก Frameworks & Drivers
# Entities
class Invoice:
def __init__(self, reference_number, customer, total):
self.reference_number = reference_number
self.customer = customer
self.total = total
# Use Cases
def create_invoice(reference_number, customer, total):
invoice = Invoice(reference_number, customer, total)
# ทำงานกับ invoice ตาม Business Rules
return invoice
# Interface Adapters
def format_invoice_for_display(invoice):
return f"Ref: {invoice.reference_number}, Customer: {invoice.customer}, Total: {invoice.total}"
# Frameworks & Drivers
def save_invoice_to_database(invoice):
db.save(invoice)
print("Invoice saved to database.")
# ใช้งาน Use Case
new_invoice = create_invoice("INV001", "Company X", 5000)
display_invoice = format_invoice_for_display(new_invoice)
print(display_invoice) # รูปแบบการแสดงผลภายนอก
# บันทึกใบแจ้งหนี้เข้าฐานข้อมูล
save_invoice_to_database(new_invoice)
จากตัวอย่างข้างต้น เราสามารถเห็นได้ว่า Clean Architecture ช่วยให้แต่ละส่วนของระบบสามารถทำงานได้อย่างเป็นอิสระ คัดแยกสิ่งที่เป็นสาระจากสิ่งที่ไม่ได้เป็นสาระ เช่น การแสดงผล (UI) หรือการเก็บข้อมูล (Database) ส่งผลให้ระบบมีความยืดหยุ่นเมื่อต้องการเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีหรือความต้องการของธุรกิจ
สำหรับนักพัฒนาที่ต้องการปรับปรุงคุณภาพของโปรแกรม มีคำถามที่สำคัญคือ “โปรแกรมของเราตอบสนองต่อการเปลี่ยนแปลงได้ดีแค่ไหน?” หากคุณสามารถใช้ Clean Architecture ให้เข้ากับโปรเจ็กต์ของคุณได้อย่างเหมาะสม โปรแกรมของคุณจะได้รับประโยชน์จากมูลค่าที่ยั่งยืนและการบำรุงรักษาที่ง่ายขึ้นในระยะยาว
อย่างไรก็ตาม การปรับใช้ Clean Architecture อาจต้องใช้เวลาและทรัพยากรมากขึ้นในระยะแรก แต่เป็นการลงทุนที่คุ้มค่าเมื่อพิจารณาถึงคุณภาพและความสามารถในการรองรับการเปลี่ยนแปลงในอนาคต
สำหรับคุณที่สนใจในการเขียนโปรแกรมและต้องการเรียนรู้ Clean Architecture อย่างลึกซึ้ง เราที่ EPT พร้อมแล้วที่จะเป็นพันธมิตรในการเรียนรู้และเป็นแนวทางให้คุณก้าวไปสู่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ที่มีฝีมือและได้มาตรฐาน เราเชื่อมั่นว่า Clean Architecture ไม่เพียงแต่จะช่วยทำให้โค้ดของคุณสะอาดและเป็นระเบียบ เท่านั้น แต่ยังจะเติมเต็มชีวิตการเขียนโปรแกรมของคุณให้มีคุณภาพและความสุขมากยิ่งขึ้น มาร่วมทำให้โลกของคอมพิวเตอร์ที่ยิ่งใหญ่นี้เป็นของคุณไปด้วยกันกับ EPT วันนี้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM