บทความทางวิชาการ: "การเปรียบเทียบภาษาเขียนโปรแกรม JavaScript และ Dart"
JavaScript และ Dart เป็นสองภาษาการเขียนโปรแกรมที่มีบทบาทสำคัญในวิชาการและอุตสาหกรรมการพัฒนาซอฟต์แวร์ เนื่องจากทั้งสองมีวัตถุประสงค์และสาขาการใช้งานที่แตกต่างกัน ในบทความนี้ เราจะร่วมกันค้นหาความเหมือนและแตกต่างของภาษาทั้งสอง พร้อมทั้งทำความเข้าใจถึงตัวอย่างโค้ดต่างๆ ที่จะช่วยให้เห็นภาพการใช้งานได้อย่างชัดเจน
JavaScript และ Dart มีความเหมือนในทางของการเป็นภาษาที่ถูกออกแบบมาในสไตล์ Object-Oriented Programming (OOP) คือสามารถสร้าง object และโครงสร้างข้อมูลที่กำหนดจาก class ได้ นอกจากนี้ ทั้งสองภาษามี asynchronous programming เพื่อจัดการกับ operations ที่ไม่ต้องการให้ blocking process หรือต้องการให้ทำงานพร้อมๆกัน
วัตถุประสงค์
JavaScript เป็นภาษาที่พัฒนาขึ้นเพื่อใช้งานบน Web เป็นหลัก มันถูกใช้ในการเขียนลอจิกสำหรับปฏิสัมพันธ์ต่างๆ บนเว็บเพจ แต่ในปัจจุบันด้วยเฟรมเวิร์กต่างๆ เช่น Node.js, React, Angular ฯลฯ ทำให้ JavaScript สามารถใช้สร้างแอปพลิเคชั่นด้าน Server-side ได้ด้วย
Dart ถูกสร้างขึ้นโดย Google มีจุดมุ่งหมายเพื่อประสิทธิภาพการทำงานสำหรับการสร้างแอปพลิเคชั่นบนมือถือและเว็บอย่างเร็ว ไร้รอยต่อ ผ่านแพลตฟอร์ม Flutter ที่มันสามารถคอมไพล์ไคร์ดโค๊ดเป็น Native เพื่อให้ทำงานบนระบบปฏิบัติการต่างๆได้
Syntax และ Structure
JavaScript เป็นภาษาที่มี dynamic type คือข้อมูลที่ถูกกำหนด type ณ เวลาที่รันโปรแกรม แต่เนื่องจากความเป็น dynamic นี้ บางครั้งก็อาจนำไปสู่ข้อผิดพลาดได้ง่าย เนื่องจากมีการเปลี่ยนแปลง type ของข้อมูลโดยที่ไม่ได้ตั้งใจ
Dart เป็นภาษาที่มี strong type คือทุกตัวแปรและ expression ต้องมี type ที่ชัดเจนและถูกต้อง มีการเช็ก type ณ เวลาที่เขียนโค้ด (Static type checking) ทำให้ลดโอกาสของ bug ที่เกิดจากการ assign ข้อมูลผิด type
Performance
JavaScript จะถูกตีความ (interpret) หรือคอมไพล์เป็น bytecode ณ เวลาที่โปรแกรมถูกรันบน browser ทำให้บางครั้ง performance อาจจะไม่เท่ากับภาษาที่ถูกคอมไพล์ล่วงหน้า
Dart สามารถถูกคอมไพล์เป็น bytecode หรือตรงไปยัง machine code ซึ่งทำให้แอปพลิเคชั่นที่เขียนด้วย Dart มี performance ที่ดีเพราะถูก optimize และคอมไพล์ล่วงหน้าี่ถูกต้อง
JavaScript
// การสร้าง object และการทำงานของ Asynchronous ใน JavaScript ด้วย Promise
let promise = new Promise(function(resolve, reject) {
setTimeout(() => resolve("completed"), 1000);
});
promise.then(
result => alert(result), // แสดง "completed" หลังจาก 1 วินาที
error => alert(error) // ไม่ถูกเรียกใช้ในกรณีนี้
);
Dart
// การสร้าง object และการทำงานของ Asynchronous ใน Dart ด้วย Future
Future fetchUserOrder() {
return Future.delayed(Duration(seconds: 2), () => 'Cappuccino');
}
void main() {
fetchUserOrder().then((order) {
print('Order is: $order');
}).catchError((error) {
print('Caught error: $error');
});
print('Fetching user order...');
}
JavaScript และ Dart ทั้งคู่มีจุดแข็งและข้อจำกัดที่แตกต่างกัน การเลือกใช้ภาษาการเขียนโปรแกรมจึงควรเลือกตามความเหมาะสมกับโปรเจ็คและความต้องการของผู้พัฒนา ในฐานะนักพัฒนาที่กำลังมองหาทักษะใหม่ๆ เพื่อเสริมสร้างโอกาสทางการงานในอนาคต ความรู้ในการเขียนโปรแกรมด้วยภาษาต่างๆ คือสิ่งที่ไม่ควรถูกมองข้าม ณ ที่แห่งนี้ EPT พร้อมเป็นที่ปรึกษาและแหล่งเรียนรู้ที่ดีสำหรับคุณในการเดินทางเส้นทางนักพัฒนาที่เต็มไปด้วยความท้าทายและการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM