ในโลกแห่งการเขียนโปรแกรม การเรียงลำดับข้อมูลถือเป็นหนึ่งในภารกิจหลักที่โปรแกรมเมอร์ทุกคนจำเป็นต้องเข้าใจและสามารถทำได้ หนึ่งในเทคนิคพื้นฐานและเก่าแก่ที่สุดคือ "Bubble Sort" ซึ่งถึงแม้ว่าจะไม่ได้รับความนิยมในการใช้งานระดับอุตสาหกรรมในปัจจุบัน เนื่องจากประสิทธิภาพที่ไม่สูงนัก แต่ก็ยังเป็นอัลกอริธึมที่ดีในการเรียนรู้หลักการและความคิดรอบการเรียงลำดับข้อมูล
Bubble Sort คือ อัลกอริธึมสำหรับเรียงลำดับข้อมูลซึ่งทำงานโดยการเปรียบเทียบและสลับข้อมูลที่อยู่ติดกันภายในอาร์เรย์หรือรายการข้อมูล เมื่อเราทำการเปรียบเทียบและสลับภายในอาร์เรย์ไปเรื่อยๆ ข้อมูลที่มีค่ามากที่สุดจะค่อยๆ "ลอย" ขึ้นไปอยู่ที่ปลายอาร์เรย์ (จึงได้ชื่อว่า Bubble) กระบวนการนี้จะทำซ้ำไปเรื่อยๆ จนกระทั่งข้อมูลทั้งหมดอยู่ในลำดับที่ถูกต้อง
ในภาษาโปรแกรมมิ่ง Go, เราสามารถนำแนวคิดของ Bubble Sort มาเขียนเป็นรหัสได้ดังนี้:
package main
import "fmt"
func bubbleSort(slice []int) {
n := len(slice)
for i := 0; i < n-1; i++ {
for j := 0; j < n-i-1; j++ {
if slice[j] > slice[j+1] {
slice[j], slice[j+1] = slice[j+1], slice[j]
}
}
}
}
func main() {
data := []int{64, 34, 25, 12, 22, 11, 90}
fmt.Println("Original data:", data)
bubbleSort(data)
fmt.Println("Sorted data:", data)
}
ในตัวอย่างข้างต้น เราสามารถเห็นได้ว่า Bubble Sort ใช้ซ้ำการวนลูป 2 ชั้นเพื่อทำการเปรียบเทียบและสลับข้อมูล รหัสนี้เป็นวิธีการเรียงลำดับที่ชัดเจนและเข้าใจง่ายสำหรับนักเรียนที่เริ่มฝึกเขียนโปรแกรม
ถึงแม้ในปัจจุบัน Bubble Sort จะไม่ค่อยถูกนำไปใช้ในแอปพลิเคชั่นระดับอุตสาหกรรมเนื่องจากมีอัลกอริธึมเรียงลำดับที่มีประสิทธิภาพดีกว่าให้เลือกใช้ แต่ Bubble Sort ยังคงถูกใช้ในการศึกษาหลักการของการเรียงลำดับและการทำความเข้าใจว่าอัลกอริธึมทำงานอย่างไร เช่น ในการสอนโปรแกรมมิ่งให้กับนักเรียนหน้าใหม่ หรือการใช้เป็นวิธีการเรียงลำดับข้อมูลจำนวนน้อยที่ไม่ต้องการประสิทธิภาพขั้นสูง
อัลกอริธึม Bubble Sort มีความซับซ้อนด้านเวลา (time complexity) อยู่ที่ O(n^2), นั่นหมายความว่า เวลาที่ใช้ในการทำงานของอัลกอริธึมจะเพิ่มขึ้นตามกำลังสองของจำนวนข้อมูล สำหรับความซับซ้อนด้านพื้นที่ (space complexity) จะอยู่ที่ O(1) เนื่องจากไม่ต้องการพื้นที่เพิ่มเติมนอกจากพื้นที่ที่ใช้เก็บข้อมูล
ข้อดี:
- ความเรียบง่ายและความชัดเจนของการทำงาน
- ไม่กระทบกับพื้นที่หน่วยความจำเพิ่มเติม
- เมื่อการเรียงลำดับเสร็จสิ้น ข้อมูลที่ minimize หรือ maximize จะถูกย้ายไปที่ตำแหน่งที่ถูกต้องทันที (minimized or maximized element gets to its position in first iteration)
ข้อเสีย:
- ประสิทธิภาพต่ำเมื่อเทียบกับอัลกอริธึมเรียงลำดับอื่นๆ เช่น Quick Sort หรือ Merge Sort
- ถ้าอาร์เรย์มีขนาดใหญ่ การเรียงลำดับอาจใช้เวลานานมาก
- ความซับซ้อนทางเวลาที่เป็น O(n^2) ทำให้ไม่เหมาะสำหรับแอปพลิเคชั่นที่ความเร็วสำคัญ
สรุปแล้ว Bubble Sort คือ อัลกอริธึมการเรียงลำดับข้อมูลที่เป็นพื้นฐานและมีคุณค่าในการเรียนรู้และเข้าใจการทำงานของอัลกอริธึม åับการเข้าร่วมกิจรรมการเรียนการสอนเพิ่มเติมที่ EPT (Expert-Programming-Tutor) ที่นี่เราพร้อมที่จะแนะนำและเสริมสร้างทักษะการเขียนโปรแกรมของคุณ ตั้งแต่พื้นฐานจนถึงขั้นสูง ทำให้คุณสามารถยกระดับความเข้าใจและประสิทธิภาพการเขียนโค้ดของคุณไปอีกระดับได้อย่างมีประสิทธิผล!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
Tag ที่น่าสนใจ: bubble_sort การเรียงลำดับข้อมูล ภาษาโปรแกรมมิ่ง_go อัลกอริธึม เรียงลำดับข้อมูล ภาษา_go bubble_sort_ใน_go complexity ข้อดี ข้อเสีย
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM