เตือน บทความนี้ยาวมากไม่เหมาะกับคนที่ไม่ชอบอ่านอะไรยาวๆ
STEM - ย่อจาก Science Technology Engineering and Mathematics เป็นสาขา 4 อย่างที่ รัฐบาลหลายๆประเทศทั่วโลกนำโดยสหรัฐอเมริกาเป็นผู้ริเรอ่มและส่งเสริม การเรียนรู้ 4 สาขานี้ สำหรับ
Coding- การเรียน Code ให้โดยทั่วๆไปหมายถึงการเรียน Code ให้ Computer ทำงาน
Computer Science - สาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ เป็นสาขาหลักของประเทศสหรัฐอเมริกาสำหรับคนที่จะเรียนจบด้านการทำงาน (สำหรับ สำหรับในประเทศไทย คนจะนิยมเรียน Computer Engineering วิศวกรรมคอมพิวเตอร์ ICT - Information and Comunication Technology )
Computational Thinking- การคิดเชิงคำนวน เป็นการคิดแบบหนึ่งอาศัยหลายองค์ประกอบเช่นการวางแผนการวิเคราะห์การสังเคราะห์การสร้างสิ่งที่ไม่มีให้มีขึ้น
Algorithm -ขั้นตอนวิธี หมายถึงขั้นตอนตามลำดับที่ชัดเจนเพื่อที่จะทำบางสิ่งบางอย่างให้สำเร็จเช่นขั้นตอนของการเรียนโปรแกรมคำนวน ขั้นตอนของการล้างรถ เป็นต้น
ในการเรียนเขียนโปรแกรมสำหรับเด็กมันเปิดโลกการเรียนรู้หลายๆอย่างให้กับเด็กๆที่จะทำให้พวกเขาสามารถเอาความรู้ไปประยุกต์ได้อย่างหลากหลาย แต่มันก็เป็นเรื่องยากที่จะจินตนาการถึง เด็กๆมานั่งเรียนเขียนโปรแกรมหรือทำสิ่งที่ซับซ้อนสำหรับผู้ใหญ่บางคน
ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา คุณอาจจะถามตัวเองอย่างน้อย 1 ครั้งว่า “มันเป็นโฆษณา ชวนเชื่อทั้งหมดรึเปล่าที่ให้เด็กๆไปเรียนเขียนโค้ด?”
ผมได้ยินคุณ!
แต่อย่างแรกเลย ขอให้ผมได้พูดว่ามันไม่ใช่โฆษณาชวนเชื่อ
หลายปีมาแล้วที่เด็กเหล่านี้เริ่มพูดคุยเรื่องโค้ด แล้วคุณก็คิดไปว่ามันคือลักษณะ ของโฆษณาชวนเชื่อ เพราะว่าไอเดียทั้งหมดมันใหม่และดูอิงนิยายสำหรับระบบ การศึกษาในปัจจุบันโดยเฉพาะในประเทศไทย ซึ่งในขณะที่ “การเรียนรู้ที่จะเขียนโค้ด” นี้ได้รับความนิยมเพิ่มขึ้นไม่ได้เป็นข่าวโคมลอยโดยวิธีการใดๆเลย นี่ไม่ใช่ แค่ โฆษณา Viral ใน Internet เวลาเป็นสิ่งเดียวเท่านั้นที่จะบอกเราได้ ถ้าสิ่งนี้มันเป็นอย่างงั้นจริง มันก็คงเป็นกระแสที่ใหญ่มากๆ มากเสียจน Bill Gate และ คนดังๆต่างก็พูดถึงมัน
เวลาได้ผ่านล่วงเลยมา แต่เราก็ยังคงเห็นสถิติการศึกษา STEM (Science Technology Engineering and Mathematics ) อย่างเช่นในปี 2018 งานด้าน STEM 2.4 ล้านตำแหน่ง ไม่ได้บรรจุจนเต็ม (สถิติ USA แต่สำหรับประเทศไทยผมเชื่อว่าข้อมูลยิ่งแย่กว่านี้ลงไปอีก ) และนอกจากนี้งาน 71% ของงานใหม่ใน STEM อยู่ในเรื่องของ Computational แต่มีแค่ 8% เท่านั้นที่จบการศึกษา STEM อยู่ในสาขาวิทยาการคอมพิวเตอร์ แปลว่ามีงานอีกจำนวนมหาสารที่ว่างอยู่และเงินเดือนก็จะกระฉูดมากๆ
เราเคลื่อนที่ไปมากกว่าการพูดเฉยๆ “การเขียนโค้ดมันเจ๋งมาก ดังนั้นทำมันซะ” จบ ตอนนี้เราจะพูดว่า “การเขียนโค้ดมันเท่มากๆในความเป็นจริง ดังนั้น ทำ มันซะ แต่คุณควรจะไปทำมันเพราะว่าคุณจะได้รับรางวัลเป็นผลลัพธ์” แทน
ในอีกทางหนึ่ง คือ มันมีงานให้ทำมากมาย — และงานเหล่านั้นจ่ายรายได้ดี
สิ่งที่ทำให้มันดีกว่านี้ไม่ใช่เพราะว่างานหรือความเท่ (นี่จะเป็นบล็อคโพสต์ที่สั้น มากๆ ถ้ามันเป็นในกรณีนั้น) แต่ยังรวมไปถึงความคิดสร้างสรรค์ , การแก้ปัญหา , การทำงานร่วมกัน , การติดต่อสื่อสารและสกิลดิบและเถื่อนอื่นๆสำหรับการปรับปรุงเป็นผล พลอยได้ของเด็กๆในการเรียนรู้การเขียนโค้ด
โอเค งั้นไปกันต่อเลย!
ในระดับที่เบสิคที่สุด การเขียนโค้ดก็คือการที่เราติดต่อสื่อสารกับคอมพิวเตอร์และ เป็นสิ่งที่เราใช้ในการสร้างและรัน websites, apps, video games และอื่นๆ การ เรียนรู้โค้ดก็เหมือนการเรียนรู้วิธีการพูดและเขียนในภาษาเฉพาะ ; ภาษาของ คอมพิวเตอร์
มันมีคำย่อและความลึกลับมากมายในแง่ของโลกของการเขียนโค้ด : HTML, CSS, Java, Ruby และอื่นๆ มันเป็นอะไรที่ท่วมท้นมากแต่เราจะเข้าใจมันเมื่อเรา ไปถึงที่นั่น การเลือกภาษาโปรแกรมที่ดีที่สุดให้กับลูกของคุณเป็นขั้นตอนต่อไปที่ ยิ่งใหญ่มาก แต่ถ้าคุณไม่รู้จะเรียนอะไรเราแนะนำให้คุณเรียน Python ที่ Expert-Programming-Tutor.com แต่ตอนนี้มาดูก่อนว่าทำไมเด็กๆควรจะเรียนเขียนโค้ด
อย่างที่กล่าวไปแล้ว อ้างอิง จาก Code.org มี 71% ของงาน STEM แบบใหม่อยู่ ในการคำนวณ (Computational = ซึ่งก็คือ การเขียน Code นั้นแหละ แต่ยังรวมไปถึงการวิเคราะห์ข้อมูลและอื่นๆอีก แต่เอาง่ายๆตอนนี้คำว่า Computational Thinking ก็คือ การคิดเชิงการคำนวนซึ่งใช้เยอะมากในการเรียน Coding ) มีแค่ 8% ของนักเรียนที่จบ STEM มาในสาขาวิทยาการ คอมพิวเตอร์ นี่เป็นปัญหาความขาดแคลนที่ยิ่งใหญ่ของสาขาวิชา CS
การเขียนโค้ดจะช่วยเพิ่มความแตกต่างให้กับลูกของคุณในเรื่องของการรักษาอาชีพที่ร่ำรวยของ STEM โดยเฉพาะอย่างยิ่งในโลกที่การทำงานเกี่ยวกับการคำนวณเติบโตขึ้นมากกว่าสองเท่าของค่าเฉลี่ยของประเทศ
การเขียนโค้ดกลายมาเป็นทักษะที่สำคัญอย่างรวดเร็วและ Code.org ยังชี้ประเด็น ไปถึงในเรื่องของสาขา CS สามารถมีรายได้เพิ่มขึ้น 40% จากค่าเฉลี่ยของ มหาวิทยาลัย
ถ้าคุณมีสกิลเจ๋งๆที่หลายๆคนขาด – เช่น ความสามารถในการเขียนโค้ด – คุณ จะมีความน่าสนใจขึ้นทันทีในสายตาของเจ้าหน้าที่รับสมัครของมหาวิทยาลัยที่ดี และรวมไปถึงเจ้านายด้วย ธรรมดาและเรียบง่าย
พวกเราส่วนใหญ่ไม่รู้หลายเรื่องเลย อย่างแรกเลย คือ เกี่ยวกับ สิ่งที่เราจะใช้สร้าง smartphones, laptops, และเราจะสร้างเครือข่าย social media ของเราเอง (มาแทนFacebook ?) และการรัน video games ที่เราเขียนเองได้ ความรู้พื้นฐานเกี่ยวกับการเขียนโปรแกรมสามารถปลี่ยนวิธีทาง ที่เราโต้ตอบกับเทคโนโลยีที่เราใช้ (และเรายอมรับมัน) ในชีวิตประจำวันนี้ และ สามารถเปิดตาของพวกเราในความสามารถที่ไร้ขีดจำกัดของการเขียนโค้ดได้
ในขณะที่การเขียนโปรแกรมมีพื้นฐานอยู่บนตรรกะ มันยังเป็นกิจกรรมที่สร้างสรรค์ มากๆอีกด้วย ถ้าคุณรู้ถึงวิธีการเขียนโค้ด คุณจะสามารถพัฒนาอย่างสิ่งที่กล่าวมา แล้วด้านบนได้ อย่าง apps, video games, websites และอื่นๆอีกมากมาย!
สำหรับนักพัฒนาหลายๆคน ส่วนหนึ่งของการร้องขอของการเขียนโค้ด คือ ความ ท้าทายและรางวัลของการเห็นโค้ดของพวกเขามีชีวิตหลังจาก debugging session ที่ดี อย่าไปหลงกล อย่างไรก็ตามด้วยคำแนะนำที่ถูกต้อง การเริ่มต้นด้วยการเขียน โปรแกรมสามารถเป็นอะไรที่ง่ายและสนุกได้
เมื่อคุณเรียนรู้ภาษา คุณสามารถใช้มันเพื่อที่จะแสดงตัวตนของคุณออกมาได้ เป็นจริงเหมือนกันกับโค้ด การเขียนโค้ดไม่เพียงแต่เป็นการทำให้เด็กๆบริโภคดิจิทัลมีเดีย และเทคโนโลยีเพียงอย่างเดียว แต่สามารถสร้างมันได้ด้วย แทนที่จะเล่นวิดีโอเกมส์หรือใช้ แอพ พวกเขาสามารถจินตนาการการสร้างวิดีโอของตัวเขาเอง หรือวาดภาพเว็บ ไซต์ของพวกเขาว่าจะเป็นอะไร หรือว่าหน้าตาของแอพจะเป็นอย่างไรได้ — และ พวกเขาจะมีทางออกสำหรับการแสดงออกด้วย
เมื่อเด็กๆเขียนโค้ด พวกเขาจะได้รับปัญหาที่ซับซ้อนและแยกพวกมันให้ย่อยลง เป็นส่วนเล็กๆได้
เด็กๆ จะได้เรียนรู้ว่าปัญหานี้เป็นอย่างไรเพื่อหาทางแก้ไขปัญหาของวิศวกร ซอฟต์แวร์โดยใช้ตรรกะในการคำนวณ
อย่างที่ Dan Crow, CTO ของ SongKick อธิบายไว้ว่า “การคิดเชิงการคำนวณ สอนคุณเกี่ยวกับวิธีการต่อสู้กับปัญหาใหญ่ๆโดยการย่อยพวกมันเป็นชิ้นเล็กๆ , ให้เป็นปัญหาที่จัดการได้มากขึ้นตามลำดับ”
ความคิดเชิงตรรกะนี้เป็นเครื่องมือที่ทรงพลังมากในโรงเรียน , การทำงานและชีวิต
ในการเรียนรู้การเขียนโค้ด เป็นเหมือนกับการเรียนมารยาทใหม่ๆ มันเป็นความท้าทาย ดังนั้น การสู้กับปัญหาที่มีความซับซ้อน — และการทำสิ่งผิดพลาดได้ตลอดทาง — สามารถเป็นอะไรที่ทำให้หงุดหงิดใจมากได้
การเรียนเขียนโปรแกรมเพื่อที่จะทำงานบางอย่างให้สำเร็จ โดยทั่วๆไปแล้วเราเขียนโปรแกรม เพื่อสร้างสิ่งใหม่ๆ ขึ้นมาสิ่งใหม่ๆ นี้ยังไม่มีอยู่ในโลกดังนั้นมันจึงเป็นเรื่องเกือบจะแน่นอนอยู่แล้วว่าเราจะทำมันด้วยความยากลำบาก การที่ให้ลูกๆของพวกคุณลำบากสะบ้าง และการเรียน Code ก็เหมาะสุดๆ เพราะว่าจะทำให้ลูกของคุณ ต้องใช้ความพยายามอย่างมากในการแก้ปัญหาต่างๆ
แต่ไม่ต้องกังวลใจเพราะ Expert-Programming-Tutor จะทำให้ลูกของคุณได้เรียนรู้ทีละ Step อย่างค่อยเป็นค่อยไป
การเขียนโค้ดสอนทักษะที่มีค่าของความเพียรพยายามในการเผชิญหน้ากับความท้าทาย เรียนรู้วิธีการแก้ปัญหาและมองหาวิธีการแก้ปัญหาผ่านงานวิจัยและการ ทำงานร่วมกัน สร้างให้สิ่งนี้เป็นทักษะที่พึงปรารถนามาก
ใครๆก็สามารถเรียนรู้การเขียนโค้ดได้ — เด็กสามารถเรียนรู้ควบคู่กับคนอื่น ๆ ในทุกเชื้อชาติ , เพศหรือพื้นหลังที่แตกต่างกันได้ เด็กๆพบและเรียนรู้วิธีการที่จะ ทำงานร่วมกันกับทุกๆชนิดของเพื่อนร่วมงาน ทุกคนทำงานร่วมกันโดยความสนใจ ในเทคโนโลยีธรรมดาๆ ห้องเรียนและสภาพแวดล้อมในอันอื่นๆ สำหรับการทำงานร่วมกันแบบเจอหน้ากัน เด็กที่เรียนรู้ ผ่านทางออนไลน์สามารถเติบโตขึ้น , ถามคำถามแต่ละคนและทำงานเพื่อแก้ ปัญหาและสร้างสิ่งของต่างๆร่วมกันได้เช่นกัน
หลายๆเกมส์ อย่าง Minecraft , ยังเสนอผลประโยชน์ทางการศึกษาอีกมากมาย เพราะว่าพวกเขารวมการเขียนโค้ด , การทำงานร่วมกันและการเข้าร่วม—กับผู้ ร่วมงานทั่วโลกเหมือนกัน
การติดต่อสื่อสารเป็นสกิลที่สำคัญมากๆผ่านทางโรงเรียน , การทำงานและชีวิต ผู้คนที่สามารถติดต่อสื่อสารไอเดียที่ซับซ้อนได้อย่างชัดเจนในแง่ที่ง่ายๆมีแนวโน้มที่จะประสบความสำเร็จในอุตสาหกรรมที่แตกต่างกันและย่างก้าวของชีวิตด้วย
เมื่อเด็กๆเรียนรู้วิธีการเขียนโค้ด พวกเขาเรียนรู้วิธีการที่จะติดต่อสื่อสารกับผู้ชมที่มี(อาจจะเป็นคนที่เอา APP ที่เด็กๆ เขียนไปใช้) ความคิดเรียบง่ายที่สุดให้สามารถจินตนาการได้ : คอมพิวเตอร์ อย่างที่กล่าวมา แล้ว การเขียนโค้ดสอนให้เด็กๆได้รู้ถึงวิธีการแยกไอเดียที่ซับซ้อนและจัดการ พวกมันในทางที่คอมพิวเตอร์สามารถเข้าใจได้
แต่ด้วยสิ่งเหล่านี้ทั้งหมด ดำเนินการด้วยความระมัดระวัง…
โอเค ผมจะยังไม่เปลี่ยนเรื่องไปในตอนนี้และพูดว่าคุณไม่ควรเรียนรู้วิธีการเขียน โค้ด อย่างชัดเจนเลย แต่มากขึ้นของ…
มันเป็นธรรมดาของคำถามง่ายๆแบบนี้และตามที่คำถามที่เกี่ยวข้องได้ถูกปลูกขึ้น ขณะที่คุณแยกมัน การเขียนโค้ดเหมาะสำหรับเด็กหรือไม่ :
ถ้าลูกของฉันไม่ต้องการที่จะเรียนรู้โค้ดแบบจริงจัง? นั่นมันจะทำให้พวกเขาเป็นขี้แพ้ หรือเปล่า? พวกเขาจะไม่ได้รับโอกาสในการรักษาการฝึกงานที่เจ๋งๆตามทางของ พวกเขาหรือเปล่า? งานจะคุ้มค่ารึเปล่า? ถ้าพวกเขาต้องการที่จะเรียนรู้เพียงแค่ “เทคโนโลยี” แทนล่ะ? มันเป็นตัวเลือกที่สามารถทำงานได้ดีรึเปล่า? ถ้าพวกเขา ต้องการที่จะเรียนรู้ X? หรือ Y? หรือ Z ล่ะ? สิ่งเหล่านี้จะคุ้มค่ารึเปล่าในอนาคต? ในทำนองเดียวกัน ถ้าพวกเขาเรียนรู้ที่จะเขียนโค้ดเพียงอย่างเดียวและไม่เรียน อย่างอื่นเลย สิ่งนี้จะทำให้เค้าเป็นที่ 1 ได้หรือเปล่า?
ขอให้ผมได้สรุปโดยการพูดว่าผมเองหรือใครก็ตามที่แนะนำให้คุณ “เรียนรู้วิธีการ เขียนโค้ด” อาจไม่ได้ทำอย่างนั้นโดยเจตนาของคำแถลงว่าจะพิเศษสุด
ผมหมายความว่า คุณจะไม่ได้รับการส่งเสริมให้อ่าน แต่ไม่กับการเขียน หรือเพื่อ เรียนรู้ตารางการคูณของคุณ ขณะที่โยนการหารทิ้งออกไปนอกหน้าต่างได้เลย
Facebook ถูกสร้างขึ้นโดยนักเขียนโปรแกรมหรือโปรแกรมเมอร์ แต่มันจะเกิดขึ้นได้อย่างไรโดยไม่มีการออกแบบเลย?
ดังนั้น ด้วยสิ่งนี้ทั้งหมด ถ้าคุณมีลูกที่มีความสนใจในการเขียนโค้ด คือ ใช่ ช่วยเหลือพวกเขาให้ได้เรียนรู้เกี่ยวกับการเขียนโค้ด ถ้าพวกเขาไม่มีความสนใจ แม้ว่ายังคงคิดพิจารณาเรื่องนี้ มันเป็นเรื่องที่สำคัญและคุณจะดีใจกับตัวคุณเองที่ อย่างน้อยลองให้โอกาสแก่มัน
แต่ในการดำเนินการ อย่าลืมสิ่งอื่นๆ ช่วยให้พวกเขาได้เรียนรู้ “เทคโนโลยี” และ สืบค้นความเป็นไปได้ของการพัฒนาเกมส์ , การพิมพ์ภาพ 3D ,หรือวิดีโอ โปรดักส์ชั่น ถ้าสิ่งนี้มันเหมาะกับพวกเขามากกว่า จมดิ่งลงไปกับการถ่ายภาพ ถ้านั่นเป็นสิ่งที่พวกเขาต้องการทำจริงๆ เป็นงานอดิเรกหรือแม้แต่อาชีพในอนาคต ก็ตาม
ให้พวกเขาได้รับทักษะในการตลาด , การเจรจาต่อรอง , การเลื่อนขั้นและอื่นๆ…
หรือเรียนรู้การที่จะกลายมาเป็นผู้นำ มันมีลิสต์ของโอกาสในการเรียนรู้และลิสต์ นั้นก็ดำเนินต่อไปเรื่อยๆ การเขียนโค้ดพาคุณไปได้ไกล แต่คุณจะต้องมีสกิลอื่นๆอีกที่ประกอบกันด้วย เพื่อให้การสร้างสรรค์ของคุณเจริญเติบโตขึ้น
1 ในสิ่งที่น่ามหัศจรรย์ใจที่สุดที่คุณเคยได้ยิน คือ Steve Jobs ไม่ได้เขียนโค้ดให้ Apple เลย
คุณเชื่อมันรึเปล่า? ถ้าผมถามคุณว่า Steve Jobs ประสบความสำเร็จหรือไม่ คุณจะหันมาและถามผมว่าถ้าท้องฟ้าเป็นสีฟ้าหรือหญ้าเป็นสีเขียว
Jobs เป็น 1 ในคนที่ประสบความสำเร็จที่สุดที่กระจายไปทั่วโลก… ไม่ใช่เพราะว่า เขาเป็นนักเขียนโค้ดที่เก่งที่สุด แต่เพราะว่าเขารู้ดีพอที่จะสื่อสารวิสัยทัศน์และมี ความชำนาญอย่างกว้างขวางในทักษะอื่นๆด้วย
แต่ไม่ใช่ว่า Steve Jobs จะเขียน Code ไม่เป็น ถ้าเราศึกษาประวัติของ Jobs ดีพอเราจะพบกับตอนที่เขาเถียงอย่างเผ็ดร้อนเรื่อง Algorithm เรื่อง ความก้าวหน้าของ OOP ใน ภาษา Objective C ที่ทีเหนือภาษา C++ และ JAVA เรายังจะได้เห็น Jobs ไปขลุกอยู่กับ เหล่า วิศวกรของเขาเพื่อถกปัญหาเชิงเทคนิคมากมาย นี่ไม่ได้บงบอกอีกหรือว่า Steve Jobs มีความลึกซึ้งในด้าน วิศวกรรมขนาดไหน
ในอนาคตงานด้าน Computer Science เป็นงานที่จะทวีความสำคัญขึ้นเรื่อยๆดังนั้นเพื่อที่ลูกของคุณจะสามารถหาประโยชน์ได้อย่างเต็มที่ในยุคข้างหน้า เรียนเขียนโปรแกรมสะวันนี้
นักเรียนของ EPT และ โรงเรียนอื่นๆ กระตือรือร้นที่จะเรียนรู้ — ไม่ใช่ เพียงแค่เพราะว่าพวกเขาสนใจในเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ยังเพราะว่าพวกเขาหลาย คนยังไม่ได้รับคำแนะนำที่มีค่าในวิชาอย่างการเขียนโค้ดในโรงเรียนที่พวกเขาไปเรียนอยู่ทุกๆวัน พวกเขาจาก EPT ไปด้วยทักษะใหม่ๆ , ความรู้ที่ลึกขึ้นและความ มั่นใจที่จะก้าวออกไปและทำบางสิ่งบางอย่างที่มีประสิทธิภาพด้วยสิ่งที่พวกเขาได้ เรียนรู้ไป พวกเราเห็นสิ่งนี้เกิดขึ้นเดือนแล้วเดือนเล่า
ขอให้คุณโชคดีอย่างที่สุด!!!!
Tag ที่น่าสนใจ: programming_for_kids coding_education stem_education computer_science_basics computational_thinking algorithm_basics benefits_of_learning_to_code importance_of_coding_skills career_opportunities_in_coding coding_for_students future_job_market programming_languages html css python
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com