# 5 ขั้นตอนในการตั้งค่า Linux เพื่อให้พร้อมทำงานกับ Python Flask
การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วย Python และ Flask ในระบบปฏิบัติการ Linux เป็นหนึ่งในทางเลือกยอดนิยมในหมู่นักพัฒนาเนื่องจากสภาพแวดล้อมที่ยืดหยุ่นและพลังงานของภาษา Python ที่เข้ากันได้ดีกับระบบงานระดับเซิร์ฟเวอร์ ในบทความนี้เราจะทำความเข้าใจถึงขั้นตอนการตั้งค่าระบบ Linux เพื่อให้พร้อมสำหรับการทำงานกับ Python และพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันด้วย Flask อย่างมีประสิทธิภาพ
ก่อนอื่นเลย เราต้องติดตั้ง Python บน Linux เราสามารถติดตั้ง Python ได้โดยใช้ package manager ของระบบปฏิบัติการ เช่น apt-get สำหรับ Ubuntu:
sudo apt-get update
sudo apt-get install python3
sudo apt-get install python3-pip
สั่ง `python3 --version` และ `pip3 --version` เพื่อตรวจสอบเวอร์ชันหลังจากติดตั้งเพื่อยืนยันว่าเรามี Python และ pip ที่พร้อมใช้งานบนระบบของเรา
เพื่อให้การพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันของเราแยกตัวจากระบบปฏิบัติการหลัก เราควรใช้ virtual environment เพื่อสร้างสภาพแวดล้อมที่ขาดเอกลักษณ์ของโปรเจคของเรา:
sudo pip3 install virtualenv
สร้าง directory สำหรับโปรเจคและสร้าง virtual environment ของเรา:
mkdir myproject
cd myproject
virtualenv venv
เพื่อเริ่มใช้งาน virtual environment เราใช้คำสั่ง:
source venv/bin/activate
เมื่อเราเสร็จสิ้นการทำงาน เราสามารถออกจาก virtual environment ด้วยคำสั่ง `deactivate`
ในสภาพแวดล้อมที่เราเพิ่งสร้างขึ้นนั้น เราต้องการห้องสมุด Flask เพื่อที่เราจะสามารถพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันได้:
pip3 install Flask
ด้วย Flask, การสร้างเว็บแอปพลิเคชันอย่างง่ายสามารถทำได้ด้วยไม่กี่บรรทัดของโค้ด เริ่มต้นด้วยการสร้างไฟล์ `app.py`:
# app.py
from flask import Flask
app = Flask(__name__)
@app.route('/')
def index():
return 'Hello, World!'
if __name__ == '__main__':
app.run(debug=True)
เราสามารถเริ่มรันเว็บแอปพลิเคชันด้วยคำสั่ง `python3 app.py` และไปที่ `http://localhost:5000` เพื่อดูหน้าเว็บที่เราเพิ่งสร้างขึ้น
การทดสอบเป็นส่วนสำคัญในการพัฒนาซอฟต์แวร์ สำหรับ Flask, เราสามารถใช้เครื่องมือทดสอบที่มาพร้อมกับ Flask ตัวอย่างด้านล่างเป็นการเขียน test case ง่ายๆ:
# test.py
import unittest
from app import app
class BasicTestCase(unittest.TestCase):
def test_index(self):
tester = app.test_client(self)
response = tester.get('/')
self.assertEqual(response.status_code, 200)
if __name__ == '__main__':
unittest.main()
เริ่มทดสอบโดยใช้คำสั่ง `python3 -m unittest test`
การตั้งค่า Linux ให้พร้อมสำหรับการพัฒนาด้วย Python และ Flask ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ขั้นตอนเหล่านี้จะเป็นพื้นฐานที่มั่นคงสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันที่ตอบสนองความต้องการของผู้ใช้ และแน่นอนว่า หากคุณมีความสนใจในการเรียนรู้การเขียนโปรแกรมเพิ่มเติม การศึกษาด้านนี้ที่ Expert-Programming-Tutor เป็นทางเลือกที่ดีที่จะเพิ่มทักษะการพัฒนาแอปพลิเคชันของคุณให้มีประสิทธิภาพมากขึ้นและเปิดโลกของโอกาสในการทำงานที่กว้างขวางยิ่งขึ้นในอนาคต.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: setup linux python flask development virtual_environment package_manager testing unittest programming tutorial
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com