ในโลกของการเขียนโปรแกรม หนึ่งในพาราดายมสำคัญที่นักพัฒนาซอฟต์แวร์ต้องเรียนรู้คือการเขียนโปรแกรมเชิงอ็อบเจกต์ หรือ Object-Oriented Programming (OOP) ที่ให้ความสำคัญกับการสร้างโมเดลซอฟต์แวร์ผ่านอ็อบเจกต์ที่ประกอบด้วยข้อมูลและเมธอดสำหรับการจัดการข้อมูลเหล่านั้น ภาษา Python ถือเป็นหนึ่งในภาษาโปรแกรมมิ่งที่มีลักษณะเด่นคือ "ทุกสิ่งที่เป็นอ็อบเจกต์" แต่ก็ยังสามารถรองรับพาราดายมอื่นๆ เช่น การเขียนโปรแกรมเชิงโครงสร้างและเชิงฟังก์ชันได้
Python ถูกออกแบบมาให้เป็นภาษาที่รองรับ OOP เป็นอย่างดี ทุกองค์ประกอบใน Python เช่น ตัวเลข, เท็กซ์สตริง, รายการ, ไฟล์, และแม้กระทั่งฟังก์ชัน เป็นต้น ล้วนเป็นอ็อบเจกต์ที่มีคุณสมบัติและเมธอดของตัวเอง ตัวอย่างเช่น:
num = 10
print(num.bit_length()) # ผลลัพธ์จะเป็นขนาดของบิตที่ใช้ในการแทนค่า num
ในตัวอย่างข้างต้น `num` ถือเป็นอ็อบเจกต์ประเภทเลขจำนวนเต็ม (integer object) และ `bit_length` คือเมธอดหนึ่งที่เรียกร้องข้อมูลจากอ็อบเจกต์นี้
OOP ใน Python ช่วยให้นักพัฒนาสามารถสร้างโปรแกรมที่มีโครงสร้างและสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ ผ่านการทำงานของคลาส (class) และอินสแตนซ์ (instance) คลาสเป็นต้นแบบหรือพิมพ์เขียวที่ใช้สร้างอ็อบเจกต์ ในขณะที่อินสแตนซ์คืออ็อบเจกต์เฉพาะที่ถูกสร้างขึ้นจากคลาสนั้น ตัวอย่างเช่น:
class Dog:
def __init__(self, name):
self.name = name
def speak(self):
return f"{self.name} says Woof!"
d = Dog("Buddy")
print(d.speak()) # Buddy says Woof!
ที่นี่ `Dog` คือคลาสที่เราสร้างขึ้น และ `d` คืออินสแตนซ์ของ `Dog` สิ่งนี้เป็นหลักการพื้นฐานของ OOP ที่ช่วยให้การจัดการกับความซับซ้อนของซอฟต์แวร์เป็นเรื่องง่ายขึ้น
ถึงแม้ว่า Python จะเน้นที่ OOP แต่นักพัฒนาสามารถเลือกใช้รูปแบบการเขียนโปรแกรมอื่นๆ ได้ การเขียนโปรแกรมเชิงโครงสร้างเป็นการจัดสรรโค้ดเป็นชุดคำสั่งที่ตามหลักลำดับและการตัดสินใจต่างๆ เช่น เงื่อนไขหรือการวนซ้ำ ตัวอย่างเช่น:
def find_max(numbers):
max_number = numbers[0]
for number in numbers:
if number > max_number:
max_number = number
return max_number
numbers = [1, 9, 3, 4, 7]
print(find_max(numbers)) # ผลลัพธ์จะเป็น 9
การเขียนโปรแกรมเชิงฟังก์ชันเน้นที่การใช้ฟังก์ชันและการเคลื่อนโค้ดผ่านการเรียกฟังก์ชันแทน เช่น:
def get_multiples_of_five(numbers):
return list(filter(lambda x: x % 5 == 0, numbers))
numbers = range(1, 20)
print(get_multiples_of_five(numbers)) # ผลลัพธ์จะเป็น [5, 10, 15]
การเขียนโปรแกรมใน Python ปรากฏการณ์ที่เรียกว่า "การผสมหลายพาราดายม" (multi-paradigm) ซึ่งทำให้ Python เป็นภาษาที่โปรแกรมเมอร์หลายคนชื่นชอบเพราะมีความยืดหยุ่นและสามารถปรับใช้แนวทางที่เหมาะสมกับประเภทของโปรเจกต์หรือสไตล์การเขียนโค้ดของนักพัฒนาได้
โปรแกรมมิ่งยังเป็นดินแดนแห่งการเรียนรู้ที่ไม่สิ้นสุด การทำความเข้าใจหลากหลายพาราดายมในการเขียนโปรแกรมอาจฟังดูท้าทาย แต่ก็ให้โอกาสที่ดีในการพัฒนาทักษะและแก้ปัญหาข้อจำกัดในซอฟต์แวร์ในมุมมองที่หลากหลาย การเรียนรู้การฝึกโปรแกรมเมอร์หน้าใหม่หรือผู้ที่ต้องการขยายทักษะของตน คุณอาจพิจารณาชั้นเรียนโปรแกรมมิ่งที่สามารถช่วยได้ เช่นการเข้าร่วมหลักสูตรเรียนรู้ที่ EPT ซึ่งจะทำให้คุณได้รับองค์ความรู้และประสบการณ์แบบปฏิบัติงานจากผู้สอนที่มีคุณภาพและเชียวชาญด้านการเขียนโปรแกรมมากมาย ไม่ว่าคุณจะเป็นนักเรียนที่เริ่มต้นหรือมืออาชีพที่ต้องการเพิ่มทักษะ เรียนรู้เส้นทางแห่งการเป็นนักพัฒนาซอฟต์แวร์ผ่านลายมือของคุณเองในวันนี้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM