ในปัจจุบัน โลกของการพัฒนาเว็บไซต์เติบโตอย่างรวดเร็ว และหนึ่งในส่วนสำคัญที่ไม่สามารถมองข้ามได้คือ "Backend Development" หรือการพัฒนาด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นส่วนที่จัดการกับฐานข้อมูล, การประมวลผลธุรกรรม, และหลักการด้านความปลอดภัย ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึง 5 Backend Framework ที่ไม่เพียงแค่มีประสิทธิภาพ แต่ยังได้รับการแนะนำให้คุณเรียนรู้และใช้งานให้เชี่ยวชาญ
Express.js คือโครงสร้างพื้นฐานสำหรับการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันบน Node.js ด้วยความคล่องตัวและการทำงานที่รวดเร็ว ทำให้มันกลายเป็นหนึ่งในตัวเลือกยอดนิยมสำหรับนักพัฒนา หากคุณต้องการสร้าง REST API ที่มีประสิทธิภาพ, ต้องการการสนับสนุนจากส่วนขยายจำนวนมาก และอิสระในการเลือกสถาปัตยกรรมของแอปพลิเคชัน Express.js คือตัวเลือกที่ไม่ควรพลาด
ตัวอย่างการใช้งาน:
const express = require('express');
const app = express();
app.get('/', (req, res) => {
res.send('Hello World!');
});
app.listen(3000, () => {
console.log('Server is running on port 3000');
});
Django คือเฟรมเวิร์กที่เขียนด้วยภาษา Python และได้รับการออกแบบมาเพื่อการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันอย่างรวดเร็วและการรักษาความปลอดภัย ด้วยสโลแกน "The web framework for perfectionists with deadlines" Django มุ่งเน้นการทำให้นักพัฒนาสามารถทำงานได้โดยไม่ต้องเริ่มต้นทุกอย่างจากศูนย์ และให้การสนับสนุนในส่วนของการอัตโนมัติตามมาตรฐานอุตสาหกรรมได้เป็นอย่างดี
ตัวอย่างการใช้งาน:
from django.http import HttpResponse
def index(request):
return HttpResponse("Hello, world. You're at the polls index.")
Ruby on Rails เป็นอีกหนึ่งเฟรมเวิร์กที่ขึ้นชื่อการพัฒนาเว็บไซต์ด้วยความรวดเร็ว ถือเป็นสตานด์อาร์ดสำหรับการพัฒนาเว็บแอปพลิเคชันที่มี "Convention over Configuration" เป็นหลัก โดยนำเสนอแนวทางและมาตรฐานต่างๆ ให้นักพัฒนาทำตาม ช่วยให้เวลาในการพัฒนาลดลงและผลิตภัณฑ์มีคุณภาพสูง
ตัวอย่างการใช้งาน:
class WelcomeController < ApplicationController
def index
render text: "Hello, Rails!"
end
end
Flask เป็นเฟรมเวิร์กที่เรียบง่ายแต่ทรงพลังสำหรับภาษา Python มีความยืดหยุ่นสูงและเหมาะสำหรับนักพัฒนาที่ต้องการควบคุมแอปพลิเคชันอย่างเต็มที่ โดยไม่ต้องพึ่งพาส่วนประกอบภายนอกมากมาย Flask ให้คุณสร้างแอปพลิเคชันได้ตามที่คุณต้องการโดยไม่มีข้อจำกัดเรื่องโครงสร้าง
ตัวอย่างการใช้งาน:
from flask import Flask
app = Flask(__name__)
@app.route('/')
def hello_world():
return 'Hello, World!'
ASP.NET Core คือเฟรมเวิร์กการพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับภาษา C# จาก Microsoft ที่มีประสิทธิภาพสูงและรองรับการทำงานข้ามแพลตฟอร์ม ถือเป็นเฟรมเวิร์กที่เหมาะสำหรับการสร้างแอปพลิเคชันส่วนหลังที่ซับซ้อนเป็นอย่างดี โดยมีการสนับสนุนการทำงานในรูปแบบของ Cloud และ Microservice อย่างเต็มที่
ตัวอย่างการใช้งาน:
using Microsoft.AspNetCore.Mvc;
[ApiController]
[Route("[controller]")]
public class HelloController : ControllerBase
{
[HttpGet]
public string Get()
{
return "Hello, ASP.NET Core!";
}
}
เมื่อกล่าวถึงการเรียนรู้และการใช้งานเฟรมเวิร์กเหล่านี้ ทุกคนสามารถเริ่มต้นได้ไม่ยาก แต่การจะใช้งานเฟรมเวิร์กเหล่านี้ให้เชี่ยวชาญนั้นต้องการการฝึกฝนและประสบการณ์อย่างต่อเนื่อง ที่ EPT เรามีหลักสูตรต่างๆ ที่จะช่วยให้คุณเรียนรู้และเข้าใจหลักการพื้นฐานจนถึงระดับขั้นสูง พร้อมทั้งตัวอย่างการใช้งานจริงและโปรเจกต์ที่จะทำให้คุณได้ประยุกต์ใช้ความรู้อย่างเต็มที่ จากระยะเริ่มต้นจนถึงช่วงการเป็นมาสเตอร์ เราพร้อมและยินดีที่จะเดินทางไปกับคุณในโลกแห่งการเขียนโค้ดที่ไม่มีที่สิ้นสุดนี้!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM