การพัฒนาเว็บไซต์ในยุคปัจจุบันไม่เพียงแต่ต้องให้ความสำคัญกับหน้าตาและการออกแบบที่สวยงามเท่านั้น แต่ "ประสิทธิภาพ" ยังเป็นอีกหนึ่งปัจจัยสำคัญที่ Front End Developers ควรให้ความสนใจ เว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพสูงสามารถช่วยลดเวลาในการโหลดหน้าเว็บ ลดการใช้ทรัพยากรของเซิร์ฟเวอร์ และที่สำคัญคือสามารถสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ใช้งาน
ในบทความนี้ เราจะมาทำความรู้จักกับ 5 Performance Resources ที่จะช่วยให้ Front End Developers สามารถเพิ่มประสิทธิภาพของเว็บไซต์ได้โดยไม่ต้องลงแรงกายสิทธิ์มากนัก แต่ละเครื่องมือที่กล่าวมาเหล่านี้จะช่วยให้คุณสามารถวิเคราะห์และปรับปรุงประสิทธิภาพของเว็บไซต์ได้แบบเจาะลึก
PageSpeed Insights (PSI) เป็นเครื่องมือที่พัฒนาโดย Google มันช่วยวิเคราะห์เนื้อหาของหน้าเว็บและให้คำแนะนำเพื่อปรับปรุงความเร็วของหน้าเว็บนั้นๆ ด้วยการให้คะแนนแบ่งเป็นโมบายล์และเดสก์ท็อป นอกจากนี้ยังสามารถทำการเวเคราะห์โค้ดได้แบบเรียลไทม์และให้คำแนะนำที่เฉพาะเจาะจงเช่น การลดขนาดของ JavaScript หรือการปรับใช้งานแคชอย่างมีประสิทธิภาพ
Lighthouse คือเครื่องมือที่มาพร้อมกับ Chrome Developer Tools และสามารถใช้เพื่อวิเคราะห์หลายด้านของเว็บไซต์ รวมไปถึงประสิทธิภาพ ทำให้เป็นเครื่องมือที่ครอบคลุมเป็นอย่างมากสำหรับการพัฒนาเว็บ Lighthouse พิจารณาข้อเสนอแนะในการปรับปรุงต่างๆ เช่น การใช้ Lazy Loading สำหรับรูปภาพและกรอบวิดีโอ หรือการตรวจสอบการทำงานของ Progressive Web Apps (PWAs).
WebPageTest เป็นเครื่องมือทดสอบประสิทธิภาพที่ช่วยให้คุณสามารถทดสอบหน้าเว็บจากที่ต่างๆ ทั่วโลก โดยใช้เบราว์เซอร์และความเร็วการเชื่อมต่อที่หลากหลาย เครื่องมือนี้ช่วยให้คุณสามารถเห็นถึงปัจจัยต่างๆ ที่มีผลต่อความเร็วในการโหลดหน้าเว็บ และให้ข้อมูลในรูปแบบของ waterfall chart ที่ช่วยให้คุณวิเคราะห์ได้ลึกถึงข้อมูลแต่ละ request ที่เกิดขึ้น
Chrome DevTools นั้นมีคุณสมบัติที่หลากหลายที่ช่วยในการวิเคราะห์ประสิทธิภาพ เช่น Performance panel ที่ช่วยในการบันทึกและวิเคราะห์การทำงานของเว็บในระหว่างช่วงเวลาหนึ่งๆ และ Network panel ที่สามารถช่วยให้ดูข้อมูลการโหลดของแต่ละไฟล์ รวมไปถึงการเพิ่มค่าเวลาอ่านหรือการเปลี่ยนแปลงค่า latency เพื่อทำความเข้าใจเกี่ยวกับผลกระทบต่อโหลดเวลา
GTmetrix จัดให้เป็นหนึ่งในเครื่องมือทดสอบประสิทธิภาพเว็บไซต์ที่ง่ายต่อการใช้งาน มันแสดงสถานะของเว็บไซต์โดยให้คะแนนและกราฟฟิกรายละเอียดของการโหลดหน้าเว็บแต่ละอย่าง หน้าตาวิชวลของ GTmetrix ทำให้การวิเคราะห์ประสิทธิภาพหน้าเว็บเป็นเรื่องที่ง่ายและเข้าใจได้ทันที
การใช้งานเครื่องมือเหล่านี้ควบคู่ไปกับหลักการพิจารณาประสิทธิภาพตามมาตรฐาน เช่น การแยกโค้ดที่ไม่ใช่ส่วนหลักออกไป (Code Splitting), การใช้งาน Image Optimization, และการใช้งาน CDN เป็นต้น จะช่วยให้ Front End Developers สามารถสร้างเว็บไซต์ที่มีประสิทธิภาพสูงและตอบสนองต่อความต้องการของผู้ใช้ได้อย่างดีเยี่ยม
เมื่อพวกเราเป็นนักพัฒนา ความเข้าใจในเครื่องมือที่มีประโยชน์เหล่านี้และการนำไปปรับใช้กับการทำงานสามารถช่วยยกระดับความเป็นมืออาชีพและคุณภาพของผลงานให้สูงขึ้น ทุกรายละเอียดที่ปรับแต่งได้จะส่งผลต่อประสบการณ์ของผู้ใช้งาน และนี่ก็คือสิ่งที่สถาบันการศึกษาด้านการเขียนโปรแกรมอย่าง EPT (Expert-Programming-Tutor) ให้ความสำคัญและพยายามสอดแทรกให้กับนักเรียนทุกคน
การเรียนรู้และการนำไปสู่การปฏิบัติจริงเป็นสิ่งสำคัญในโลกของการพัฒนาเว็บไซต์ หากคุณกำลังมองหาที่จะเพิ่มทักษะและความรู้ในเรื่องเทคนิคต่างๆ สถาบันเช่น EPT อาจเป็นจุดเริ่มต้นที่ยอดเยี่ยม เพราะเราไม่เพียงสอนการเข้าใจความหลากหลายของเครื่องมือเหล่านี้เท่านั้น แต่ยังสอนการนำมันไปใช้และปรับแต่งในการทำงานจริง ซึ่งสามารถช่วยเพิ่มศักยภาพการแข่งขันและอาชีพของคุณให้โดดเด่นยิ่งขึ้นในอนาคต.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM