### Github กับ GitLab: ใครจะเป็นเครื่องมือช่วยเหลือนักพัฒนาได้ดีกว่ากัน?
ในยุคของการพัฒนาซอฟต์แวร์ที่โลกได้เปลี่ยนการทำงานจากการเขียนโค้ดในรูปแบบเดี่ยวเป็นการทำงานร่วมกันของทีมงานทั้งหลาย การควบคุมเวอร์ชั่น (Version Control) และการใช้เครื่องมือที่เข้าถึงได้ง่ายและมีประสิทธิภาพจึงกลายเป็นปัจจัยสำคัญในความสำเร็จของโปรเจ็กต์ต่างๆ Github และ GitLab คือสองบริการหลักที่ให้บริการด้านนี้ แต่เราจะเลือกใช้บริการไหนดีระหว่างสองตัวนี้? เรามาวิเคราะห์กันดีกว่าครับ!
#### Github: คืออะไร
Github เป็นแพลตฟอร์ม hosting สำหรับการเก็บรักษาโค้ดและการควบคุมเวอร์ชั่นด้วย Git ที่ได้รับความนิยมอย่างสูง มันถูกใช้โดยนักพัฒนาทั่วโลกในการเก็บโค้ดโปรเจ็กต์ เพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานแบบทีม และสนับสนุนการทำ Continuous Integration/Continuous Deployment (CI/CD). Github ยังมี features ที่หลากหลาย เช่น issue tracking, feature requests, และ wikis ที่ช่วยในการจัดการโปรเจ็กต์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ.
#### GitLab: คืออะไร
GitLab เช่นเดียวกันเป็นแพลตฟอร์มที่ให้บริการเก็บโค้ดและการควบคุมเวอร์ชั่นด้วย Git แต่มันมีลักษณะเป็น all-in-one platform มากกว่า หมายความว่า นอกจากจะให้บริการเหมือน Github แล้ว GitLab ยังมี built-in CI/CD, การจัดการแพ็คเกจและรองรับการทดสอบแบบ end-to-end ทำให้เหมาะกับองค์กรที่ต้องการ streamline กระบวนการทั้งหมดในโปรเจ็กต์.
#### เปรียบเทียบข้อดีข้อเสีย
##### Github:
- มีชุมชนของนักพัฒนาที่ใหญ่และแข็งแกร่ง ทำให้หาตำราหรือคู่มือได้ง่าย
- การรวมตัวของโอเพ่นซอร์สโปรเจ็กต์จำนวนมาก ทำให้การหาความร่วมมือทำได้ง่าย
- อินเทอร์เฟซที่เข้าใจง่าย
- รองรับการทำงานแบบ DevOps และ CI/CD
- Marketplace ที่มากมายเพื่อต่อยอดการทำงานของโปรเจ็กต์
- โปรแกรม free tier มีการจำกัดความสามารถในบางส่วน
- สำหรับองค์กรขนาดใหญ่อาจมีต้นทุนการใช้งานที่สูง
##### GitLab:
- All-in-one CI/CD ที่ทำให้ง่ายต่อการตั้งค่าและใช้งาน
- ตัวเลือก Private Repositories ไม่จำกัดสำหรับทุกแพลน
- ฟีเจอร์การทดสอบและประเมินผลแบบครบวงจร
- การรวมระบบโค้ดเข้ากับการทำงานแบบ Agile และการจัดการ issue
- ชุมชนนักพัฒนาและการรับรองจากโอเพ่นซอร์สอาจไม่หลากหลายเท่า Github
- อาจมีความซับซ้อนในการตั้งค่าที่มากกว่าสำหรับนักพัฒนาใหม่
#### Usecase และ Sample Code
เพื่อที่จะทำให้เข้าใจได้ง่ายขึ้น เราจะเอาจริงเอาจังกับการใช้งาน Git ทั้งสองบริการนี้ผ่าน usecase เบื้องต้น:
สมมติว่าคุณเป็นนักพัฒนาที่ต้องการแบ่งปันโปรเจ็กต์โอเพ่นซอร์สของตัวเองกับชุมชน คุณสามารถสร้าง repository บน Github และเริ่มต้น push โค้ดของคุณ โดยใช้คำสั่งเช่น:
git init
git add .
git commit -m "Initial commit"
git remote add origin [your-repository-url]
git push -u origin master
องค์กรของคุณต้องการควบคุม workflow ของ CI/CD ในการทำงานของทีมพัฒนาเพื่อให้มั่นใจว่าทุกคนสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างลงตัว คุณสามารถใช้ GitLab สำหรับการจัดสรรงานการทดสอบและการปฏิบัติงานอัตโนมัติ:
# .gitlab-ci.yml
stages:
- build
- test
- deploy
build_job:
stage: build
script:
- echo "Building the project..."
test_job:
stage: test
script:
- echo "Running tests..."
deploy_job:
stage: deploy
script:
- echo "Deploying the project..."
#### สรุป
ทั้ง Github และ GitLab มีข้อดีข้อเสียของตัวเอง แต่ทั้งสองก็ล้วนมีความสามารถในการช่วยให้นักพัฒนาทำงานร่วมกันได้ดีขึ้น การเลือกใช้บริการไหนอาจขึ้นอยู่กับความต้องการของโปรเจ็กต์ ขนาดของทีม และงบประมาณที่มีอยู่ ทั้งหมดนี้ก็เพื่อประสิทธิผลในการพัฒนาซอฟต์แวร์ของคุณให้ลุล่วงอย่างราบรื่น
หากคุณต้องการเรียนรู้การใช้งาน Git และเครื่องมือที่เกี่ยวข้อง เพื่อเป็นพื้นฐานที่ดีในการทำงานกับ Github หรือ GitLab, EPT – Expert Programming Tutor มีหลักสูตรที่ครอบคลุมทุกแง่มุมที่คุณต้องการสำหรับการเป็นนักพัฒนาโปรแกรมมิ่งที่เชี่ยวชาญ อย่าลืมว่าการเรียนรู้คือการลงทุนที่ดีที่สุดสำหรับอาชีพของคุณ!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM