Software Architecture หรือ สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ คือกรอบความคิดและโครงสร้างพื้นฐานที่ช่วยให้เราเข้าใจและจัดการความซับซ้อนของระบบซอฟต์แวร์ได้ดีขึ้น ไม่ต่างจากที่สถาปนิกจะออกแบบโครงสร้างของอาคารให้มีความมั่นคง ทนทาน และปฏิบัติงานได้อย่างเหมาะสม ในโลกของการพัฒนาซอฟต์แวร์ เราจะทำเช่นเดียวกันกับโค้ดของเรา
โดยพื้นฐานแล้ว สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ประกอบด้วย Components หรือ ส่วนประกอบพื้นฐาน เช่น ฐานข้อมูล, API, เซิร์ฟเวอร์ และอื่นๆ Connectors หรือ ตัวเชื่อมต่อที่รวมส่วนประกอบเหล่านี้เข้าด้วยกัน และ Constraints หรือ ข้อจำกัดที่กำหนดพฤติกรรมของระบบ
ประโยชน์อันแรกคือช่วยให้เราจัดการกับความซับซ้อนของระบบได้ดียิ่งขึ้น เราสามารถแบ่งปัญหาใหญ่ได้เป็นปัญหาย่อยๆ ทำให้ง่ายต่อการพิจารณา และถัดไปคือทำให้ระบบของเรามีความยืดหยุ่น สามารถปรับเปลี่ยนหรือขยายขนาดได้ตามความจำเป็น โดยไม่กระทบระบบโดยรวมอย่างมีนัยสำคัญ และท้ายที่สุดคือช่วยให้การทำงานร่วมกันระหว่างทีมพัฒนาซอฟต์แวร์เป็นไปอย่างมีระบบระเบียบมากขึ้น แต่ละคนสามารถทำงานในส่วนที่รับผิดชอบได้อย่างชัดเจน
เพื่อให้เห็นภาพในการนำไปใช้งานจริง ลองพิจารณาแอปพลิเคชัน E-Commerce ซึ่งต้องจัดการกับผู้ใช้ สินค้า และระบบการชำระเงิน เป็นต้น ด้วยสถาปัตยกรรมที่ดี เราสามารถออกแบบให้ระบบฐานข้อมูลสำหรับจัดเก็บข้อมูลผู้ใช้แยกต่างหากจากระบบสินค้าและการชำระเงิน ทำให้สามารถปรับเปลี่ยนหรือปรับปรุงส่วนใดส่วนหนึ่งโดยไม่กระทบส่วนอื่น เช่น การเพิ่มวิธีการชำระเงินใหม่ๆ
ซึ่งนี่คือตัวอย่างของการใช้ Pattern ที่เรียกว่า Microservices ในสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ ที่ช่วยให้แต่ละบริการสามารถทำงานอย่างอิสระ และยังทำให้สามารถนำทีมพัฒนาผู้เชี่ยวชาญด้านต่างๆ เข้ามาร่วมแก้ปัญหาเฉพาะด้านได้โดยตรง
// ตัวอย่างโค้ดสำหรับ service ของระบบสินค้า Product Service ในรูปแบบง่ายๆ
const express = require('express');
const app = express();
// นี่เป็นเพียงตัวอย่างของ product endpoint
app.get('/products', (req, res) => {
// จากนี้ไปควรเชื่อมต่อกับฐานข้อมูลโดยจริง และการจัดการโลจิก
res.send('List of products');
});
app.listen(3000, () => {
console.log('Product service is running');
});
Software Architecture ไม่ใช่เรื่องที่ซับซ้อนเกินความเข้าใจ แต่ต้องการความเข้าใจที่ลึกและการปฏิบัติที่จริงจัง เพื่อพัฒนาฝีมือในการออกแบบสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์ที่เหมาะสมสำหรับแต่ละโปรเจ็ค
ที่โรงเรียนสอนการเขียนโปรแกรม EPT ของเรา นักเรียนจะได้เรียนรู้หลักการออกแบบสถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์อย่างเป็นทางการ รวมถึงโอกาสในการประยุกต์ใช้ความรู้นี้กับโปรเจ็กต์จริง เพื่อสร้างประสบการณ์และความเข้าใจที่สามารถนำไปใช้ในสถานการณ์ต่างๆ ของการพัฒนาซอฟต์แวร์ได้อย่างคล่องแคล่ว ไม่ว่าในทุกความท้าทายที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
สรุปได้ว่า สถาปัตยกรรมซอฟต์แวร์เป็นเสมือนกรอบผังที่ไม่เพียงทำให้เราเข้าใจระบบได้ดีขึ้น แต่ยังช่วยในการตัดสินใจที่มีลักษณะเฉพาะสำหรับแต่ละโปรเจ็ค การศึกษาและประยุกต์ใช้สถาปัตยกรรมที่เหมาะสมจะเป็นกุญแจสำคัญในการสร้างซอฟต์แวร์ที่มีคุณภาพและมีความยืดหยุ่นสูง พร้อมรับมือกับความท้าทายใหม่ๆได้อย่างไม่สะดุด ด้วยเหตุนี้ ที่ EPT เราขอเรียกร้องให้นักพัฒนาใหม่ๆหันมาให้ความสนใจในสาขาวิชาที่เป็นรากฐานสำคัญนี้ เพื่อที่จะก้าวไปสู่ความเป็นมืออาชีพในวิชาการเขียนโปรแกรมได้อย่างแท้จริง!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM