# การใช้งาน Class และ Instance ในภาษา TypeScript โดยง่ายพร้อมตัวอย่าง Code
การเขียนโปรแกรมคืองานศิลปะที่ผสมผสานระหว่างความคิดสร้างสรรค์และตรรกะ และในภาษา TypeScript ซึ่งเป็นภาษาที่มีพื้นฐานมาจาก JavaScript นั้น การใช้ `class` และการสร้าง `instance` คือหนึ่งในแนวคิดหลักที่จะช่วยให้เราออกแบบโปรแกรมที่มีโครงสร้างที่ดีและสามารถนำไปใช้งานได้หลากหลายในโลกจริง เริ่มกันเลยดีกว่า!
ใน TypeScript, `class` เป็นโครงสร้างหลักที่ใช้ในการกำหนดรูปแบบของ object ที่ต้องการสร้างขึ้น มันเปรียบเสมือนโครงสร้างของบ้านที่บอกว่าจะต้องมีห้องไหนบ้าง ประตูสีอะไร หน้าต่างกี่บาน เป็นต้น ซึ่งในโลกโปรแกรมมิ่ง เรากำหนดคุณสมบัติ (properties) และความสามารถ (methods) ของ object ใน `class` เพื่อให้ทุก `instance` ที่ถูกสร้างมาจาก `class` นั้นมีรูปแบบที่สอดคล้องกัน
`Instance` คือ object ที่ถูกสร้างขึ้นจาก `class`. นึกถึงบ้านที่ถูกสร้างตามโครงสร้างที่ `class` ระบุไว้ แต่ละบ้านที่ถูกสร้างขึ้น (instances) สามารถตกแต่งและมีผู้อาศัยที่แตกต่างกัน ในโปรแกรมมิ่ง นี่หมายความว่าแม้ `instances` จะมีคุณสมบัติเหมือนกัน แต่ค่าเฉพาะของแต่ละ `instance` สามารถแตกต่างกันได้
class Car {
brand: string;
model: string;
year: number;
constructor(brand: string, model: string, year: number) {
this.brand = brand;
this.model = model;
this.year = year;
}
displayDetails() {
console.log(`This is a ${this.year} ${this.brand} ${this.model}.`);
}
}
// การสร้าง instance ของ Class Car
const myCar = new Car('Toyota', 'Corolla', 2021);
myCar.displayDetails();
ในตัวอย่างนี้เราสร้าง `class` ชื่อว่า `Car` ที่มีคุณสมบัติเป็นแบรนด์ รุ่น และปีที่ผลิต และมีวิธีการที่สามารถแสดงรายละเอียดของรถได้ภายใต้เมธอด `displayDetails`.
class Car {
// Previous code ...
startEngine() {
console.log(`The ${this.model} engine has started.`);
}
}
const myCar = new Car('Honda', 'Civic', 2020);
myCar.displayDetails();
myCar.startEngine();
ที่นี่เราได้เพิ่มเมธอด `startEngine` ลงไปใน `class Car` ซึ่งช่วยให้ทุก `instance` ของ `Car` สามารถเริ่มต้นเครื่องยนต์ได้.
class Car {
brand: string;
model: string;
year: number = 2022; // กำหนดค่าเริ่มต้นให้กับ year
constructor(brand: string, model: string, year?: number) {
this.brand = brand;
this.model = model;
if (year) {
this.year = year;
}
}
// Rest of the code ...
}
const defaultCar = new Car('Mazda', '3');
console.log(defaultCar);
ในตัวอย่างนี้เรากำหนดค่าเริ่มต้นของปีที่ผลิตเป็น 2022 หากไม่มีการระบุค่าปีที่ผลิตมา รถที่สร้างจะมีปีเป็น 2022 โดยอัตโนมัติ.
ในการใช้งานจริง เราอาจจะพบกับ `class` ในการสร้างระบบจัดการผู้ใช้งานภายในแอปพลิเคชัน, การพัฒนาเกม (อาทิเช่น `class` สำหรับตัวละครหรือ NPCs) หรือแม้แต่ในการพัฒนาการจัดการฐานข้อมูล ทั้งนี้ `class` และการสร้าง `instance` ประหยัดเวลาและทำให้โค้ดของเราดูเป็นระเบียบมากขึ้น
คุณเห็นไหมว่าการเข้าใจ `class` และ `instance` สามารถช่วยให้คุณออกแบบโปรแกรมได้อย่างมีระบบ เพื่อให้ทำงานได้ดี นี่เป็นเพียงรากฐานที่น่าจับตามองเท่านั้น ภายในห้องเรียนที่ EPT คุณจะได้เรียนรู้แนวคิดเหล่านี้ลึกซึ้งยิ่งขึ้น พร้อมทั้งศึกษาวิธีการใช้งานในรูปแบบต่างๆ คอยติดตามและเปิดประตูสู่โลกแห่งการเขียนโปรแกรมไปพร้อมกันเลยที่ EPT!
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM