# 5 IDE สำหรับเขียนโปรแกรมบน Arduino แบบง่ายๆ พร้อมตัวอย่างการใช้งานและข้อดีข้อเสียของแต่ละอัน
Arduino กลายเป็นแพลตฟอร์มที่โดดเด่นสำหรับผู้ที่ต้องการพัฒนาโปรเจกต์ด้านอิเล็กทรอนิกส์ ด้วยความที่ Arduino สามารถให้ผู้ใช้ได้วางอุปกรณ์ต่อพ่วงหลากหลายประเภทและมีตัวอย่างโค้ดที่เป็นประโยชน์มากมาย หนึ่งในกุญแจสำคัญที่ทำให้ Arduino ได้รับความนิยมคือการมี Integrated Development Environments (IDEs) ที่ใช้งานง่าย แต่ละ IDE มีลักษณะเฉพาะและฟีเจอร์ที่ตอบสนองความต้องการของผู้พัฒนาแตกต่างกันไป ในบทความนี้เราจะพูดถึง 5 IDE ที่นิยมสำหรับการเขียนโปรแกรมบน Arduino และข้อดีข้อเสียของแต่ละอันพร้อมตัวอย่างการใช้งานที่จะช่วยให้ท่านได้เห็นภาพจริงของการใช้ IDE เหล่านี้ในการพัฒนาโปรเจกต์ Arduino ของท่าน
ข้อดี
: Arduino IDE เป็น IDE ที่เป็นที่ยอมรับและนิยมใช้มากที่สุด มีความเรียบง่ายและใช้งานได้ทั่วไปมีห้องสมุด( Libraries) และตัวอย่างโค้ดมากมายข้อเสีย
: มันมีฟังก์ชันการพัฒนาที่จำกัดเมื่อเทียบกับ IDE ที่มีคุณสมบัติเพิ่มเติม ไม่มีการช่วยเขียนโค้ดอัจฉริยะมากนักตัวอย่างการใช้งาน
:
void setup() {
pinMode(LED_BUILTIN, OUTPUT);
}
void loop() {
digitalWrite(LED_BUILTIN, HIGH);
delay(1000);
digitalWrite(LED_BUILTIN, LOW);
delay(1000);
}
โค้ดข้างต้นคือการกระพริบ LED ที่ติดตั้งในบอร์ด Arduino ซึ่งเป็นตัวอย่างเบื้องต้นที่ทำให้เห็นถึงความเรียบง่ายในการเขียนโค้ดด้วย Arduino IDE.
ข้อดี
: รองรับการพัฒนาบนหลายแพลตฟอร์มและเวอร์ชันใหม่ของไลบรารีอีกทั้งยังรองรับการทำงานร่วมกับระบบควบคุมเวอร์ชันเช่น Gitข้อเสีย
: การตั้งค่าเริ่มต้นซับซ้อนกว่า Arduino IDE และอาจทำให้ผู้เริ่มต้นรู้สึกท่วมท้นตัวอย่างการใช้งาน
: ตัวอย่างที่ใช้ PlatformIO นั้นมีความคล้ายคลึงกับ Arduino IDE แต่มักจะทำงานในสภาพแวดล้อมของผู้พัฒนามืออาชีพมากขึ้น หากคุณต้องการทราบเพิ่มเติม PinMode และ DigitalWrite เหมือนกับตัวอย่าง Arduino IDE ยังคงใช้ได้เช่นเดียวกัน.
ข้อดี
: สำหรับผู้ที่ต้องการลงลึกในระดับไมโครคอนโทรเลอร์ของ Arduino (AVR chips) Atmel Studio ให้ความสามารถในการดีบักขั้นสูงและตัวเลือกการโปรแกรมระดับต่ำข้อเสีย
: ไม่สามารถใช้งานกับโค้ด Arduino โดยตรงได้และจำเป็นต้องมีความรู้เกี่ยวกับ C/C++ ระดับสูงกว่า
ข้อดี
: มีความสามารถเกือบจะเทียบเท่ากับ IDE ระดับมืออาชีพ มีการช่วยเขียนโค้ดอัจฉริยะ เครื่องมือดีบักและการควบคุมเวอร์ชันที่แข็งแกร่งข้อเสีย
: ต้องการการตั้งค่าเพิ่มเติมและการติดตั้ง Extension ก่อนที่จะเริ่มใช้งานได้อย่างเต็มที่ตัวอย่างการใช้งาน
: เราสามารถใช้โค้ดเดียวกับใน Arduino IDE ได้ แต่จะได้รับประโยชน์จาก linter, code completion, และโครงสร้างโปรเจกต์ที่ช่วยให้การจัดการโค้ดใหญ่ๆ ง่ายขึ้น.
ข้อดี
: เหมาะสำหรับการพัฒนาที่ซับซ้อนและมีเครื่องมือที่มีประสิทธิภาพสำหรับการดีบักและปรับแต่งโค้ดข้อเสีย
: มีการตั้งค่าที่ซับซ้อนและอาจไม่เหมาะสำหรับผู้เริ่มต้นหรือโปรเจกต์ขนาดเล็กแต่ละ IDE มีจุดเด่นและจุดอ่อนของตัวเอง และควรเลือกใช้ IDE ที่ตรงกับความต้องการของโปรเจกต์และระดับทักษะของผู้พัฒนา ไม่ว่าคุณจะเป็นมือใหม่หรือมืออาชีพ การเขียนโปรแกรมสำหรับ Arduino เป็นงานที่กระตุ้นให้เราเรียนรู้และสร้างสรรค์โปรเจกต์ที่น่าตื่นตาตื่นใจ ในขณะที่บทความนี้ไม่ได้เชิญชวนท่านโดยตรงให้ศึกษาด้านการเขียนโค้ดที่ EPT แต่ความรู้และข้อมูลที่นำเสนอได้อย่างยอดเยี่ยมอาจทำให้ท่านมีแรงบันดาลใจที่จะศึกษาและพัฒนาทักษะการเขียนโค้ดอย่างมืออาชีพต่อไป.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: arduino_ide platformio atmel_studio visual_studio_code eclipse ides programming microcontroller development_environment coding arduino_programming code_examples arduino_projects programming_tools integrated_development_environments
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com