# MariaDB กับ MySQL แตกต่างกันอย่างไร
ในโลกแห่งการพัฒนาเว็บและแอปพลิเคชัน ฐานข้อมูลเป็นปัจจัยหลักที่ไม่สามารถมองข้ามได้ และเมื่อพูดถึงระบบจัดการฐานข้อมูลแบบเปิด (Open-Source Database Management Systems) แน่นอนว่า MySQL และ MariaDB นับเป็นสองชื่อที่โดดเด่นและได้รับการพูดถึงอย่างมาก แต่ทว่าหลายคนยังมีข้อสงสัยว่าทั้งสองนี้ต่างกันอย่างไร ในบทความนี้ เราจะไขปริศนานี้ด้วยการวิเคราะห์ทั้งด้านเทคนิคและประโยชน์ใช้สอย เพื่อให้คุณเข้าใจและเลือกใช้งานตามความต้องการของแอปพลิเคชันของคุณได้อย่างเหมาะสม
ก่อนที่เราจะไปดูความแตกต่าง มาทบทวนประวัติศาสตร์สั้นๆ ของทั้งสองระบบกันก่อน MariaDB ถูกสร้างขึ้นโดยผู้ก่อตั้ง MySQL หลังจากที่ MySQL ถูกซื้อโดย Sun Microsystems ในปี 2008 ซึ่งต่อมาได้ถูก Oracle ซื้อต่อในปี 2010 ทีมพัฒนา MariaDB เคยเป็นส่วนหนึ่งของ MySQL และพวกเขาต้องการรักษาจิตวิญญานของฐานข้อมูลแบบ Open Source ทำให้ MariaDB ไม่เพียงแค่เป็นการต่อยอดจาก MySQL แต่ยังเป็นการรักษาความเป็นอิสระในการพัฒนาไปในทิศทางที่ผู้ก่อตั้งมองเห็น
ทางด้านของความแตกต่างทางเทคนิค MariaDB พัฒนาไปในรูปแบบของการเป็น Drop-in Replacement สำหรับ MySQL ซึ่งหมายความว่าสามารถแทนที่ MySQL ได้โดยตรงโดยไม่ต้องเปลี่ยนแปลงแอปพลิเคชันที่ใช้งานอยู่ อย่างไรก็ตาม มีการเพิ่มเติมคุณสมบัติใหม่ เช่น การ storage engines ประเภทใหม่อย่าง Aria และ TokuDB รวมไปถึงการปรับปรุงคำสั่ง SQL และฟังก์ชันบางอย่างที่ไม่มีใน MySQL ทำให้ MariaDB มีประสิทธิภาพและคุณสมบัติที่ล้ำหน้าไปบ้างในบางด้าน
สถิติและประสิทธิภาพ
MariaDB มุ่งมั่นในการเป็นฐานข้อมูลที่เร็วและเสถียรกว่า MySQL และได้แสดงให้เห็นผ่านการทดสอบ Benchmark ในหลายครั้ง ตัวอย่างเช่น MariaDB สามารถจัดการกับการสืบค้นข้อมูลเร็วกว่าในบางสถานการณ์ ทำให้สามารถเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของระบบแอปพลิเคชันได้ดี
ความคงทนและการขยายสมรรถนะ
ขณะที่ MySQL มุ่งเน้นการทำงานในระบบขนาดใหญ่และมีความเข้มข้น สำหรับ MariaDB นั้นพัฒนาระบบการจัดการที่เหมาะสมกับการใช้งานทั้งขนาดเล็กและขนาดใหญ่ และก็มีตัวเลือกสำหรับการขยายระบบเพิ่มเติมในการจัดการข้อมูลที่หลากหลาย
บริษัทและองค์กรต่างๆ ได้เลือกใช้ MariaDB และ MySQL มากมาย ตามความต้องการของแอปพลิเคชันและความสะดวกในการเปลี่ยนแปลงระบบที่มีอยู่ ตัวอย่างเช่น WordPress ซึ่งเป็นระบบจัดการเนื้อหา (Content Management System - CMS) ก็สามารถใช้งานได้ทั้งสองฐานข้อมูลโดยไม่มีปัญหา
สำหรับโปรแกรมเมอร์ที่ต้องการติดตั้งและสร้างฐานข้อมูลใน MariaDB ตัวอย่างคำสั่งเบื้องต้นอาจเป็นแบบนี้:
CREATE DATABASE my_database;
USE my_database;
CREATE TABLE users (
id INT PRIMARY KEY AUTO_INCREMENT,
username VARCHAR(255) UNIQUE NOT NULL,
created_at TIMESTAMP DEFAULT CURRENT_TIMESTAMP
);
โค้ดด้านบนสามารถใช้ใน MySQL ได้เช่นกัน แต่หากคุณต้องการใช้คุณสมบัติเฉพาะที่มีใน MariaDB เช่นการใช้งาน engine Aria คุณอาจต้องเพิ่มบางส่วนเข้าไปในการสร้างตาราง เช่น:
CREATE TABLE users (
...
) ENGINE=Aria TRANSACTIONAL=1;
ดังที่เราได้เห็น MariaDB และ MySQL มีความคล้ายคลึงกันมาก แต่ก็มีความแตกต่างที่สำคัญในด้านของคุณสมบัติและการปรับปรุงทางเทคนิค เลือกใช้ตามความเหมาะสมกับความต้องการและบริบทของโปรเจกต์ ซึ่งทั้งสองตัวเลือกนี้ล้วนมีจุดเด่นที่สามารถตอบโจทย์การพัฒนาแอปพลิเคชันของคุณได้
และถ้าหากคุณต้องการพัฒนาทักษะด้านการจัดการฐานข้อมูลหรือการเขียนโปรแกรมให้ถึงขีดความสามารถสูงสุด การเรียนในสถาบันที่มีวิทยากรที่เชี่ยวชาญเช่นที่ Expert-Programming-Tutor (EPT) ถือเป็นตัวเลือกที่ยอดเยี่ยมที่จะขับเคลื่อนทั้งความรู้และประสบการณ์การทำงานของคุณไปอีกระดับ
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
Tag ที่น่าสนใจ: mariadb mysql open_source_database_management_systems drop-in_replacement storage_engines sql_commands performance_benchmark scalability content_management_system database_creation sql_programming aria_engine technical_differences history_of_mariadb_and_mysql
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM
Copyright (c) 2013 expert-programming-tutor.com. All rights reserved. | 085-350-7540 | 084-88-00-255 | ntprintf@gmail.com