Object-Oriented Programming หรือ OOP เป็นรูปแบบการเขียนโปรแกรมที่ได้รับความนิยมอย่างมากในวงการพัฒนาซอฟต์แวร์ แนวคิดนี้มุ่งเน้นไปที่การสร้างโค้ดที่จำลองสถานการณ์จริงผ่านการเขียนโปรแกรมในรูปแบบของ objects ที่มีการโต้ตอบกัน
ความเข้าใจพื้นฐานของ OOP สามารถถูกแบ่งออกเป็นสี่หลักการหลัก ได้แก่:
1. Encapsulation 2. Abstraction 3. Inheritance 4. Polymorphism
Encapsulation เป็นหลักการที่ทำให้รายละเอียดการทำงานภายในของ object นั้นถูกแยกและปกป้องไม่ให้ส่วนอื่นๆภายนอกเข้าถึงได้ง่าย หลักการนี้ช่วยให้โค้ดมีความปลอดภัยมากขึ้น ไม่มีการโต้ตอบกันระหว่างส่วนที่ไม่เกี่ยวข้อง, ลดความซับซ้อนและช่วยในการบำรุงรักษาโค้ด (maintenance)
public class BankAccount {
private double balance;
public void deposit(double amount) {
if(amount > 0) {
balance += amount;
}
}
public double getBalance() {
return balance;
}
}
Abstraction ช่วยให้นักพัฒนาสามารถซ่อนรายละเอียดที่ซับซ้อนได้ โดยแสดงเฉพาะคุณสมบัติและการโต้ตอบที่จำเป็นกับผู้ใช้ เปรียบเสมือนว่าคุณกำลังใช้รีโมตควบคุมทีวีโดยไม่ต้องรู้ขั้นตอนวิธีทำงานภายในของวงจรทีวีนั้นๆ
public abstract class Vehicle {
public abstract void turnOn();
public void move() {
// generic move instructions
}
}
Inheritance หรือการสืบทอดช่วยให้สามารถสร้างโค้ดโดยอาศัยโค้ดที่มีอยู่แล้วเป็นพื้นฐานโดยไม่ต้องเขียนใหม่จากต้น สามารถสืบทอดคุณสมบัติ (properties) และพฤติกรรม (methods) จาก class หลัก หรือ superclass
public class Car extends Vehicle {
@Override
public void turnOn() {
// specific turn on instructions for a car
}
}
Polymorphism เป็นความสามารถที่เมธอดเดียวกันสามารถมีพฤติกรรมที่แตกต่างกันได้โดยอาศัย object หรือ context ที่โค้ดนั้นถูกเรียกใช้ หมายความว่า method สามารถทำงานได้คนละวิธีขึ้นอยู่กับ object ที่เรียกใช้
public interface Shape {
void draw();
}
public class Circle implements Shape {
public void draw() {
System.out.println("Drawing a circle.");
}
}
public class Square implements Shape {
public void draw() {
System.out.println("Drawing a square.");
}
}
การประยุกต์ใช้ OOP ในโปรแกรมมิ่งช่วยให้โค้ดมีระเบียบและสามารถนำกลับมาใช้ซ้ำได้ (reusability), ทำให้สามารถจัดการกับความซับซ้อนของโปรเจกต์ขนาดใหญ่ได้ดียิ่งขึ้น, และช่วยปรับปรุงในเรื่องของการทำงานเป็นทีม ซึ่งทำให้แต่ละ module หรือ class สามารถพัฒนาโดยอิสระแต่ยังรักษาการสื่อสารและการทำงานร่วมกันได้
เพื่อการเรียนรู้เกี่ยวกับ OOP ที่ต่อเนื่อง และค้นพบประโยชน์ในการประยุกต์ไปยังโปรเจกต์ของคุณเอง การพิจารณาเรียนรู้ที่สถาบันสอนการเขียนโปรแกรมที่มีคุณภาพ อย่าง EPT สามารถช่วยให้คุณได้รับความรู้ และประสบการณ์อย่างมืออาชีพในการใช้ OOP ไปสู่การพัฒนาซอฟต์แวร์ของจริงอย่างมีประสิทธิผล
การทำความเข้าใจและการใช้งาน OOP นั้นมีความสำคัญอย่างมากในโลกของการซอฟต์แวร์, การทำความเข้าใจทั้งสี่หลักการนี้ไม่เพียงแต่จะทำให้โค้ดของคุณดีขึ้นเท่านั้น แต่ยังช่วยให้คุณทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย และนี่คือเหตุผลที่ OOP ถือเป็นพื้นฐานสำคัญในการเข้าใจการพัฒนาซอฟต์แวร์ในปัจจุบัน.
หมายเหตุ: ข้อมูลในบทความนี้อาจจะผิด โปรดตรวจสอบความถูกต้องของบทความอีกครั้งหนึ่ง บทความนี้ไม่สามารถนำไปใช้อ้างอิงใด ๆ ได้ ทาง EPT ไม่ขอยืนยันความถูกต้อง และไม่ขอรับผิดชอบต่อความเสียหายใดที่เกิดจากบทความชุดนี้ทั้งทางทรัพย์สิน ร่างกาย หรือจิตใจของผู้อ่านและผู้เกี่ยวข้อง
หากเจอข้อผิดพลาด หรือต้องการพูดคุย ติดต่อได้ที่ https://m.me/expert.Programming.Tutor/
หากมีข้อผิดพลาด/ต้องการพูดคุยเพิ่มเติมเกี่ยวกับบทความนี้ กรุณาแจ้งที่ http://m.me/Expert.Programming.Tutor
085-350-7540 (DTAC)
084-88-00-255 (AIS)
026-111-618
หรือทาง EMAIL: NTPRINTF@GMAIL.COM